คอลัมนิสต์

พรรคโลก 2 ใบ ‘จุรินทร์’ ปลุกผีตัวเดิม ‘เฉลิมชัย’ บ้านใหญ่อะไหล่แท้

พรรคโลก 2 ใบ ‘จุรินทร์’ ปลุกผีตัวเดิม ‘เฉลิมชัย’ บ้านใหญ่อะไหล่แท้

05 เม.ย. 2567

เฉาะแผนฝ่ายค้านโลกงง จุรินทร์ผนึกชวน ฟื้นวาทกรรมเก่าพรรคคนโกง เฉลิมชัย นำพลพรรคบ้านใหญ่ ลบอดีตผีทักษิณ ขอเริ่มต้นใหม่

พรรคโลก 2 ใบ จุรินทร์ผนึกชวน ฟื้นวาทกรรมเก่าพรรคคนโกง เฉลิมชัย พร้อมพลพรรคบ้านใหญ่ ซุ่มเงียบเหมือนรอจังหวะเปลี่ยนเกม 


23 ปีแห่งความหลัง เงาสงครามตัวแทน พรรคคนใต้-ทักษิณ ฉายซ้ำ 2 วัน แต่ประชาธิปัตย์ ยุคบ้านใหญ่คิดต่าง ได้เวลาลบอดีตลืมรอยแค้น


สองวันในการอภิปรายทั่วไป พรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ เหมือนมี สส.ในพรรคแค่ 2 คนคือ ชวน หลีกภัย และจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ 
 

มองในมิติเกมสภาแบบเดิม ทั้งชวน และจุรินทร์ สอบผ่านในฐานะฝ่ายค้านมืออาชีพ ควักมีดโกนกรีดแผลรัฐบาลเศรษฐา ได้ใจกองเชียร์ แต่สองผู้อาวุโสค่ายสีฟ้าโชคร้าย ที่มีข่าว ปชป.เตรียมเข้ารัฐบาลก่อนวันเปิดอภิปราย 1 วัน


ด้วยเหตุนี้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จึงเปิดวิวาทะร้อนว่าด้วยรัฐมนตรีโลกเซ็ง-ฝ่ายค้านโลกงง 


“ผมขอฝากไว้ว่าท่านอย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงง วันหนึ่งก็จะเป็นฝ่ายค้าน อีกวันก็มีข่าวว่าจะขอเข้าร่วมรัฐบาล ผมกลัวพี่น้องประชาชนจะงงมากกว่า”


แม้นายกฯเศรษฐา จะยืนยันเสียงแข็งว่า รัฐบาล 314 เสียง มีเสถียรภาพ จึงไม่จำเป็นต้องดึงพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาล และไม่รู้ว่า มีการเจรจากับใคร จึงมีข่าวแพร่กระจายไปทั่ว

พรรคบ้านใหญ่สีฟ้า
ความเชื่อเรื่องพรรค ปชป.จะเข้าร่วมรัฐบาลเศรษฐานั้น มีมูลมาจาก 2 กรณีคือ เดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา นำ สส. 16 คน โหวตเห็นชอบเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 22 ส.ค. 2566


เดชอิศม์ได้อธิบายว่า พวกเขาส่วนใหญ่เป็น สส.ใหม่ ที่ไม่ได้ผ่านสงครามวาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ VS พรรคคนดี’ จึงไม่รับรู้เรื่องราวความแค้นของคนรุ่นเก่า


อีกกรณีหนึ่งคือ โครงสร้างพรรค ปชป.ในปัจจุบัน ที่มี เฉลิมชัย เป็นหัวหน้าพรรค เดชอิศม์ เป็นเลขาธิการพรรค และชัยชนะ รองหัวหน้าพรรค ได้พลิกโฉมจากพรรคอนุรักษนิยม เป็นพรรคบ้านใหญ่


สส.ภูธร 21 คนในสายของ เฉลิมชัย-เดชอิศม์ มีลักษณะของ สส.บ้านใหญ่ ได้รับเลือกเป็น สส. ด้วยทรัพยากรและฐานเสียงของตัวเอง ไม่ใช่กระแสพรรค


ดังนั้น 4 สส.อย่าง ชวน หลักภัย, บัญญัติ บรรทัดฐาน, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และสรรเพชญ บุญญามณี ลูกชายนิพนธ์ บุญญามณี จึงกลาย เป็นตัวแทน ปชป.แบบดั้งเดิม

 

เฉลิมชัย ศรีอ่อน ผู้นำพรรค ปชป.ยุคบ้านใหญ่

 

ผีระบอบทักษิณ
การเลือกตั้งทั่วไป 6 ม.ค. 2544 เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้กติกาใหม่เขตเดียวเบอร์เดียว ชวน หลีกภัย ที่มีบาดแผลจากการรัฐบาลชวนเชื่องช้า นำพาพรรค ปชป. ลงสู้กับทักษิณ ชินวัตร นำพรรคไทยรักไทย ที่มีความสดใหม่ พร้อมนวัตกรรมการเมืองเชิงนโยบาย


พรรคไทยรักไทยสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ ได้ สส. 248 ที่นั่ง และพรรค ปชป.ได้ 128 ที่นั่ง 


ปี 2548 ทักษิณได้ระดม สส.บ้านใหญ่เกือบทุกซุ้มเข้ามาอยู่ใต้ร่มธงไทยรักไทย เหลือเพียงบรรหาร ศิลปะอาชา, วัฒนา อัศวเหม และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์


ปีนี้ พรรค ทรท.กวาด สส.ไป 377 ที่นั่ง ส่วนพรรค ปชป. เหลือเพียง 96 ที่นั่ง ส่วน พล.ต.สนั่น ที่แยกจาก ปชป.ไปตั้งพรรคมหาชน ประสบความพ่ายแพ้ยับเยิน


กระทั่ง สนธิ ลิ้มทองกุล จุดประกายการต่อสู้กับระบอบทักษิณ ทำให้พรรค ปชป.กระโจนโหนกระแสต้านระบอบทักษิณ จนทำให้จำนวน สส.เพิ่มขึ้น ทั้งในปี 2550 และปี 2554


ท่ามกลางสงครามแดง-เหลือง สถานการณ์พัดพาให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ ปชป.เติบโตไปมากกว่านี้


จากปี 2550-2557 พรรค ปชป. ชูวาทกรรมต้านระบอบทักษิณ จนกลายเป็นตัวแทนขั้วอนุรักษนิยม ลบภาพพรรคเสรีนิยม คัดค้านเผด็จการทหารในอดีต


เลือกตั้งปี 2562 อภิสิทธิ์ พยายามจะนำ ปชป.หวนกลับไปสู่การเป็นพรรคเสรีนิยมคัดค้านเผด็จการทหาร ด้วยการชูแคมเปญไม่เอา 3 ป. กลับกลายเป็นว่า โหวตเตอร์ไม่เล่นด้วย ทิ้ง ปชป.ไปเลือกพรรคพลังประชารัฐ 


เลือกตั้งปี 2566 จุรินทร์-เฉลิมชัย นำทัพสู้ศึกสไตล์บ้านใหญ่ใจถึง จำนวน สส.ลดลงเหลือแค่ 25 ที่นั่ง ส่งผลให้ตกอยู่ในสภาพโลก 2 ใบในพรรคเดียวกัน