คอลัมนิสต์

ตัวละครลับ ‘หม่องชิดตู่’ เจ้าพ่อกะเหรี่ยง ‘เมียวดี’ ศึกนี้ป้องทุนจีนสีเทา

ตัวละครลับ ‘หม่องชิดตู่’ เจ้าพ่อกะเหรี่ยง ‘เมียวดี’ ศึกนี้ป้องทุนจีนสีเทา

08 เม.ย. 2567

ศึกป้องทุนจีนสีเทา หม่องชิดตู่ ผู้นำกะเหรี่ยงบีจีเอฟ เจ้าพ่อเมียวดี หวังต่อรองมินอ่องหล่าย ไฟเขียวเคเอ็นยูยึดเมือง หนีอาญาพี่ใหญ่จีน

เปิดตัวละครลับ หม่องชิดตู่ ผู้นำกะเหรี่ยงบีจีเอฟ เจ้าพ่อเมียวดีตัวจริง ผู้เปิดทางกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ยึดหัวเมืองด่านหน้าแนวรบตะวันตก 


สงครามปกป้องอาณาจักรทุนจีนสีเทา หม่องชิดตู่ ทิ้งมินอ่องหล่าย หันไปจูบปากกะเหรี่ยงเคเอ็นยู เพื่อรักษาหม้อข้าวเมียวดี-ชเวโก๊กโก่


เมียะวะตี่ หรือเมียวดี หัวเมืองชายแดนเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ตกเป็นข่าวดัง เมื่อกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู (KNU/KNLA) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) บุกเข้ายึดเมืองสำเร็จ ส่งผลให้ทหารเมียนมา และครอบครัวประมาณ 1,000 คน ยอมมอบตัว 
 

เบื้องต้น สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ได้เข้ามาควบคุมพื้นที่เมืองเมียวดี ยกเว้นพื้นที่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ และเคเคปาร์ค ที่อยู่ในการดูแลของทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นเอ หรือบีจีเอฟเดิม


จริงๆ แล้ว ตัวละครลับในยุทธการยึดเมียวดี ก็คือ พ.อ.ซอ ชิด ตู่ หรือคนไทยชอบเรียกว่า ‘หม่องชิดตู่’ ผู้นำกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ (KNA) และผู้บังคับการกองบัญชาการควบคุมที่ 3 กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) พื้นที่ จ.เมียวดี และ จ.กอกะเร็ก


หม่องชิดตู่ ยังเป็นผู้ดูแลและควบคุมเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ หรืออาณาจักรทุนสีเทา ริมแม่น้ำเมย ตรงข้าม อ.แม่สอด และ อ.แม่ระมาด จ.ตาก


กองทัพกะเหรี่ยงของหม่องชิดตู่ ที่วางกำลังตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา มีประมาณ 7,000-9,000 คน เป็นกะเหรี่ยงที่นับถือศาสนาพุทธ 


อนึ่ง กะเหรี่ยงบีจีเอฟคือ อดีตกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) ที่แยกตัวออกมาจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) เมื่อหลายสิบปีก่อน

ศึกพิทักษ์ทุนจีนสีเทา
จุดเปลี่ยนของแนวรบตะวันตก-เมียวดีคือ หม่องชิดตู่ ประกาศแยกตัวจาก พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย และเปลี่ยนชื่อกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง หรือกะเหรี่ยงบีจีเอฟ (Karen BGF) เป็นกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ หรือกะเหรี่ยงเคเอ็นเอ (KNA)


ด้วยเหตุนี้ กองทัพกะเหรี่ยงเคเอ็นเอ จึงเปิดทางให้ทหารกองพลที่ 6 สังกัดกองทัพเคเอ็นยู เข้ายึดเมืองเมียวดีได้อย่างง่ายดาย


สาเหตุที่หม่องชิดตู่ แตกคอกับมินอ่องหล่าย เพราะทางการจีนมีนโยบายกวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์ของกลุ่มทุนจีนสีเทา โดยเริ่มจากชายแดนจีน-เมียนมา ด้านรัฐฉาน 


เมื่อจีนปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองเลาก์ก่าย เขตโกก้างเสร็จสิ้นแล้ว ได้กดดันให้มินอ่องหล่าย ปราบปรามแก๊งทุนจีนสีเทา ที่เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง


พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เรียก พ.อ.ซอชิดตู่ ให้เดินทางไปพบที่กรุงเนปิดอว์ เพื่อพูดคุยเรื่องปราบแก๊งทุนจีนสีเทาที่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ เมียวดี 


หม่องชิดตู่ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมไปพบมินอ่องหล่าย และในที่สุด หม่องชิดตู่ ก็ประกาศแยกทางกับกองทัพเมียนมา โดยอ้างเรื่องการต่อสู้เพื่อรัฐเอกราช


แท้จริงแล้ว หม่องชิดตู่ ไม่ต้องการเสียผลประโยชน์ในเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ และเกรงจะติดกับดักทหารเมียนมา ถูกจับตัวส่งให้ทางการจีนไปดำเนินคดีข้อหาก่ออาชญากรรมไซเบอร์

 

หม่องชิดตู่ ตัวละครสำคัญในศึกยึดเมียวดี

 

เมืองหลวงแก๊งไซเบอร์
เมียวดี ไม่ใช่แค่เป็นเมืองหน้าด่านประตูการค้า ด้านหนึ่งมีกลุ่มทุนจีนได้เข้ามาลงทุนสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เรียกว่า ชเวโก๊กโก่ โดยทหารเมียนมา มอบให้กะเหรี่ยงบีจีเอฟ(BGF) เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ในชเวโก๊กโก่


กองบัญชาการควบคุมที่ 3 ของกะเหรี่ยงบีจีเอฟ โดยการนำของหม่องชิดตู่ จึงทำหน้าที่ควบคุมธุรกิจสีเทา โดยเฉพาะอาชญากรรมไซเบอร์ของกลุ่มคนจีนด้วย


เป็นที่รู้กันว่า ในเมืองเมียวดี มีบ่อนการพนันมากกว่า 300 แห่ง และทุกแห่งล้วนได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการจากหม่องชิดตู่ ซึ่งบ่อนเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในพื้นที่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่, เมืองใหม่เคเคปาร์ค, ย่านแม่ต่อตะเล, อ.วาเลย์ ฯลฯ

 


ดังนั้น สงครามยึดเมียวดีในครั้งนี้ จึงมีหลายมิติ มีทั้งเรื่องการต่อสู้เพื่อการก่อตั้งรัฐเอกราชบนแผ่นดินกะเหรี่ยง และเรื่องการปกป้องขุมทรัพย์ทุนจีนสีเทาในเมียวดี