ตัวละครลับ ‘หม่องชิดตู่’ เจ้าพ่อกะเหรี่ยง ‘เมียวดี’ ศึกนี้ป้องทุนจีนสีเทา
ศึกป้องทุนจีนสีเทา หม่องชิดตู่ ผู้นำกะเหรี่ยงบีจีเอฟ เจ้าพ่อเมียวดี หวังต่อรองมินอ่องหล่าย ไฟเขียวเคเอ็นยูยึดเมือง หนีอาญาพี่ใหญ่จีน
เปิดตัวละครลับ หม่องชิดตู่ ผู้นำกะเหรี่ยงบีจีเอฟ เจ้าพ่อเมียวดีตัวจริง ผู้เปิดทางกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ยึดหัวเมืองด่านหน้าแนวรบตะวันตก
สงครามปกป้องอาณาจักรทุนจีนสีเทา หม่องชิดตู่ ทิ้งมินอ่องหล่าย หันไปจูบปากกะเหรี่ยงเคเอ็นยู เพื่อรักษาหม้อข้าวเมียวดี-ชเวโก๊กโก่
เมียะวะตี่ หรือเมียวดี หัวเมืองชายแดนเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ตกเป็นข่าวดัง เมื่อกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู (KNU/KNLA) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) บุกเข้ายึดเมืองสำเร็จ ส่งผลให้ทหารเมียนมา และครอบครัวประมาณ 1,000 คน ยอมมอบตัว
เบื้องต้น สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ได้เข้ามาควบคุมพื้นที่เมืองเมียวดี ยกเว้นพื้นที่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ และเคเคปาร์ค ที่อยู่ในการดูแลของทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นเอ หรือบีจีเอฟเดิม
จริงๆ แล้ว ตัวละครลับในยุทธการยึดเมียวดี ก็คือ พ.อ.ซอ ชิด ตู่ หรือคนไทยชอบเรียกว่า ‘หม่องชิดตู่’ ผู้นำกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ (KNA) และผู้บังคับการกองบัญชาการควบคุมที่ 3 กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) พื้นที่ จ.เมียวดี และ จ.กอกะเร็ก
หม่องชิดตู่ ยังเป็นผู้ดูแลและควบคุมเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ หรืออาณาจักรทุนสีเทา ริมแม่น้ำเมย ตรงข้าม อ.แม่สอด และ อ.แม่ระมาด จ.ตาก
กองทัพกะเหรี่ยงของหม่องชิดตู่ ที่วางกำลังตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา มีประมาณ 7,000-9,000 คน เป็นกะเหรี่ยงที่นับถือศาสนาพุทธ
อนึ่ง กะเหรี่ยงบีจีเอฟคือ อดีตกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) ที่แยกตัวออกมาจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) เมื่อหลายสิบปีก่อน
ศึกพิทักษ์ทุนจีนสีเทา
จุดเปลี่ยนของแนวรบตะวันตก-เมียวดีคือ หม่องชิดตู่ ประกาศแยกตัวจาก พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย และเปลี่ยนชื่อกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง หรือกะเหรี่ยงบีจีเอฟ (Karen BGF) เป็นกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ หรือกะเหรี่ยงเคเอ็นเอ (KNA)
ด้วยเหตุนี้ กองทัพกะเหรี่ยงเคเอ็นเอ จึงเปิดทางให้ทหารกองพลที่ 6 สังกัดกองทัพเคเอ็นยู เข้ายึดเมืองเมียวดีได้อย่างง่ายดาย
สาเหตุที่หม่องชิดตู่ แตกคอกับมินอ่องหล่าย เพราะทางการจีนมีนโยบายกวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์ของกลุ่มทุนจีนสีเทา โดยเริ่มจากชายแดนจีน-เมียนมา ด้านรัฐฉาน
เมื่อจีนปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองเลาก์ก่าย เขตโกก้างเสร็จสิ้นแล้ว ได้กดดันให้มินอ่องหล่าย ปราบปรามแก๊งทุนจีนสีเทา ที่เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง
พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เรียก พ.อ.ซอชิดตู่ ให้เดินทางไปพบที่กรุงเนปิดอว์ เพื่อพูดคุยเรื่องปราบแก๊งทุนจีนสีเทาที่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ เมียวดี
หม่องชิดตู่ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมไปพบมินอ่องหล่าย และในที่สุด หม่องชิดตู่ ก็ประกาศแยกทางกับกองทัพเมียนมา โดยอ้างเรื่องการต่อสู้เพื่อรัฐเอกราช
แท้จริงแล้ว หม่องชิดตู่ ไม่ต้องการเสียผลประโยชน์ในเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ และเกรงจะติดกับดักทหารเมียนมา ถูกจับตัวส่งให้ทางการจีนไปดำเนินคดีข้อหาก่ออาชญากรรมไซเบอร์
เมืองหลวงแก๊งไซเบอร์
เมียวดี ไม่ใช่แค่เป็นเมืองหน้าด่านประตูการค้า ด้านหนึ่งมีกลุ่มทุนจีนได้เข้ามาลงทุนสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เรียกว่า ชเวโก๊กโก่ โดยทหารเมียนมา มอบให้กะเหรี่ยงบีจีเอฟ(BGF) เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ในชเวโก๊กโก่
กองบัญชาการควบคุมที่ 3 ของกะเหรี่ยงบีจีเอฟ โดยการนำของหม่องชิดตู่ จึงทำหน้าที่ควบคุมธุรกิจสีเทา โดยเฉพาะอาชญากรรมไซเบอร์ของกลุ่มคนจีนด้วย
เป็นที่รู้กันว่า ในเมืองเมียวดี มีบ่อนการพนันมากกว่า 300 แห่ง และทุกแห่งล้วนได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการจากหม่องชิดตู่ ซึ่งบ่อนเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในพื้นที่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่, เมืองใหม่เคเคปาร์ค, ย่านแม่ต่อตะเล, อ.วาเลย์ ฯลฯ
ดังนั้น สงครามยึดเมียวดีในครั้งนี้ จึงมีหลายมิติ มีทั้งเรื่องการต่อสู้เพื่อการก่อตั้งรัฐเอกราชบนแผ่นดินกะเหรี่ยง และเรื่องการปกป้องขุมทรัพย์ทุนจีนสีเทาในเมียวดี