พลิกเกมสู้ ‘มินอ่องหล่าย’ เอาคืนยึด ‘เมียวดี’ พึ่งมาเฟียกะเหรี่ยง
ชายแดนร้อน มินอ่องหล่าย ฮึดสู้ เมียวดีไม่แตก ทหารเมียนมาค่ายสุดท้ายไม่ยอมแพ้กะเหรี่ยงเคเอ็นยู แม่ทัพโซวินสั่งเคลื่อนทัพใหญ่
เกมพลิก มินอ่องหล่าย ฮึดสู้ เมียวดีไม่แตก ทหารเมียนมาค่ายสุดท้ายไม่ยอมแพ้กะเหรี่ยงเคเอ็นยู แม่ทัพโซวินสั่งเคลื่อนทัพใหญ่บุกเอาคืน
ไฟสงครามชายแดนส่อยืดเยื้อ ตัวแปร หม่องชิตตู่ กะเหรี่ยงบีจีเอฟขอเป็นกลาง ไม่เลือกข้างกะเหรี่ยงเคเอ็นยู-มินอ่องหล่าย
หลังทหารกองพล 6 กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNLA) และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน(PDF) บุกยึดค่ายทหารเมียนมา รอบตัวเมืองเมียวดี ก็มีข่าว ‘เมียวดีแตก’ หรือ ‘เคเอ็นยูยึดเมียวดี’ ดังกระฉ่อนโลก
เกมสงครามทำท่าว่าจะจบด้วยชัยชนะของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) แต่กองพันทหารราบที่ 275 ค่ายผาซอง ซึ่งหน่วยทหารเมียนมาฐานสุดท้าย ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเมียวดี 3-4 ก.ม. ไม่ยอมวางอาวุธ ตามข้อเสนอของ KNU
ดังนั้น ทหาร KNLA/KNU ร่วมกับ PDF จึงบุกตีฐานทหารกองพัน 275 ที่มีกำลังพลประมาณ 300 นาย ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. จนถึงวันที่ 10 เม.ย. 2567
ทหารเมียนมากองพัน 275 ได้ปักหลักสู้ด้วยปืน ค.120 ประสานกอง ทัพอากาศเมียนมา ส่งเครื่องบินรบมาสนับสนุน โดยมีการทิ้งระเบิดรอบฐานทั้งกลางวันและกลางคืน
มีข้อน่าสังเกต ในชั่วโมงนี้ พ.อ.ซอ ชิดตู่ ผบ.กองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ(KNA) หรืออดีตกะเหรี่ยงบีจีเอฟ ประกาศขอวางเป็นกลาง ทั้งที่สองวันก่อน หม่องชิดตู่ เสนอตัวเป็นคนกลางประสานทหารเมียนมาให้มอบตัวต่อกะเหรี่ยงเคเอ็นยู
แม่ทัพใหญ่สั่งลุย
สัญญาณ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ(SAC) เตรียมจะทวงคืนเมืองเมียวดี เริ่มเห็นได้ชัดจากการที่ พล.อ.อาวุโส โซวิน รองประธาน SAC รอง ผบ.สส. และ ผบ.ทบ. เดินทางมายังกองบัญชาการกองทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่เมืองมะละแหม่ง รัฐกะเหรี่ยง
กองทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่รับผิดชอบคือ รัฐกะเหรี่ยง และรัฐมอญ โดยมีที่ตั้งกอง บก.อยู่ในเมืองมะละแหม่ง ห่างจากเมืองเมียวดี 43 ก.ม.
พล.อ.โซวิน เป็นผู้นำหมายเลข 2 รองจาก พล.อ.มินอ่องหล่าย ซึ่งการลงมาประจำการที่เมืองมะละแหม่ง ได้ปลุกขวัญกำลังใจแม่ทัพนายกองในแนวหน้า
ประเมินสถานการณ์แล้ว พล.อ.โซวิน จะต้องยึด จ.กอกะเร็ก เพื่อคุมถนนสายเอเชีย เมียวดี-กอกะเร็ก-ผาอัน เป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและยุทโธปกรณ์
แน่นอน ทหารกะเหรี่ยง KNU และ PDF จะต้องขัดขวางด้วยรูปแบบสงครามจรยุทธ์ และมีแนวโน้มสงครามจะยืดเยื้อ
มาเฟียกะเหรี่ยง
อย่างที่ทราบกัน ตัวละลับในศึกเมียวดีคือ หม่องชิดตู่ หรือ พ.อ.ซอ ชิดตู่ อดีต ผบ.กองพลที่ 3 กะเหรี่ยงบีจีเอฟ ซึ่งปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ(KNA)
วันที่ 4 เม.ย. 2567 หม่องชิดตู่ สั่งถอนทหารออกจากรอบเมืองเมียวดี และไปรวมตัวกันที่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ ดูเหมือนตอนแรก หม่องชิดตู่ จะเปิดไฟเขียวให้ทหาร KNU/KNLA ยกทัพเข้าเมืองเมียวดีโดยง่ายดาย
กลางเดือน ม.ค. 2567 หม่องชิดตู่ ผู้นำกะเหรี่ยง BGF ประกาศตัดความสัมพันธ์กับ SAC โดยไม่ขอรับเงินเดือน และการสนับสนุนทุกชนิดจากกองทัพเมียนมาอีกต่อไป
สืบเนื่องจากกองทัพเมียนมา กดดันให้หม่องชิดตู่ กวาดล้างสแกมเมอร์ อาชญากรรมไซเบอร์ ทำให้เขาอดรนทนไม่ได้ จึงขอแยกทาง
วันที่ 23 ม.ค.นี้ พล.อ.อาวุโส โซวิน เดินทางมาเมืองผาอัน เพื่อประชุมร่วมกับนายทหารระดับคุมกำลังของ BGF โดยมี พ.อ.ซอ ชิดตู่ เข้าร่วมประชุมด้วย
พล.อ.โซวิน พยายามเกลี้ยกล่อมให้ BGF เปลี่ยนใจกลับมาร่วมกันกองทัพพม่าอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากนายทหาร BGF กลุ่มสายแข็ง
ล่าสุด มีรายงานว่า หม่องชิดตู่ ได้นำตัวนายทหารเมียนหลายนาย ที่ถูกทหาร KNU คุมตัวจากค่ายทหารชานเมืองเมียวดี ไปส่งมอบให้ พล.อ.โซวิน ที่เมืองมะละแหม่ง
สาเหตุที่หม่องชิดตู่ ไม่เลือกข้าง เพราะเขามีผลประโยชน์มหาศาลในเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ และเมืองใหม่เคเค พาร์ค ฉะนั้น หม่องชิดตู่ จึงขอเป็นผู้ชมในสงครามชิงเมียวดี