หว่านดิจิทัลวอลเล็ต ‘เศรษฐา’ คู่ขนาน ‘ทักษิณ’ ล้างภาพขวาใหม่
เรือธงวิ่งฉิว เศรษฐา ได้ฤกษ์หว่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทสอดประสานทักษิณ รีแบรนด์เพื่อไทย ดิ้นหนีภาพลบอนุรักษนิยมใหม่
อภิมหาประชานิยม เศรษฐา ได้ฤกษ์หว่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทสอดประสานทักษิณ รีแบรนด์เพื่อไทย ดิ้นหนีอนุรักษนิยมใหม่
เศรษฐาโล่งอก เรือธงดิจิทัลวอลเล็ตวิ่งฉิว พร้อมแจกเงินหมื่นปลายปีนี้ บังเอิญช่วงนั้น มีการเลือกตั้งท้องถิ่น สมรภูมินายก อบจ.ทั่วไทย
สัปดาห์ที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ตัวจริงประกาศรีแบรนด์พรรค สลัดทิ้งภาพอนุรักษนิยมใหม่ ปัดฝุ่นแบรนด์เก่าไทยรักไทย พรรคแนวทางปฏิรูป
วันที่ 10 เม.ย. 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวใหญ่ แจกเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet นโยบายเรือธงของรัฐบาล โดยตั้งเป้าแจก 50 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ เรือธงดิจิทัลวอลเล็ตเกือบไปไม่รอด เนื่องจากพรรคเพื่อไทยวางแผนจะกู้เงิน 5 แสนล้านบาท มีเสียงท้วง เสียงขู่จากองค์กรอิสระ โดยเฉพาะข้อแนะนำของ ป.ป.ช.
อย่างไรก็ตาม เพื่อไทยจะให้เรือธงลำนี้ล่มไม่ได้ จึงต้องปรับแผนใหม่จากกู้เงิน มาเป็นใช้เงินงบประมาณอย่างเดียว
ไม่เสี่ยงกู้เงิน 5 แสนล้าน
ย้อนหลังไป 2-3 เดือนที่ผ่านมา นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลเพื่อไทย ตกอยู่ในอาการกลับไม่ได้ไปไม่ถึง หลังนายกฯเศรษฐา เดินหน้าเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท
พลันที่มีการปรับเปลี่ยนแผนใหม่จากเงินกู้ มาใช้เงินงบประมาณ 5 แสนล้านบาททั้งก้อน ซึ่งแหล่งงบประมาณทั้งหมด แบ่งเป็น 3 ส่วน
1.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 152,700 ล้านบาท
2.ใช้เงินจากมาตรา 28 ของ ธ.ก.ส. วงเงิน 172,300 ล้านบาท
3.บริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 175,000 ล้านบาท
ไทม์ไลน์แจกเงิน เริ่มจากประชาชนและร้านค้า ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไตรมาส 3 ปี 2567 และได้ใช้จ่ายไตรมาส 4 ปี 2567
ในมิติทางการเมือง ไตรมาส 4 ปี 2567 เป็นช่วงครบวาระขอบนายก อบจ.ทั่วประเทศ และ กกต. คงดำเนินการเลือกตั้งนายก อบจ.ในช่วงเดือน ก.พ.2568
หากชาวบ้านได้ใช้เงินหมื่นปลายปีนี้ ย่อมมีผลดีต่อกลุ่มผู้สมัครนายกอบจ. ในเครือข่ายเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล
สมรภูมินายก อบจ. เป็นยกแรกของยุทธศาสตร์สกัดแผนท้องถิ่นสีส้ม หากพรรคสีส้มไม่ได้นายก อบจ.แม้แต่จังหวัด ก็ถือว่า ทักษิณประสบชัยชนะ
ต้องล้างภาพขวาใหม่
ในที่ประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาส่งสัญญาณชัดๆ ว่า ไม่ใช่อนุรักษนิยมใหม่
“ผมบอกได้เลยว่า ไม่ได้อยู่ในดีเอ็นเอของพรรคเพื่อไทยหรือไทยรักไทย ว่าจะเป็นพรรคอนุรักษนิยม แต่พรรคเพื่อไทยจริงๆ สร้างมาจากไทยรักไทยเป็นพรรคที่รีฟอร์มหรือเป็นพรรคผู้นำในการเปลี่ยนแปลง”
สำทับด้วยอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า เพื่อไทยไม่ใช่อนุรักษนิยมใหม่ เป็นพรรคผู้นำในการเปลี่ยนแปลง
ทักษิณต้องเร่งสปีดสลัดทิ้งข้อกล่าวหาขวาใหม่ ด้วยคำว่า รีฟอร์ม พร้อมจะพุ่งทะยานสู่สถานะความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
หากทำสิ่งนี้ไม่สำเร็จ ก็ไม่มีวันเอาชนะพรรคสีส้ม ไม่ว่าจะมีชื่อพรรคว่าอะไรในการเลือกตั้งครั้งหน้า
อีสานโพล สำรวจความเห็นไตรมาส 1/2567 พบคะแนนนิยม ก้าวไกล เพิ่มขึ้นจาก 35.1% เป็น 47.4% สวนทางเพื่อไทย ลดลงจาก 45.7% เหลือ 40.7% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/2566 นี่เป็นกระจกสะท้อนภาพความจริง
แฟนคลับผู้ภักดีแบรนด์ทักษิณในอีสาน กำลังจะเปลี่ยนอย่างขนานใหญ่ หากเพื่อไทยไม่เอาจริงเอาจังกับภาพลักษณ์แบรนด์ที่ติดลบ
ทักษิณนิ่งเฉยไม่ได้ ปฏิบัติการรีแบรนด์เพื่อไทย ด้วยการย้อนเวลาหาไทยรักไทยยุครีฟอร์ม
การต่อสู้ในเชิงกลยุทธ์สื่อสารการเมือง พรรคทักษิณ จะเป็นนักปฏิรูปหรือนักอนุรักษนิยม ยังไม่เพียงพอต่อการชิงแต้มที่หายไปกลับคืนมา
ดังนั้น อภิมหาประชานิยม ‘ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท’ จึงต้องเกิดขึ้นให้ได้ เพราะความสำเร็จในอดีตของไทยรักไทย ก็คือ มนต์รักประชานิยม