พึ่งนายใหญ่ ‘เศรษฐา’ ปรับ ครม.เด้งเด็ก ‘เจ๊แดง’ เขย่าบ้านใหญ่อีสาน | คมชัดลึก

ครม.องศาเดือด เศรษฐา เคาะปรับ ครม.หลังสงกรานต์ เสนาบดีสายเจ๊แดง แห่หนีร้อนมาพึ่งเย็นบ้านจันทร์ส่องหล้า หวังขอบารมีนายใหญ่

สงกรานต์จบ มีกระแสข่าว 4 รัฐมนตรีเพื่อไทยเก้าอี้หาย เศรษฐาเอาแน่โดยเฉพาะเกรียง-ไชยา ตัวตึงสายอีสาน ค่ายเจ๊แดง ขาสั่นเข่าทรุด

พลันที่ เศรษฐา ทวีสิน ประกาศนับหนึ่งของการเริ่มต้นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2567 เท่ากับบรรลุเป้า หมายเรือธงลำแรก ที่จะทำแต้มกู้กระแสนิยมที่ตกต่ำให้กลับคืนมาได้
 

นโยบายเรือธงเพื่อไทย ดิจิทัลวอลเล็ต ยังคงยืนยันเพดานสูงสุด แจกเงินหมื่นบาทครอบคลุมประชาชน 50 ล้านคน ในวงเงินงบประมาณ 5 แสนล้านบาท

ยกภูเขาออกจากอกกรณีดิจิทัลวอลเล็ต หลังจากนี้ เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะผู้นำรัฐบาล คงจะให้อำนาจปรับ ครม. เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลมีประสิทธิภาพ และสร้างผลงานให้ประชาชนยอมรับ

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 เม.ย. 2567 ในรายการ Nation Insight ที่ดำเนินรายการโดย สมชาย มีเสน และวีระศักดิ์ พงศ์อักษร สองบรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น ร่วมวิเคราะห์ ‘ครม.ร้อน หลังสงกรานต์’ โดยคาดการณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรีเศรษฐาว่า มีแนวโน้มจะร่นเวลาปรับ ครม. มาเป็นช่วงหลังสงกรานต์ วันที่16-18 เม.ย.นี้

แน่นอนการปรับ ครม.เที่ยวนี้ จะไม่มีการดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วม เนื่องจากพรรค ปชป.ยังไม่มีความเป็นเอกภาพ และจำนวนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลยังมีเสถียรภาพ

เบื้องต้น ในส่วนของพรรคเพื่อไทย มีทั้งการปรับออก ปรับย้าย โดยรัฐมนตรี ที่ส่อหลุดจากเก้าอี้ ประกอบไปด้วย สุทิน คลังแสง  รมว.กลาโหม, พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย และไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์

ถ้าเป็นไปตามกระแสข่าวข้างต้นนี้ เสนาบดีที่ต้องขีดเส้นใต้สองเส้นคือ เกรียง กัลป์ตินันท์ และไชยา พรหมา เพราะรู้กันทั้งพรรคเพื่อไทย สองรายนี้โควต้าเจ๊ใหญ่-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์

วิ่งตามนายใหญ่
หลายคนคงจำได้ ช่วงทักษิณ ชินวัตร กลับไปเยี่ยมบ้านที่เชียงใหม่ ในช่วงกลางเดือน มี.ค. 2567 มีรัฐมนตรีหลายคนไปต้อนรับนายใหญ่

หนึ่งในนั้นคือ เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ที่ไปเดินตามขบวนอดีตนายกฯทักษิณ ตั้งแต่วันแรกๆ จนวันสุดท้าย

วันที่ 15 มี.ค. 2567 สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้จัดงานงานเลี้ยงต้อนรับทักษิณ ที่หมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งในวันนั้น นายกฯเศรษฐา และรัฐมนตรีอีกหลายคนได้ไปร่วมงานด้วย

เกรียง กัลป์ตินันท์ ก็ไม่พลาดที่จะนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับอดีตนายกฯทักษิณ และไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ตามมาสมทบในวันดังกล่าว

ว่ากันว่า ช่วงจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา มีรายชื่อเกรียง และไชยา หลุดเข้ามาเป็นแคนดิเดต รมช.ในโค้งสุดท้าย ด้วยการผลักดันของเจ๊ใหญ่

 

 

 

เสนาบดีต่างตอบแทน
ปัจจุบัน พรรคเพื่อไทย มี สส.อีสาน 73 คน จาก สส.ทั้งหมด 141 คน สมัยที่ฟอร์ม ครม.เศรษฐา กลางปีที่แล้ว หากว่ากันตามโควตารัฐมนตรีที่เพื่อไทย ได้มา 15-16 เก้าอี้ ก็ต้องมี 8 เก้าอี้เป็นของ สส.อีสาน หากคิดตามคณิตศาสตร์การเมือง

เอาเข้าจริง เพื่อไทยภาคอีสาน ได้มาแค่ 6 เก้าอี้ แบ่งได้ตามนี้

อีสานใต้ตอนล่าง ได้ 2 เก้าอี้คือ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอีเอส และสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา

อีสานใต้ตอนบน 1 เก้าอี้คือ เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย

อีสานกลาง 1 เก้าอี้คือ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม

อีสานเหนือ 2 เก้าอี้คือ มนพร เจริญศรี รมช.พาณิชย์ และไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ 

ถ้าปรับ ครม.หลังสงกรานต์ โควตาภาคอีสาน เก้าอี้รัฐมนตรีหายไป 2 ตำแหน่งคือ เกรียง และไชยา โดยไม่มีคนเข้ามาแทนที่ ก็เชื่อว่า มีแผ่นดินไหวในที่ราบสูงอีสานแน่

เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวร่ำลือว่า สส.อีสานกลางจำนวนหนึ่งไม่พอใจการบริหารพรรค และเรียกร้องขอโควตารัฐมนตรี

เหนืออื่นใด เสนาบดีสองรายนี้ เป็นสายตรงเจ๊แดง น้องสาวสุดรักของนายใหญ่ 

ฤาสายลมจะเปลี่ยนทิศ เพื่อไทยยุคนายน้อย จะมีการรีแบรนด์ปรับโฉมใหม่ ดึงคนรุ่นใหม่มาทดแทนตัวตึงรุ่นเก่า มีแต่เก๋า ทำงานไม่เป็น