คอลัมนิสต์

มนต์เสื่อม ‘ทักษิณ’ ดีลลับกำกับ ‘เพื่อไทย’ รับสภาพพรรคอันดับสอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไม่ต้องอ่านโพลล์สำนักไหน ทักษิณ รีเทิร์นบนเงื่อนไขดีลลับกำกับเพื่อไทยยุคอุ๊งอิ๊ง ยากที่จะชนะค่ายสีส้ม จำใจรับสภาพพรรคอันดับสอง

พรรคไม่เคยแพ้ ทักษิณ รับชะตากรรม เพื่อไทยยุคอุ๊งอิ๊ง ยากที่จะชนะค่ายสีส้ม ติดเงื่อนไขดีลลับ ไฟท์บังคับต้องเดินไปตามธงฝ่ายจารีต


บริบทการเมืองเปลี่ยน ทักษิณ ฮึดสู้ยกสุดท้าย แบรนด์นายห้างไม่ขลังเหมือนในอดีต สายน้ำไม่ไหลกลับ ทำได้แค่รักษาฐานเสียงเดิม


ไม่ต้องอ้างโพลสำนักไหน คนในเพื่อไทยต่างรู้อยู่แก่ใจว่า คะแนนนิยมของพรรคยังไม่ฟื้น นับแต่มีการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรค 2 ลุง จึงไม่น่าแปลกใจที่ทักษิณ ชินวัตร จะเร่งขยับออกตัวเร็วขึ้น 
 

อดีตนายกฯทักษิณ เปิดหน้าแสดงตัวชัดเจนว่า ผู้นำทางจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทยได้กลับมาแล้ว เพราะก่อนหน้านั้น คะแนนนิยมของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังไม่กระเตื้องขึ้น


จะว่าไปแล้ว การปรากฏตัวของทักษิณ ในเชียงใหม่ 2 รอบ ยอมรับว่าบารมีทางการเมืองของทักษิณยังมีล้นเหลือ แต่กระแสความนิยมในหมู่ประชาชนกลับไม่ได้ขยับขึ้น

 

 

อุ๊งอิ๊ง ต้องทำงานหนักเป็นหลายเท่า เพื่อเรียกคะแนนนิยมคืนกลับมา

 


พูดง่ายๆ คนรุ่นใหม่ไม่รู้จักทักษิณและไทยรักไทย ส่วนคนชั้นกลาง คนรากหญ้าที่เคยรักทักษิณ ก็เริ่มเบื่อเกมการเมืองเก่า


การเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2567 พรรคเพื่อไทยหยุดสถิติพรรคที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในรอบ 22 ปี ทำเอาทักษิณ ชินวัตร เสียศูนย์และรับไม่ได้กับความปราชัยหนนี้


สถิติการเลือกตั้งจากปี 2544 ถึงปี 2566 เฉพาะที่ใช้กติกาเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ เขตเดียวเบอร์เดียว

 

เลือกตั้ง 2544 พรรคไทยรักไทย ได้คะแนน 11.6 ล้านเสียง ได้ สส.บัญชีรายชื่อ 48 คน

เลือกตั้ง 2548 พรรคไทยรักไทย ได้คะแนน 18.9 ล้านเสียง ได้ สส.บัญชีรายชื่อ 67 คน

เลือกตั้ง 2554 พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 15.7 ล้านเสียง ได้ สส.บัญชีรายชื่อ 61 คน

เลือกตั้ง 2566 พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 10.8 ล้านเสียง ได้ สส.บัญชีรายชื่อ 29 คน


พรรคทักษิณเคยได้คะแนนมหาชนสูงสุด 18 ล้านเสียง แล้วก็ลดฮวบเหลือ 10 ล้านเสียง 

พรรคลูกข้าวนึ่ง
ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2544 พรรคไทยรักไทย มีฐานเสียงสำคัญและได้รับชัยชนะแบบยกจังหวัด ในภาคอีสาน และภาคเหนือตอนบน 


เลือกตั้งปี 2562 ภาคเหนือตอนบน เพื่อไทยชนะยกจังหวัด 5 จังหวัด แต่ปี 2566 เพื่อไทยยกจังหวัดเพียง 3 จังหวัดคือ น่าน,แพร่ และอุตรดิตถ์ 


ดังนั้น ทักษิณจึงต้องเดินทางไปเชียงใหม่ 2 รอบ ครั้งแรกไปเยี่ยมบ้านเกิด และครั้งหลังไปเล่นสงกรานต์


เลือกตั้งปี 2566 เชียงใหม่ ก้าวไกลชนะ 7 ที่นั่ง จากทั้งหมด 10 ที่นั่งเพื่อไทย 2 ที่นั่ง และพลังประชารัฐ 1 ที่นั่ง 


เชียงราย เพื่อไทยชนะ 5 ที่นั่ง และก้าวไกลได้ 2 ที่นั่ง


ลำปาง ก้าวไกลชนะกวาดยกจังหวัด 3 ที่นั่ง เพื่อไทยเหลือ 1 ที่นั่ง


ลำพูน ก้าวไกลกับเพื่อไทย แบ่งกันไปพรรคละ 1 ที่นั่ง


ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ต้นปี 2568 จะให้คำตอบว่า ทักษิณจะกลับมาได้จริงหรือไม่ หากนายกก๊อง พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ค่ายเพื่อไทยชนะ สารพัดโพลล์คงหน้าแหก 

 


ฐานที่มั่นใหญ่
การเลือกตั้งสมัยที่แล้ว ถ้าพรรคทักษิณไม่พลาดท่าเสียที่นั่งในอีสานไปจำนวนมาก ก็คงเป็นพรรคอันดับหนึ่ง รักษาสถิติพรรคไม่เคยแพ้ต่อไป


เลือกตั้งปี 2562  ภาคอีสาน เพื่อไทยชนะยกจังหวัด 10 จังหวัด แต่ปี 2566 เหลือแค่ 2 จังหวัดคือ เลย และหนองบัวลำภู


ที่สำคัญ เลือกตั้งปี 2566 เพื่อไทยพลาดท่าให้ภูมิใจไทยมากกว่า 10 จังหวัด จากค่ายสีน้ำเงินเคยได้ 10 กว่าที่นั่ง ก็ขยับเป็น 35 ที่นั่ง


สุรินทร์ เพื่อไทยเคยยึดเกือบทั้งจังหวัด แต่หนนี้ ภูมิใจไทย กวาดไป 5 ที่นั่ง เพื่อไทยได้ 2 ที่นั่ง


อุบลราชธานี เพื่อไทยเหลือ 4 ที่นั่ง ภูมิใจไทย ได้ 3 ที่นั่ง ส่วนที่เหลือเพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง ปชป. 1 ที่นั่งและไทยสร้างไทย 1 ที่นั่ง 


บึงกาฬ เพื่อไทยเหลือ 1 ที่นั่ง ภูมิใจไทยได้ 2 ที่นั่ง

อำนาจเจริญ ภูมิใจไทย 2 ที่นั่ง หยุดการผูกขาดของเพื่อไทย


ส่วนสนามยโสธร มหาสารคาม ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ นครราชสีมา และชัยภูมิ ถูกภูมิใจไทยเจาะได้หมด จังหวัดละ 1-2 เขต ไม่นับบุรีรัมย์ที่ชนะยกจังหวัด


เหตุที่ยกตัวอย่างภูมิใจไทย เพราะที่ผ่านมา พรรคเนวินเจอข้อหาทรยศนายใหญ่ คนอีสานไม่ต้อนรับ แต่ปี 2566 ค่ายสีน้ำเงินได้มากถึง 35 ที่นั่ง ย่อมสะท้อนว่า มนต์รักทักษิณเสื่อมความนิยมลงไปมากทีเดียว


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ