มาเฟียกะเหรี่ยง ‘หม่องชิดตู่’ อุ้มพม่ายึดคืน ‘เมียวดี’ กดดัน KNU ถอย
ตัวละครลับ หม่องชิดตู่ อุ้มพม่ายึดคืนเมียวดี กะเหรี่ยง KNU-PDF ถอยทัพ ทัพ KNA หันสวามิภักดิ์มินอ่องหล่าย ปกป้องเมืองใหม่ทุนจีนเทา
เกมพลิก หม่องชิดตู่ อุ้มพม่ายึดคืนเมียวดี กะเหรี่ยง KNU ถอยทัพ ต้านอิทธิพลทุนจีนสีเทาไม่ไหว ฝันสร้างมหารัฐกอทูเล ยังอีกยาวไกล
ศึกเมียวดีซับซ้อน เกินกว่าที่คนภายนอกจะเข้าใจ ไม่ใช่แค่ KNU รบมินอ่องหล่าย หากแต่มีเรื่องเจ้าพ่อกะเหรี่ยงและขุมทรัพย์ทุนจีนสีเทา
ในที่สุด พะโด ซอ ตอ นี โฆษกสหภาพแห่งกะเหรี่ยง KNU ยอมรับว่า กองกำลัง KNLA และ PDF ได้ถอนกำลังออกจากเมืองเมียวดี มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาดอนะ บนทางหลวงเอเชียหมายเลข 1 เพื่อสกัดกองทัพเมียนมา ที่จะเข้าเมืองติ่นกันหงี่หน่อง จ.เมียวดี
ดังที่ทราบ กองทัพเมียนมาเปิดปฏิบัติการอ่องเซยะ ทหารหน่วยแรกที่มาถึงสันเขาดอนะ เป็นกองพลทหารราบ 55 มาจากเมืองผาอัน มีเป้า หมายเข้ามาทวงคืนพื้นที่เมืองเมียวดี
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2567 ทหารเมียนมากองพัน 275 ค่ายผาซอง ที่กระจายกำลังอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 (ฝั่งเมียนมา) ประมาณ 60 นาย ได้เคลื่อนย้ายกลับไปที่ตั้งกองพัน 275 ค่ายผาซอง โดยมีทหารกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ (KNA) ของหม่องชิดตู่ ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยขณะเคลื่อนย้ายกำลัง
ดังนั้น จึงมีภาพทหารเมียนมาเปลี่ยนธง KNU กลับมาเป็นธงชาติเมียนมา กลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียฝั่งไทย-เมียนมา
นัยว่า หม่องชิดตู่ หรือ พ.อ.หม่องชิดตู่ ผบ.กะเหรี่ยง KNA หรือ BGFเป็นตัวกลางประสานงานพูดคุยกับตัวแทนกองทัพเมียนมา และ KNU จนได้ข้อสรุปเบื้องต้น
1.ไม่ให้มีการสู้รบในพื้นที่ จ.เมียวดี 2.ให้เมืองเมียวดี เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน 3.เมียวดีจะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และใช้ในการขนส่งสินค้า
มีข้อน่าสังเกตว่า โฆษกสหภาพกะเหรี่ยง KNU ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเจรจายุติศึก และข้อตกลงร่วมดังกล่าวข้างต้น
พะโด ซอ ตอ นี พูดแบบให้ตีความทำนองว่า ต้องมองข้ามเมียวดี แล้วโฟกัสไปทั่วเมียนมา ซึ่งขณะนี้ฝ่ายเรากำลังจะได้ชัยชนะขั้นเด็ดขาดจากทั่วประเทศแทน
อิทธิพลทุนจีนสีเทา
นักวิชาการไทยจำนวนหนึ่ง ไม่เข้าใจสถานการณ์อันซับซ้อนในเมียวดี หลังทหารกะเหรี่ยง KNLA และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF ยึดค่ายผาซอง กองพัน 275 ฐานสุดท้ายของทหารเมียนมาได้ ก็ประเมินว่า พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย และกองทัพเมียนมาเพลี่ยงพล้ำ
จริงๆ แล้ว สาเหตุทหารกะเหรี่ยง KNLA และ PDF สามารถเปิดยุทธการยึดฐานทหารเมียนมาได้เบ็ดเสร็จ เพราะมีทหารกะเหรี่ยง KNA ของหม่องชิดตู่ คอยช่วยเหลือและเปิดทางให้
เนื่องจากช่วงต้นปี 2567 ทหารกะเหรี่ยง KNA (BGF) ได้ถอนตัวออกจากกองทัพเมียนมา และหันมาช่วยเหลือ KNLA พร้อมหนุนสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ปกครองเมืองเมียวดี
ต่อมา กองทัพเมียนมา ยื่นคำขาดให้หม่องชิดตู่คืนอาวุธที่เคยมอบให้ทั้งหมด หากไม่ปฏิบัติตาม จะส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดใส่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่
จุดที่ทำให้หม่องชิดตู่ เปลี่ยนใจกลับไปหากองทัพเมียนมาก็คือ วันที่กองทัพเมียนมา เป็นยุทธการถล่มเมือง ทิ้งระเบิดวันเดียว 250 ลูกเมื่อวันเสาร์ที่ 20 เม.ย.2567
หม่องชิดตู่กลัวคำขู่ของ พล.อ.อาวุโสมินอ่องหล่าย ที่จะทิ้งระเบิดใส่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ และเมืองใหม่เคเคพาร์ค จึงเล่นบทคนกลางเปิดการเจรจากับกองทัพเมียนมา และ KNU
มาเฟียกะเหรี่ยง
เจสัน ทาวเวอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเมียนมาจากสถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา(USIP) ได้ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย เกี่ยวกับกลุ่มอาชญา กรรมที่อยู่เมืองสแกมเมอร์ทุนจีนภายใน จ.เมียวดี
จากการศึกษาของ USIP พบว่า หม่องชิดตู่ ผู้นำกองทัพ KNA รายได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,500 ล้านบาท)ต่อปี ซึ่งเป็นรายได้เมืองชเวโก๊กโก่แห่งเดียว ไม่นับรวมเมืองใหม่เคเคพาร์ค
เม็ดเงินสีเทานับพันล้าน ทำให้หม่องชิดตู่ มีทุนเลี้ยงดูกำลังพลมากกว่า 7,000 นาย และซื้ออาวุธมาใช้ได้สบายๆ
ก่อนหน้านั้น หม่องชิดตู่ต้องส่งส่วยให้กับกองทัพเมียนมา ปีละหลายพันล้านบาท รวมถึงจ่ายเงินอุดหนุนให้ KNLA บางหน่วยเช่นกองพลที่ 7 และทหาร DKBA
บทบาทของหม่องชิดตู่ และทุนจีนสีเทา จึงตัวแปรสำคัญในศึกเมียวดี ซึ่งหากใครไม่เข้าใจเรื่องนี้ ก็จะฝันเห็นแต่มหารัฐกอทูเล สหพันธ์รัฐใหม่ของกะเหรี่ยง KNU