ชี้ชะตา “ทักษิณ” ยกเข่ง “ม.112” ปลุกปีกขวาจุดเชื้อไฟรัฐประหาร

นัดชี้ชะตา ทักษิณ ดิ้นหนีกับดัก ม.112 สส.เสื้อแดงปากไวคิดแทนนาย ดันนิรโทษกรรมสุดซอย ภาค 2 เข้าทางปีกอนุรักษ์สุดโต่งจุดไฟรัฐประหาร

 

โหมโรงมาแรมเดือน กองทัพธรรม คปท. และ ศปปส. ปักธงชุมนุมยาว ต้านฟื้นระบอบทักษิณ ได้จังหวะคดี ม.112 เปิดเกมรุกหยุดแผนแดงรวมส้ม

 

หลังมี สส.เพื่อไทยบางคนเตรียมผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ่วงคดี ม.112 ด้วย ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการนิรโทษกรรมที่เอื้อต่อ ทักษิณ ชินวัตร

 

กองทัพธรรม ,เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส. ) จึงเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อ กมธ. วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทน ราษฎร ขอคัดค้านการนิรโทษกรรมความผิดตามกฎหมายอาญา ม.112  เพราะเป็นการแสดงออกและความเคลื่อนไหวเพื่อมุ่งหมายตรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 

 

ดังที่รู้กัน พิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. และ หมอเขียว-ใจเพชร กล้าจน ผู้นำกองทัพธรรม ได้ปักหลักชุมนุมทวงคืนกระบวนการยุติธรรม ที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ข้างทำเนียบรัฐบาล มาเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว

 

ที่ผ่านมา ม็อบ คปท.ยังจุดไม่ติด เหตุเพราะมวลชนกลุ่มอนุรักษ์(เสื้อเหลือง,กปปส.) รู้สึกว่าถูกหลอก เคว้งคว้าง ผิดหวัง และจะไม่ลงถนนเหมือนในอดีต 

 

สืบเนื่องจากดีลลับข้ามขั้ว ทักษิณกลับบ้านแบบเท่ๆ และเกิดรัฐบาลเศรษฐา เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มวลชนปีกขวารู้สึกถอดใจ และหันหลังให้กับชนชั้นนำ

 

กระทั่งมีสถานการณ์ร้อนในเดือน มิ.ย.นี้คือ ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องสอยนายกฯเศรษฐา ,อัยการสั่งฟ้องทักษิณในคดี ม.112 และศาลรัฐธรรมนูญใกล้วินิจฉัยยุบก้าวไกล ปมล้มล้างการปกครอง

ตามมาด้วยนิยายเรื่องหักดีล-ล้มดีล ที่มี จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช.เป็นผู้กระจายข่าวสารความเชื่อเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางออนไลน์พีซทีวี จึงทำให้เวทีม็อบ คปท.กลับมามีความคึกคัก

 

 

ยกเข่งเอาใจนายใหญ่

 

จะว่าไปแล้ว แกนนำเพื่อไทยระดับเบอร์ใหญ่ จะระมัดระวังการเสนอความ เห็นเรื่องนิรโทษกรรม พ่วงคดี ม.112 เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเกี่ยวข้องกับการกลับบ้านของนายใหญ่

 

ตรงกันข้ามกับ หมอเสื้อแดง-นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ที่เพิ่งเลื่อนขึ้นมาเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีอาการร้อนวิชา และหวังเอาใจคนเสื้อแดงจึงแสดงความเห็นเรื่องเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมรวมคดี ม.112 เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ โดยทำทั้งในนามพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลจะเสนอด้วยก็ได้ 

 

แถมยังบอกว่า “ก็ควรให้แล้วเสร็จ เพราะเป็นปีมหามงคล ก็ควรเสร็จในปีนี้” เพียงแค่ประโยคนี้ ก็ทำเอากลุ่มอนุรักษ์ได้ประเด็นจุดกระแสต้านนิรโทษกรรมยกเข่ง ภาค 2 

 

จริงๆแล้ว หมอเชิดชัย สมัยเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ปี 2554 ก็เคยร่วมกับ วรชัย เหมะ และสมคิด เชื้อคง เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง โดยยืนยันจะไม่นิรโทษกรรมแกนนำ ผู้สั่งการ และทักษิณ 

 

พอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เข้าสู่ชั้น กมธ.ปรากฏว่า ขาใหญ่ สส.เพื่อไทย หักดิบแก้เป็นนิรโทษกรรมสุดซอย และสุดท้ายกลายเป็นหัวเชื้อม็อบ กปปส.ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และนำมาซึ่งรัฐประหาร 2557

 

 

 

ตัดไฟเสียแต่ต้นลม

 

บทเรียนนิรโทษกรรมสุดซอย สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทำให้แกนนำสายตรงอย่าง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ จึงออกมาเบรก สส.เสื้อแดงร้อนวิชาว่า อย่าด่วนคิดเรื่องนิรโทษกรรม พ่วงคดี ม.112

 

ขณะที่กองเชียร์ฝ่ายสีส้มก็ลุ้นเพื่อไทย ร่วมผลักดันร่าง พรบ.นิรโทษกรรม พ่วงผู้ต้องคดี ม.112 ซึ่งประเด็นนี้ กลุ่มอนุรักษ์ก็เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวว่า เพื่อไทย-ก้าวไกล จะลักไก่ดันนิรโทษกรรมยกเข่ง

 

ด้วยเหตุนี้ คปท. กองทัพธรรม และ ศปปส. จึงชิงรุกใหญ่ปลุกกระแสต้านนิรโทษกรรมยกเข่ง จุดเชื้อไฟต้านระบอบทักษิณ และสงครามบนท้องถนน อาจนำไปสู่ทางตัน เหมือนปี 2549 และปี 2557