ปทุมโมเดล “ทักษิณ” หนีตายพึ่ง “บ้านใหญ่” สู้ส้มล้ม อบจ.สีน้ำเงิน

 

ปทุมโมเดล ทักษิณ ยุคแบรนด์เก่า กระแสตก ลุงชาญตอบโจทย์บ้านใหญ่ ไม่สิ้นมนต์ขลัง เพื่อไทยใช้การเมืองสูตรโบราณ ฝ่าพายุส้ม
 

วันที่โพลชี้ค่ายสีส้มมาแรง เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ส่อเค้าเปิดศึกกวาดต้อนบ้านใหญ่เข้าค่าย อนุทิน ไล่เก็บแต้ม อบจ.สีน้ำเงิน ตั้งเป้า 4 จังหวัด 

ฉากการต่อสู้ในสมรภูมินายก อบจ.ปทุมธานี กลายเป็นเลือกตั้งระดับชาติ เพราะมีตัวละครแบบ ทักษิณ ชินวัตร พร้อมลูกชาย โอ๊ค พานทองแท้ และลูกสาว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เข้าไปมีเดิมพันด้วย

ชัยชนะของ ชาญ พวงเพ็ชร์ เหนือ คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ถูกนำไปวิเคราะห์วิจารณ์มากมาย โดยเฉพาะอนาคตของพรรคเพื่อไทย 
 

ล่าสุด นิด้าโพล เผยผลสำรวจของประชาชน เรื่องการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 2/2567 เรตติ้งเศรษฐา และอุ๊งอิ๊ง ร่วงแล้วร่วงอีก ไม่ต่างเพื่อไทย ที่ถูกก้าวไกลทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ
 

อย่างในหัวข้อพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า พรรคก้าวไกล อันดับ 1 ร้อยละ 49.20 ขณะที่พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 16.85 

 

ด้วยเหตุนี้ จึงมีข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร เตรียมตัวเดินทางไปเยือนเมืองอุบลฯ ที่มั่นของเกรียง กัลป์ตินันท์ และแวะไปเยี่ยมตระกูลสะสมทรัพย์ที่นครปฐม ตามยุทธศาสตร์พึ่งบ้านใหญ่ ตีฝ่ากระแสสีส้ม

บ้านใหญ่ไม่สิ้นมนต์ขลัง
 

ภาพสะท้อนจากชัยชนะของ ชาญ พวงเพ็ชร์ คือพลานุภาพ 8 บ้านใหญ่ปทุมธานี ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อล้มแจ๊ส พล.ต.ท.คำรณวิทย์

หัวเรี่ยวหัวแรงในการรวมพลบ้านใหญ่ครั้งนี้คือ ศุภชัย นพขำ อดีต สส.ปทุมธานี, สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล อดีต สส.ปทุมธานี และนายกเบี้ยว-กฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี

แม้ชาญ จะสวมเสื้อเพื่อไทย และมีทักษิณ พร้อมครอบครัวชินวัตร ลงไปช่วยหาเสียง ก็ไม่ได้ทำให้คะแนนนิยมของชาญดีขึ้นมากนัก เนื่อง จากแบรนด์ทักษิณ ไม่ได้ขลังเหมือนในอดีต

เมื่อกระแสตกเป็นรองแจ๊ส ทีมบ้านใหญ่เมืองปทุมธานี จึงต้องงัดกลยุทธ์เลือกตั้งทุกรูปแบบ จนอุ้มลุงชาญ กลับมานั่งนายก อบจ.สมัยที่ 4ได้สำเร็จ

นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์หลายสำนัก มักมองว่า การเมืองแบบบ้านใหญ่ตกยุคแล้ว แต่ผลเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ทำให้แกนนำเพื่อไทยใจชื้น ไม่สิ้นหวัง 

เฉพาะนายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า ต้องหวนไปใช้ยุทธศาสตร์พรรคไทยรักไทย ช่วงการเลือกตั้งทั่วไปปี 2548 คือ กวาดต้อนบ้านใหญ่ มารวมไว้ในชายคาเดียวกัน

เครือข่าย อบจ.สีน้ำเงิน

 

อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คงทำใจรับสภาพกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พ่ายเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เพราะรู้ดีว่า เกมนี้แจ๊สเป็นรองซุ้ม 8 บ้านใหญ่ในแง่กลยุทธ์การจัดตั้ง

 

ต่างจากสมรภูมิ อบจ.นครสวรรค์ และ อบจ.อ่างทอง ที่พรรคภูมิใจไทยได้รับชัยชนะแบบสบายๆ

 

พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ สายตรง ชาดา ไทยเศรษฐ์ กลับมานั่งนายกอบจ.นครสวรรค์ สมัยที่ 2 และกำนันตี๋ -สุรเชษ นิ่มกุล เครือข่ายตระกูลปริศนานันทกุล นั่งนายก อบจ.อ่างทอง สมัยที่ 3

 

วันที่ 4 ส.ค.2567 ซ้อใหญ่วังน้อย-สมทรง พันธ์เจริญวรกุล สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ คงเอาชนะ อุ๊ กรุงสยาม หรือ วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ กลุ่มก้าวใหม่อยุธยา ได้นั่งนายก อบจ.อยุธยา สมัยที่ 4

 

ส่วนการเลือกตั้งนายก อบจ.ชัยภูมิ ในวันที่ 11 ส.ค.2567 ก็จะเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย 

 

เมื่อนายใหญ่บุรีรัมย์ ส่ง สุรีวรรณ นาคาศัย ภรรยา สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ เขต 3 พรรคภูมิใจไทย ลงชน อร่าม โล่วีระ อดีตนายก อบจ.ชัยภูมิ เครือข่าย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรค พปชร. 

 

มิสเตอร์เกษตร-สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ เป็นบ้านใหญ่ อ.เทพสถิต ที่กำลังมาแรง จึงได้รับความไว้วางใจจากครูใหญ่เนวิน

 

ว่ากันว่า นายใหญ่บุรีรัมย์ประกาศสั่งยึด อบจ.ชัยภูมิ เพื่อเก็บแต้ม “อบจ.สีน้ำเงิน” อีกจังหวัด ต่อจากนครสวรรค์ อ่างทอง และอยุธยา