คอลัมนิสต์

ส่องชีวิต “มงคล” เต็งหนึ่งประธาน “สว.” สายน้ำเงินขั้วอนุรักษ์ใหม่

ตัวแทนอนุรักษ์สีน้ำเงิน มงคล สุระสัจจะ เต็งหนึ่งประธาน สว.คนใหม่ จากเด็กบ้านนอก หนุ่มสาวยุคแสวงหา ก่อนเลือกทางเดินสายสิงห์

รู้จัก มงคล สุระสัจจะ เต็งหนึ่งว่าที่ประธาน สว.คนใหม่ ยุคสภาสูงบ้านใหญ่ สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ผ่านงานปกครองมากว่าค่อนชีวิต 
 

ในวัยหนุ่ม มงคล เลือกเส้นทางคนหนุ่มสาว ยุค 14 ตุลา มุ่งสู่ดอยสูง ร่วมกับสหายร่วมอุดมการณ์ ก่อนพลิกผันเลือกเดินสายมหาดไทย
 

ดังที่ทราบกัน สว.ชุดใหม่ 200 คน มีการประเมินว่า จะเป็น สว.สายสีน้ำเงิน ราว 130-140 คน จึงมีคนเรียกว่า “สภาสูงบ้านใหญ่”  
 

เมื่อ สว.สายสีน้ำเงิน ครองเสียงข้างมาก กูรูการเมืองจึงมองข้ามช็อตไปถึงตำแหน่งประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 น่าจะมาจากสายสีน้ำเงินทั้งหมด


ก่อนหน้านี้ สื่อหลายสำนักได้พูดถึงแคนดิเดตตำแหน่งประธานวุฒิสภา (สว.) คนใหม่ 2 คนคือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. และอดีตแม่ทัพภาค 4 และมงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง ทั้งคู่มาจากกลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง

แหล่งข่าวในสภาสูงเปิดเผยว่า มงคล สุระสัจจะ จัดว่าเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา เนื่องจากมีบุคลิกพิเศษเข้าถึงคนทุกระดับ ประนีประนอม และเป็นนักจัดการฝีมือเยี่ยม

จับสัญญาณจากค่ายบุรีรัมย์ในวันนี้ มงคล มีโอกาสมากกว่าบิ๊กเกรียง ที่จะขยับเป็นประมุขสภาสูงชุดใหม่


เด็กบ้านนอกหนองโดน

มงคล สุระสัจจะ เกือบได้ชื่อว่าเป็นปลัดมหาดไทยคนแรก ที่มา “สิงห์ทอง” (รัฐศาสตร์ รามคำแหง) แต่โชคชะตาทำให้เขาเกษียณอายุราช การแค่ตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง

 

“จ้อน” มงคล เกิดวันที่ 9 ส.ค.2495 ที่ อ.หนองโดน จ.สระบุรี ดังที่เขาบันทึกไว้ว่า “ผมเกิดและโตในชนบท อาศัยวัดเป็นที่พักเรียนหนังสือ ฐานะค่อนข้างยากจน ความฝัน อันสูงสุดคือ เรียนจบอาชีวะแล้วก็ออกมาหางานทำช่วยเหลือครอบครัว..”

 

จ้อนไม่ฝันที่จะเรียนต่อระดับอุดมศึกษา เพราะดูไกลเกินเอื้อม กระทั่งเมื่อปี 2514 มีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยรามคำแหง มงคลจึงตัดสินใจเข้าเรียนในคณะรัฐศาสตร์

 

“ด้วยความมุ่งหวังที่จะเป็นปลัดอำเภอ ไปรับใช้ประชาชนในชนบทบ้านเกิดเมืองนอน..” เป็นความฝันของเด็กบ้านนอกจาก อ.หนองโดน และเมื่อเรียนจบศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงสอบเข้าเป็นปลัดอำเภอ

จากนั้น วิถีข้าราชการมหาดไทยของมงคล เริ่มจากปลัดอำเภอ กระทั่งได้รับการสนับสนุนของ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ผวจ.ปทุมธานีสมัยโน้น ทำให้เขาได้เข้าเรียนวิทยาลัยการปกครอง และเติบโตบนเส้นทางสิงห์มหาดไทย จากนายอำเภอสู่ผู้ว่าราชการจังหวัด 

 

กระทั่ง มงคลได้มารับราชการเป็น ผวจ.บุรีรัมย์ จึงรู้จักมักคุ้นกับเนวิน ชิดชอบ ก่อนจะขยับเป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน และอธิบดีกรมการปกครอง สมัยชวรัตน์ ชาญวีรกุล เป็น รมว.มหาดไทย

 

เมื่อเกษียณอายุราชการ มงคลปักหลักทำไร่เพื่อนคุณ อยู่ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และสมัยรัฐบาลประยุทธ์ เขาได้เป็นคณะทำงานของ รมช.มหาดไทย (ทรงศักดิ์ ทองศรี)
 


เส้นทางคนหนุ่มสาว
 

มงคล สุระสัจจะ เป็นนักปกครองที่มีเพื่อนในแวดวงนักเขียน และนักร้องเพื่อชีวิต เพราะตัวเขาเองชอบเล่นดนตรี ยังเคยร่วมวงคันนายาวของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ

 

อีกด้านหนึ่งของชีวิต มงคลเคยเข้าร่วมขบวนการต่อสู้ของคนหนุ่มสาวยุคหลัง 14 ตุลาคม 2516 สมัยเรียนอยู่ที่รามคำแหง

 

ปี 2517 มงคล ได้ทำกิจกรรมกับ “กลุ่มพัฒนาการศึกษาชนบท”(กพ.กช.) และเดินเข้าค่ายฝึกกำลังคน ในหมู่บ้านชาวปกากะญอ(กะเหรี่ยง) ที่บ้านแม่แฮใต้ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 

 

“เรานักศึกษารามคำแหง..รวมตัวกันจัดงานค่ายอาสา ชื่อน่าเกรงขาม ค่ายฝึกกำลังคน มุ่งหน้าสู่ดอยสูง แม่แฮคี้ เลื่อยไม้สร้างโรงเรียนเล้าไก่ พากันสอนหนังสือเด็กๆชาวเขา...”

 

เพื่อนรักร่วมค่ายฝึกกำลังคนของจ้อน-มงคลคือ เหนียว-ธงชัย สุวรรณวิหค หรือที่รู้จักในนาม สหายช่วง แห่งเทือกเขาบรรทัด
 

หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มงคล ได้เข้าไปใช้ชีวิตที่เทือกเขาบรรทัด ช่วงระยะสั้นๆ ก่อนกลับเข้ามาทำงานในเมือง

 

นี่คือเสี้ยวชีวิตหนุ่มสาวยุค 14 ตุลาของอดีตอธิบดีกรมการปกครอง ที่กำลังจะได้ขึ้นแท่นเป็นประธาน สว.คนใหม่

ข่าวที่น่าสนใจ