ขายแพ็คคู่ “ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง” ชิงกู้ “มนต์เสื่อม” เสี่ยงชนม็อบสิงหาขวาจัด

รับใบบริสุทธิ์ ทักษิณ ควง อุ๊งอิ๊งเดินสายฟื้นแบรนด์เก่า ท้าพิสูจน์นายใหญ่มนต์ไม่เสื่อม ขายแพ็คคู่กู้วิกฤตศรัทธา เพื่อไทยไม่ใช่พรรคอนุรักษ์

 

สวนกระแสนายเก่า รวมพลคนไม่เอาทักษิณ สิงหาท้ารบ จตุพร-ทนายนกเขา ผนึกม็อบ คปท.-กองทัพธรรม ปลุกเหลืองของแท้ลงถนนอีกครั้ง

 

การขยับตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังประกาศต่อหน้าชาวสุรินทร์ว่า “ผมเชื่อว่ารัฐบาลหลังจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ผมจะขอทำงาน มีรูปธรรมออกมา เพื่อให้เป็นผลประโยชน์ต่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ” 

 

มีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อ พงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้แจ้งว่า ทักษิณจะพ้นโทษในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยศาลจะออกหมายปล่อย และจะได้รับใบบริสุทธิ์ ซึ่งก็เหมือนประชาชนทั่วไป และไม่มีเงื่อนไขใดๆ

ถัดมา วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีอดีตนายกฯทักษิณ ที่จะพ้นโทษในเดือน ส.ค.นี้ สามารถเข้ามาช่วยงานรัฐบาลได้ เหมือนคนธรรมดาทั่วไป

 

จะว่าไปแล้ว ระหว่างการพักโทษของทักษิณ ก็มีภาพการเคลื่อนไหวของนายใหญ่ เดินทางไปงานบุญแฝงด้วยงานการเมือง อย่างเช่นงานบวชลูกชายนายกเบี้ยวที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และงานบวชเฉลิมพระเกียรติฯ โดยนายกเป๊ปซี่ที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์

 

มินับบทบาท “ผู้นำเงา” ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในเวลานี้ ซึ่งคนในพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ต่างก็รู้อยู่แก่ใจ

 

 

ไม่ใช่พรรคอนุรักษ์

 

ในการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร และแพทองธาร ชินวัตร ประสานเสียงเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคอนุรักษนิยมใหม่ 

 

เพื่อไทยมีดีเอ็นเอมาจากไทยรักไทย คือพรรคที่เข้ามา Reform ประเทศ เป็นผู้นำเปลี่ยนแปลงและกระจายอำนาจ 

 

นายใหญ่และนายน้อย ของคนเพื่อไทยรู้ดีว่า ต้นทุนพรรคแนวทางปฏิรูปหมดไปกับการจัดตั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้วเมื่อกลางปีที่แล้ว

 

ดังนั้น คนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง จึงหันหลังให้เพื่อไทย เพราะมองว่าพรรคได้เปลี่ยนอุดมการณ์เป็นอนุรักษนิยมใหม่

 

สองพ่อลูกจึงต้องทำงานหนัก เพื่อกอบกู้วิกฤตศรัทธา เนื่องจากผลการสำรวจทุกโพลทุกสำนัก เพื่อไทยคะแนนนิยมร่วง ตามหลังก้าวไกลแบบว่าถูกทิ้งห่างไปเรื่อยๆ

อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงมุ่งสร้างคนเพื่อไทยรุ่นใหม่ ผ่านโครงการเพื่อไทยอคาเดมี (Pheu Thai Party Academy)

 

 

 

ขณะที่ทักษิณ ยังต้องรับบทนายใหญ่คนเดิมของ สส. และอดีต สส.เพื่อไทย ซึ่งหลังพ้นโทษ นายใหญ่จะมีการเดินทางไปต่างจังหวัดถี่ขึ้น เพื่อพบกับคนเสื้อแดง ปลุกฟื้นแบรนด์เดิมให้กลับมาอยู่ในใจคนรากหญ้า

 

ปลุกผีระบอบทักษิณ

 

หลายคนอาจลืมไปแล้วว่า ยังมีการชุมนุมมวลชนของ คปท. และกองทัพธรรม ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล

 

เนื้อหาการอภิปรายบนเวที คปท. มีเป้าหมายชัดเจนคือ ต้านการฟื้นคืนชีพของระบอบทักษิณ และทีมงานเบื้องหลังเวที คปท. ส่วนหนึ่งก็คือ ทีมงานพีซทีวีของจตุพร พรหมพันธุ์

 

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานระดับสูงของหน่วยงานการข่าวของรัฐ ทั้งสันติบาล และศูนย์รักษาความปลอดภัย(ศรภ.)  ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองว่า  ตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.2567 จะมีการขยับตัวของกลุ่มหลอมรวมประชาชนที่นำโดย จตุพร พรหมพันธ์ และทนายนกเขา-นิติธร ล้ำเหลือ

 

 

เมื่อตู่-จตุพร ส่งสัญญาณแล้วว่า อาจจะต้องเคลื่อนมวลชนลงท้องถนน เพื่อต่อต้านนโยบายขายชาติขายแผ่นดิน

 

หน่วยงานการข่าวประเมินว่า เหตุที่จตุพรแสดงท่าทีว่าจะทำม็อบ น่าจะเป็นเพราะถึงจุดอิ่มตัวกับการนั่งวิเคราะห์จัดรายการ จึงต้องเปลี่ยนบทแสดงเป็นการขับเคลื่อนประชาชน ที่ไม่พอใจรัฐบาลและต่อต้านระบอบทักษิณ 

 

ถึงที่สุดแล้ว การทำม็อบในเวลานี้ก็ไม่ใช่งานง่าย ยกเว้นทักษิณที่จะพ้นโทษ 22 ส.ค.นี้ เหมือนพยัคฆ์ติดปีก มีการขยับขับเคลื่อนที่เกินเลย หรือเดินเกมพลาดไปสร้างเงื่อนไขไปเข้าทางปืนของจตุพรเอง