คอลัมนิสต์

แผนสำรอง “ธนาธร” ไม่สิ้นฝัน “ดร.ต้น วีระยุทธ” ผู้นำรุ่น 3 ต้นขั้วซ้ายกลาง

แผนสำรอง “ธนาธร” ไม่สิ้นฝัน “ดร.ต้น วีระยุทธ” ผู้นำรุ่น 3 ต้นขั้วซ้ายกลาง

17 ก.ค. 2567

ฟ้ามืดเมื่อมีได้ ก็ฟ้าใหม่ย่อมคงมี...ธนาธร เชื่อพลพรรคสีส้มไม่มีวันตาย ส่งต่อผู้นำรุ่น 3 ดร.ต้น-วีระยุทธ เพื่อนซี้เอก คนเบื้องหลังปั้นพรรคซ้ายกลาง

 

 

 

ดร.ต้น วีระยุทธ ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคอนาคตใหม่ พรรคซ้ายกลาง

ตายสิบเกิดแสน ธนาธร อุดมการณ์ส้ม ไม่มีวันตาย จากรุ่น 1 ถึงรุ่น 2 เตรียมส่งต่อรุ่น 3 วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร เพื่อนเอกนำทัพสู้ขั้วอนุรักษ์

 

ฟ้ามืดเมื่อมีได้ ก็ฟ้าใหม่ย่อมคงมี...ธนาธร ปลุกฝันอุดมการณ์เสรีนิยมก้าวหน้า จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล จะไปต่อพรรคใด รอหลัง 7 สิงหา 

 

พลันที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.2567 ก็มีปฏิกิริยาจากคนในพรรคก้าวไกล และด้อมส้มอย่างกว้างขวาง

 

บังเอิญวันที่ 17 ก.ค.2567 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ไปกล่าวปาฐกถาพิเศษ “สื่อ ศิลปะ อำนาจ และเสรีภาพ” ที่อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ตอนหนึ่งธนาธร ยกบทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์ มาอ่านให้ผู้ร่วมงานฟัง

 

 

“ฟ้ามืดเมื่อมีได้ ก็ฟ้าใหม่ย่อมคงมี แสงทองเหนือธรณี จะท้าทายอย่างทระนง” เหมือนจะส่งสัญญาณถึงเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อุดมการณ์สีส้มจะไม่มีวันตาย

ขณะที่ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พูดกลั้วหัวเราะว่า “ตอนหลังเขาบอกว่า น่าจะไม่ยุบแล้วมั้ง” 

 

อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลได้เตรียมแผนเผชิญเหตุ กรณีถูกยุบพรรคไว้หมด แล้ว รวมถึงการเตรียมพรรคสำรอง เพื่อปูทางให้ สส.ได้อพยพไปสังกัด 

 

ว่ากันว่า หัวหน้าพรรคคนใหม่ของพลพรรคสีส้มคือ “ดร.ต้น” วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และเป็นเพื่อนรักของเอก ธนาธร

 

 

พรรคเชิงอุดมการณ์

 

ความต่างระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล น่าจะอยู่ที่ลักษณะพรรค โดยพรรคหนึ่งเป็น “พรรคเถ้าแก่” และอีกพรรคหนึ่งเป็น “พรรคเชิงอุดมการณ์” 

 

ดังนั้น ไม่ว่าจะชื่อพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล หรือพรรคที่จะเกิดใหม่ในอนาคต ก็จะเป็นพรรคมีอุดมการณ์เสรีนิยมก้าวหน้า คล้ายพรรคซ้ายกลางในยุโรป

อย่างที่ทราบกัน คณะผู้ก่อการพรรคอนาคตใหม่คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ,ชัยธวัช ตุลาธน และศรายุทธ ใจหลัก เป็นสหายร่วมอุดมการณ์มาแต่สังกัดองค์กรนักศึกษา “สนนท.” ปี 2541

 

ในวันที่ เอก ธนาธร เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ต๋อม ชัยธวัช ที่มีบุคลิกเป็นนักคิด นักทฤษฎี นักวางแผน จึงเป็นรองเลขาธิการพรรค

 

ส่วน ติ่ง ศรายุทธ สายบู๊ ขาลุย จึงเป็นผู้อำนวยการพรรค โดยติ่ง รับตำแหน่งทั้ง ผอ.อนาคตใหม่ และ ผอ.ก้าวไกล 

 

เอก ธนาธร อาจมีภาพเป็นนักธุรกิจทายาทอาณาจักรไทยซัมมิต แต่ความคิดอุดมการณ์ของเขาคือ เสรีนิยมก้าวหน้า ไม่ใช่ซ้ายสุดขั้ว

 

ด้วยเหตุนี้ เมื่อธนาธรขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษว่าด้วย “สื่อ ศิลปะ อำนาจ และเสรีภาพ” จึงยกบทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์ มาอธิบายคำว่า ซอฟท์พาวเวอร์ฝ่ายประชาชน

 

“ถึงยุคทมิฬมารจะครองเมืองด้วยควันปืน ขื่อแปจะพังครืนและกลิ่นเลือดจะคลุ้งคาว แต่คนย่อมเป็นคนในสายธารอันเหยียดยาว คงคู่กับเดือนดาวผงาดเด่นในดินแดน”

 

 

ผู้นำพรรคสีส้มรุ่นที่ 3

 

 

ชื่อของ “ดร.ต้น” วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร เป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น ในฐานะคีย์แมนด้านนโยบายพรรคก้าวไกล และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังงาน Policy Fest ก้าวไกล Big Bang เมื่อเดือน พ.ค.2567

 

ต่อมา สื่อหลายสำนักยกให้ “ดร.ต้น” วีระยุทธ เป็นเต็งหนึ่งว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ หากกรณีพรรคก้าวไกลถูกยุบ จากคดีล้มล้างการปกครองฯ

 

จริงๆแล้ว ดร.ต้น-วีระยุทธ เป็นเพื่อนรักของเอก ธนาธร ที่ถูกดึงตัวมาจากNational Graduate Institute for Policy Studies ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยด้านนโยบายเศรษฐกิจของญี่ปุ่น มาช่วยกันสร้างพรรคอนาคตใหม่

 

ดร.ต้น จึงเขียนนโยบายไทย 2 เท่า สะท้อนอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะพรรคซ้ายกลาง ทางเลือกของการเมืองไทย

 

จากธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร แสงกนกกุล ผ่านมาถึงพิธา ลิ้มเจริญรัตน์-ชัยธวัช ตุลาธน พลพรรคสีส้ม จะมี ดร.ต้น-วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร เป็นผู้นำรุ่น 3 หรือไม่ รอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.2567