ศึกสองขั้ว “หมออ๋อง” แม่ทัพส้มพิดโลก “หมอวรงค์” ฐานอนุรักษ์เสียงแตก
ศึกสองแคว หมออ๋องชนหมอวรงค์ ลุยสอบพรรคประชาชน เลือกซ่อมพิษณุโลก เขต 1 สังเวียนพลังส้มชนอนุรักษ์นิยม ในและนอกสนาม
สมรภูมิคนพิดโลก หมออ๋อง หนุนตัวแทน โฟล์ค ณฐชนน ปักธงชัย หมอวรงค์ ลุยตรวจสอบพรรคประชาชน ไม่แคร์ด้อมส้ม ทวงถามกล้าลงสนามมั้ย
สังเวียนเลือกซ่อมพิษณุโลก เขต 1 ไม่ต่างจากการต่อสู้ 2 ขั้ว 2 แนวทางคือ เสรีนิยมก้าวหน้ากับอนุรักษ์นิยม ทั้งในและนอกสนาม
การเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ที่คาดว่า จะมีขึ้นในวันที่ 15 ก.ย.2567 ได้แปรสภาพเป็นสงคราม 2 ขั้ว ทั้งในมิติพรรคร่วมรัฐบาล กับพรรคฝ่ายค้าน ทั้งสงครามสีเสื้อการเมือง ระหว่างเหลืองกับส้ม
อย่างกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ยื่น กกต.ตรวจสอบการมีสาขาพรรคของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล จากระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองย้อนหลัง เพราะอาจมีไม่ครบทั้ง 4 ภาค เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง
ขณะที่ “หมออ๋อง” ประดิพัทธ์ สันติภาดา อดีต ส.ส.พิษณุโลกเขต 1 เดินหน้าเปิดตัว “โฟล์ค” ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ อดีตผู้ช่วย สส. ลงสนามเลือกตั้งเขต 1 แทนตัวเอง ในนามพรรคประชาชน
การเคลื่อนไหวของหมอวรงค์ ส่งผลให้ด้อมส้มรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจ พร้อมท้าพรรคไทยภักดี ส่งผู้สมัคร สส.ลงเลือกซ่อม เพื่อให้คนพิษณุโลกได้ตัดสินใจในคูหาเลือกตั้ง
ถ้า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี รับคำท้าของด้อมส้ม ก็ไม่ต่างจากการรีแมตช์เลือกตั้งปี 2562 เพราะเป็นปีที่ “หมออ๋อง” ลงท้าชิงแชมป์จาก “หมอวรงค์”
ยุคเหลืองพิดโลก
กล่าวสำหรับเขตเลือกที่ 1 อ.เมืองพิษณุโลก ในการเลือกตั้ง สส. นับแต่ปี 2544 จนถึงปี 2554 ถือว่าเป็นพื้นที่ของกลุ่มอนุรักษ์นิยม เมื่อผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับชัยชนะมาตลอด 4 สมัยคือ พิทักษ์ สันติวงศ์เดชา 1 สมัย และ หมอวรงค์ 3 สมัย
ปี 2543 นพ.วรงค์ สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย โดยการสนับสนุนของ เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก
เมื่อใกล้ถึงช่วงเลือกตั้งปี 2544 ยิ่งพันธ์ มนะสิการ อดีต สส.พิษณุโลก หลายสมัย ยกทีมออกจากพรรคประชากรไทย มาสังกัดพรรคไทยรักไทย เจ๊แดง-เยาวภา จึงให้ยิ่งพันธ์ ลงสมัคร สส.พิษณุโลก เขต 1 แทนหมอวรงค์
ปรากฏว่า คนเมืองพิดโลกไม่เอาทักษิณ ไม่เอายิ่งพันธ์ จึงเลือก พิทักษ์ สันติวงศ์เดชา ค่าย ปชป. เป็น สส.แบบว่าล็อกถล่ม
ปี 2548 หมอวรงค์ลาออกจากไทยรักไทย หันมาสวมเสื้อสีฟ้า พรรค ปชป.ลงสนามเขต 1 เอาชนะพิทักษ์ สันติวงศ์เดชา อดีต สส.ที่ย้ายจาก ปชป.ไป ทรท.
หลังจากนั้นอีก 2 สมัย(ปี 2550,2554) กระแสเสื้อเหลืองมาแรงในตัวเมืองพิดโลก หมอวรงค์ จึงชนะคู่แข่งแบบสบายๆ
ปี 2562 หมอวรงค์ ในภาพจำมือปราบจำนำข้าว ยังสวมเสื้อ ปชป.ลงสนาม และขายวาทกรรมต้านพวกชังชาติ กลับพ่ายหมออ๋อง นักการเมืองโนเนมชนิดสื่อพาดหัวว่า ล้มช้างเมืองพิดโลก
ยุคส้มเมืองสองแคว
“หมออ๋อง” ประดิพัทธ์ สันติภาดา จบปริญญาตรีจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ทำงานด้านการพัฒนาเยาวชนและแก้ไขปัญหาสังคมมาตั้งแต่ปี 2548
เลือกตั้งปี 2562 หมออ๋อง สวมเสื้อพรรคอนาคตใหม่ลงสนามเขต 1 อ.เมืองพิษณุโลก ในเวลานั้น ไม่มีใครคิดว่า หมออ๋อง จะชนะหมอวรงค์
จะว่าไปแล้ว หมอวรงค์ ในสีเสื้อ ปชป.แชมป์ 3 สมัย ก็ไม่ง่าย เพราะพรรคพลังประชารัฐ ส่ง เศรษฐา กิตติจารุรักษ์ อดีต สจ.พิษณุโลก ลงแข่งด้วย
เมื่อมีพลังประชารัฐเป็นตัวแทนของ 3 ป. ทำให้ฐานเสียงในค่ายทหาร 2 แห่งคือ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ ต้องเลือกพรรคลุงมากกว่าพรรคสีฟ้า
สุดท้าย หมออ๋องก็ได้รับเลือกเป็น สส. ตามด้วยอันดับ 2 สจ.เศรษฐา ในสีเสื้อพรรคลุง ส่วนหมอวรงค์ หล่นไปอยู่อันดับ 3
การเลือกตั้งปี 2566 ตอกย้ำว่า พรรค ปชป.ไม่ใช่ตัวแทนอนุรักษ์นิยมในเขต 1 และพรรคสีส้มยึดครองหัวใจคนสองแควไปเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น การเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้ แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะมีมติส่งเพียงพรรคเดียว เป็นตัวแทนฝ่ายอนุรักษ์นิยม ก็น่าจะตกเป็นรองพรรคประชาชน เพราะกระแสสีส้มมาแรงราวพายุลูกใหญ่