เสียงก้ำกึ่ง “เศรษฐา” ส่อรอดปรับ “ลุง” โจทย์ยากส่ง พปชร.กลับบ้านป่า

วันชี้ชะตา เศรษฐา รอดได้ไปต่อ ส่อปรับ ครม.ใหญ่ ล้างไพ่พลังประชารัฐ หากร่วง คงป่วนพิลึก ลุงบ้านป่ายังฝันลมๆแล้งๆ ล้างกระดานขั้วอนุรักษ์

 

จับสัญญาณเซียนการเมือง เสียงก้ำกึ่ง แต่คาดว่า รอด จึงมีรหัสลับ 6 : 3 ออกมาในโซเชียล ทั้งอ้างวงในและพรายกระซิบ 

 

ไม่ใช่แกนนำพรรคเพื่อไทยที่รอคอย นักธุรกิจใหญ่น้อยก็เฝ้ารอวันชี้ชะตา 14 ส.ค. 2567 เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยเศรษฐา ทวีสิน ว่าจะยังได้ไปต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ จากคดีแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ว่าขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ จากปมคดีถุงขนม 2 ล้านบาท

 

สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันที่ศาลนัดฟังคำวินิจฉัย กระแสเปลี่ยนตัวนายกฯ ค่อยลดระดับลง กลายเป็นความเชื่อที่ว่า นายกฯเศรษฐาจะรอด มาแรงมากขึ้น

เซียนการเมืองที่ประเมินว่า เศรษฐาน่าจะรอด ด้วยมติ 6 : 3 ได้อิงจากมติของ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันนี้ 23 พ.ค.2567 ที่ลงมติรับคำร้องคดีเศรษฐาไว้วินิจฉัย แบ่งออกเป็น 2 มติ

 

มติแรก ให้รับคำร้องไว้วินิจฉัยคือ 6 ต่อ 3 โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อยที่เห็นว่า ไม่ควรรับคือ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ,อุดม รัฐอมฤต และสุเมธ รอยกุลเจริญ

 

มติที่สอง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ไม่สั่งเศรษฐา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ

 

โดยทั้งสองมติดังกล่าวพบว่า นครินทร์,อุดม และสุเมธ ลงมติไปในทางที่เป็นคุณกับเศรษฐา คือลงมติไม่รับคำร้อง และไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

 

แสดงว่าเศรษฐา มีเสียงที่เป็นคุณอยู่ในมือแล้ว 3 เสียง ถ้า 14 สิงหา มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 2 เสียง มาลงมติที่เป็นคุณเพิ่ม นายกฯเศรษฐาก็รอดแต่เซียนการเมืองกลับเชื่อว่า จะได้มาเพิ่ม 3 เสียง รวมเป็น 6 เสียง จึงเป็นที่มาของรหัสลับ 6 : 3 

 

โจทย์ยากปรับลุงออก

 

ฉากทัศน์การเมือง กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เศรษฐา รอดพ้นบ่วงคดี ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินเดินหน้าต่อไปได้

 

นัยว่าไฟต์บังคับนายกฯเศรษฐา ต้องปรับ ครม.แน่นอน เพราะทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ทำหนังสือถึงนายกฯ ขอเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเองรวมถึงทวงเก้าอี้ รมช.ที่เป็นโควตาของ รทสช.

 

โจทย์ยากของเศรษฐาคือ การปรับ ครม. ที่เอาพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เหตุจากนายใหญ่ไม่ปลื้มลุงบ้านในป่าที่พยายามเดินเกมล้มรัฐบาล และแอบหวังนั่งนายกฯส้มหล่น

 

ทุกวันนี้ 40 สส.พลังประชารัฐ แยกเป็น 2 สายคือ สายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และสายตรง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยต่างฝ่ายต่างคุมเชิงกันอยู่

 

สงครามข่าวสาร จึงถูกปล่อยมาเป็นระลอก ทั้งฝ่ายลุงบ้านในป่า และฝ่ายผู้กอง เช่นปรับ ครม.ชุดใหญ่ ไม่มีชื่อลุงป๊อด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และริบเก้าอี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

ตรงกันข้าม ร.อ.ธรรมนัส อาจได้ควบเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี และสันติ พร้อมพัฒน์ จะได้เลื่อนชั้นเป็น รมว.พัฒนาสังคมฯ ส่วนเก้าอี้ รมช.สาธารณสุข ตกเป็นของกลุ่มกำแพงเพชร(ซุ้มวราเทพ)

 

ลุงฝันลมๆแล้งๆ

 

ฉากทัศน์ที่เลวร้ายสำหรับเพื่อไทย หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เศรษฐา ไม่รอด ต้องพ้นเก้าอี้นายกฯ และ ครม.เศรษฐา จะพ้นเก้าอี้ทั้งคณะ

 

ก่อนหน้านี้ มีการพูดเรื่องเปลี่ยนตัวนายกฯ กรณีเศรษฐาร่วง ซึ่งปัจจุบัน ในซีกพรรคร่วมรัฐบาล มี 5 แคนดิเดตที่เหลืออยู่ในบัญชีที่พรรคการเมืองยื่นต่อ กกต.ประกอบด้วย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย

 

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

 

ว่ากันตามจริง ผู้ที่พยายามเคลื่อนไหวทางการเมืองและหวังจะเป็นนายกฯ กรณีนายกฯเศรษฐา ไม่รอดคือ ลุงบ้านในป่า

 

ลุงบ้านในป่า ได้สุมหัวคุยกับคนใกล้ชิดเรื่องล้างกระดานพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งเกมนอกสภา ที่จะมีม็อบต้านระบอบทักษิณ ภาค 2 กดดันเพื่อไทยให้ถอย

 

แม้จะถูกเย้ยหยันว่า ลุงฝันลมๆแล้งๆ แต่ขึ้นชื่อพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ก็ไม่ยอมสิ้นไฟฝัน ตราบเท่าที่ตุลาการยังไม่มีคำวินิจฉัย