อนาล็อกขาสั่น “ทักษิณ” ปลุก สส.ดีเอ็นเอ “เพื่อไทย” สู้ทัพเอไอสีส้ม

เอฟเฟกต์ยุบก้าวไกล ทักษิณ ปลุกดีเอ็นเอเพื่อไทย สู้เอไอสีส้ม เดินแนวทางมวลชน อนาล็อกแต่ก็ทันสมัย นายใหญ่ทัวร์ขอบคุณคนเสื้อแดง

 

กระแสสีส้มใหม่ พรรคประชาชนแรงราวพายุ สส.เพื่อไทยสั่นไหว ภาคเหนือ และภาคอีสาน นายใหญ่จับสัญญาณได้ ปลุกใจ สส. อย่ากลัวกองทัพเอไอสีส้ม

 

บ่ายวันที่ 13 ส.ค.2567 การประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ที่อาคารชินวัตร 3 ในสัปดาห์นี้ ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำทางจิตวิญญาณเดินทางเข้าไปพูดคุยกับ สส. และอดีต สส. ที่มาร่วมประชุมแน่นห้อง

มีรายงานจากพรรคเพื่อไทย ถ่ายทอดคำพูดของทักษิณ ซึ่งพอสรุปใจความได้ว่า นายใหญ่ปลุกเร้าลูกพรรคให้มีความฮึกเหิม และอย่าหวั่นไหวในกระแสพรรคสีส้มใหม่ “เชื่อว่าหลักร้อยจะอยู่แค่สมัยนี้ ถ้าเราทำอีก 3 ปี พรรคเพื่อไทยจะได้ 200 ขึ้น..”

 

ทักษิณ ชินวัตร ผู้มากประสบการณ์มีหรือจะสัมผัสความแรงของกระแสสีส้มไม่ได้ จึงกระตุ้นลูกพรรคว่า “เมื่อเป็น สส.ต้องรู้จักกตัญญูกับประชาชน ทุกครั้งที่ได้รับเลือกตั้งต้องไปดูแลประชาชน จากนี้ผมก็จะไปเยี่ยมเยียนประชาชน ไปขอบคุณเขา”

 

เหนืออื่นใด ทักษิณได้วางแนวทางการปั้น สส.เขต “...เราจะไม่ทิ้งคนที่มีดีเอ็นเอเพื่อไทย ที่สอบไม่ผ่านครั้งนี้ เราจะนำคนเหล่านั้น มาร่วมทำงานเพื่อให้ได้เป้าหมายที่ต้องการ”

 

เนื่องจากก่อนหน้านี้มีข่าววิเคราะห์ทำนองว่า นายใหญ่พุ่งเป้าไปหา สส. “บ้านใหญ่” จากพรรคอื่น ส่วน อดีต สส. และอดีตผู้สมัคร สส.เพื่อไทยที่สอบตก พรรคจะไม่ดูแล และปั้นคนรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน

 

แม่ทัพเอไอสีส้ม

 

พลันที่ยุบพรรคก้าวไกล และก่อเกิดพรรคประชาชน อย่างทันท่วงที โดยไม่มี สส.สีส้ม 143 คน แยกตัวออกไปสังกัดพรรคอื่น พรรคใหม่ของด้อมส้ม จึงได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างคึกคักและครึกโครม

 

เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2567 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ ได้ไปหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี ได้กล่าวถึง “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เหมาะสมกับการเป็นผู้นำคนใหม่

 

“ณัฐพงษ์ เขาคือเอไอทางการเมือง คือเอไอที่มีหัวใจ เขาจะเป็นคนที่จะใช้ระบบเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนแน่นอน เขาเป็นคนที่รู้ลึก สุภาพ เข้มแข็ง นิ่ง พูดน้อยต่อยหนัก และเรียนรู้ได้เร็วมาก”

 

อย่างที่ทราบกัน เท้ง ณัฐพงษ์ เป็นฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูล และดิจิทัลมาตั้งแต่อนาคตใหม่ จนมาถึงก้าวไกล จึงไม่แปลกที่พิธายกย่องเท้งให้เป็น “เอไอทางการเมือง”

 

ไม่มีใครปฏิเสธว่า ศตวรรษที่ 21 ปัญญาประดิษฐ์ (AI หรือ artificial intelligence) เข้ามาสู่ชีวิตมนุษย์ในด้านต่างๆ อย่างมาก รวมถึงมีการใช้ AI มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง อย่างเช่นการผลิตคลิปวิดีโอหาเสียงจนกลายเป็นไวรัล

 

นายใหญ่ค่ายเพื่อไทย สมัยที่อยู่ต่างแดนยังเคยหลุดปากว่า กระบวนการไอโอของสีส้ม เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เพื่อไทยพ่ายแพ้ ซึ่งจริงๆแล้ว นายใหญ่น่าจะเข้าใจผิดระหว่าง “ไอโอ” กับ “เอไอ”

 

อนาล็อกสู้เอไอสีส้ม

 

หลายคนคงจำได้ หลังแพ้เลือกตั้งปี 2566 ทักษิณ ชินวัตร ได้ตำหนิลูกพรรคทำนองว่า “หลายคนที่สอบตก มีประวัติไม่ลงพื้นที่”

 

ในการประชุม สส.เพื่อไทย เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ทักษิณก็ยังบอกว่า “การสร้างโอกาสของพรรคเพื่อไทย จะประสบความสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่มี สส.ที่ขยันลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน”

 

คำว่า “ขยันลงพื้นที่” คือปัญหาใหญ่ของอดีต สส.เพื่อไทย เนื่องจากเคยชินกับการได้เป็น สส.แบบง่ายๆ อาศัยกระแสทักษิณ และพรรคเพื่อไทยก็เข้าสภาฯแล้ว

 

“ขออย่าไปหวั่นไหวกับเอไอ ไม่ต้องกลัว เพราะเอไอทันสมัย พรรคเพื่อไทยก็เป็นพรรคที่ทันสมัย มุ่งเน้นลดความเหลื่อมล้ำให้คนไทยเท่ากันด้วยโอกาส”

 

ดูเหมือนทักษิณยังเชื่อมั่นในกลยุทธ์เดิมๆคือ เกาะติดมวลชน ใจถึงใจ พร้อมคอนเทนต์ทันสมัยย่อมได้ผลกว่าเอไอ สร้างคอนเทนต์ปลอมๆ ปั่นคลิปไวรัลผ่านสื่อโซเชียล