แพ้สิบทิศ “ธนาธร-พิธา” ฝ่าไม่ผ่านอุปถัมภ์ “บ้านใหญ่” อบจ.เขตส้มห้ามเข้า
พ่ายระบอบบ้านใหญ่ "ธนาธร-พิธา" สรุปบทเรียนแบบไหน ปลุกกระแสส้มไม่ขึ้น แพ้ 5 จังหวัดรวด "อบจ." เขตส้มห้ามเข้า
แพ้สิบทิศ ธนาธร-พิธา สรุปบทเรียนแบบไหน ปลุกกระแสไม่ขึ้น ระบอบบ้านใหญ่ ฝังลึกท้องถิ่น อบจ.กลายเป็นเขตส้มห้ามเข้า
เหลือสนาม อบจ.ราชบุรี 1 กันยา ล้างอาถรรพ์ส้มล้มบ้านใหญ่ พิธา-ณัฐพงษ์ จะแก้เกมอย่างไร ไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้า และคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อย
สมัยที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ส่งผู้สมัครนายก อบจ. 42 จังหวัด ก็ไม่ประสบชัยชนะแม้แต่จังหวัดเดียว
ผ่านมาถึงยุค พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อบจ.ก็ยังเป็นเขตห้ามเข้าของพลพรรคสีส้ม เหลือที่ อบจ.ราชบุรี ยังรอการพิสูจน์ฝีมือเฮียเท้ง
นับแต่เดือน มี.ค. จนมาถึงวันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค.2567 มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ไปแล้ว 9 จังหวัดคือ เลย,นครสวรรค์,อ่างทอง,ปทุมธานี,พระนครศรีอยุธยา,ชัยนาท,พะเยา,ชัยภูมิ และพิษณุโลก ปรากฏว่า นักการเมืองซุ้มบ้านใหญ่ ยังยึดครอง อบจ.
เฉพาะ 5 จังหวัดที่มี “คนสีส้ม” ลงแข่งก็แพ้หมด ไม่ว่าจะเป็นเลย,พระนครศรีอยุธยา,ชัยนาท, พะเยา และพิษณุโลก
คำว่า “คนสีส้ม” หมายถึงผู้สมัครนายก อบจ.ที่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ยกเว้น อบจ.ราชบุรี อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล มีมติส่งสมัครในนามพรรคเป็นคนแรก
ล่าสุด หนูนา-สิริพรรณ คุณประจักษ์นุกูล ศิษย์หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ สันติภาดา พ่าย มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก 2 สมัย ซึ่งกว่าจะได้นั่งนายก อบจ.สมัยที่ 3 เสี่ยนก-มนต์ชัย ก็ต้องทำงานหนัก รวมถึงการใช้กลยุทธ์หาเสียงผ่านสื่อโซเชียล
อบจ.เขตห้ามส้มเข้า
ถ้อยวลีของด้อมเหลืองที่เย้ยหยันด้อมส้ม “ยังมีราชบุรีให้แพ้อีก” ก็ลองไปสำรวจ 5 สนามนายก อบจ. ที่มี “คนสีส้ม” ลงสนามชนกับ “บ้านใหญ่” และประสบความพ่ายแพ้
นายก อบจ.เลย : ชัยธวัช เนียมศิริ (ตัวแทนธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ อดีตนายก อบจ.เลย) ได้ 119,334 คะแนน ชนะ จีระศักดิ์ น้อยก่ำ สมาชิกพรรคก้าวไกล ได้ 99,031 คะแนน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 256,011 คน คิดเป็น 51%
นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา : สมทรง พันธ์เจริญวรกุล (ภูมิใจไทย) ได้ 245,381 คะแนน ชนะวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ สมาชิกพรรคก้าวไกล ได้ 114,746 คะแนน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง391,122 คน คิดเป็น 59.49%
นายก อบจ.ชัยนาท : จิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา (ตระกูลนาคาศัย) ได้ 63,485 คะแนน ชนะ สุทธิพจน์ เชื้ออภัยวงษ์ สมาชิกพรรคก้าวไกล ได้ 45,202 คะแนน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 133,952 คน คิดเป็น 51.92%
นายก อบจ.พะเยา : ธวัช สุทธวงค์ (เพื่อไทย-ธรรมนัส)ได้ 174,669 คะแนน ชนะประพันธ์ สิงห์ชัย สมาชิกพรรคก้าวไกล ได้ 35,172 คะแนน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 234,745 คน คิดเป็น 61.76%
นายก อบจ.พิษณุโลก : มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ได้ 214,519 คะแนน ชนะสิริพรรณ คุณประจักษ์นุกูล สมาชิกพรรคก้าวไกล ได้ 104,163 คะแนน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 361,642 คน คิดเป็น 50%
มีข้อสังเกตว่า จำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. จะอยู่ประมาณ 50% หรือ 60% เทียบกับเลือก สส. จะมีผู้ใช้สิทธิมากถึง 70%-80%
เอฟเฟกต์เลือกซ่อม
เมื่อคลี่ผลคะแนนนายก อบจ.เมืองสองแคว เฉพาะเขต อ.เมืองพิษณุโลก ปรากฏว่า มนต์ชัยได้ 49,896 คะแนนเฉือนชนะหนูนา สิริพรรณ ที่ได้ 41,596 คะแนน
สำหรับ อ.เมืองพิษณุโลก ที่มีทั้งหมด 20 ตำบล ในการเลือกตั้ง สส. ทาง กกต.ได้แบ่งออกเป็น 3 เขตคือ เขต 1 เขต 2 และเขต 4
เขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 9 ตำบลคือ ในเมือง อรัญญิก วัดจันทร์ บ้านคลอง พลายชุมพล ท่าทอง บึงพระ วัดพริก และวังน้ำคู้
เฉพาะ 9 ตำบลนี้ ปรากฏว่า หนูนา สิริพรรณ สายสีส้ม ชนะมนต์ชัยทุกตำบล โดยเฉพาะเขต ต.ในเมือง และ ต.อรัญญิก สีส้มยังมาแรง
ส่วนอีก 11 ตำบลที่ถูกแยกไปอยู่เขต 2 และเขต 4 มนต์ชัยมีคะแนนทิ้งห่างหนูนา แสดงว่า ในเขตรอบนอก ระบอบอุปถัมภ์บ้านใหญ่ยังมีอิทธิพลอยู่
เมื่อพิจารณาจากผลคะแนนนายก อบจ. เฉพาะเขต อ.เมืองพิษณุโลกดังข้อมูลข้างต้นนี้ ก็ประเมินได้ว่า เลือกตั้งซ่อม สส.เขต 1 พรรคประชาชนยังเป็นต่อเพื่อไทย และพลังประชารัฐ