ป่ากระเจิง “ประวิตร” เดินพลาดพ่วง “สันติ” จับตาซุ้มมะขามไม่หวาน

กลืนเลือด ประวิตร เดินหมากพลาด ผู้กองหักดิบ ปมเหตุเพราะสันติ กล่อมลุงบ้านป่าจนเคลิ้ม เร่งปิดเกม เจอโต้กลับป่ากระเจิง

 

ซุ้มมะขามไม่หวาน สันติหลุดเก้าอี้รัฐมนตรี ร้อนถึงนายกด๊อยซ์ บ้านใหญ่เพชรบูรณ์ ต้องออกมากู้สถานการณ์ แต่ก็ช้าไปแล้ว

 

สถานการณ์บ้านป่ารอยต่อ ตกอยู่ในสภาพบ้านแตกและป่ากระเจิง เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หิ้ว สส.ประมาณ 20 ชีวิตไปตั้งหลักที่ซุ้มพะเยาปลดแอก

 

แม้จะมีข่าวว่า สส.ซุ้มมะขามหวาน 6 คน ได้ยกทัพกลับมาบ้านป่ารอยต่อ เมื่อรวมกับ 14 คนที่ปักหลักอยู่ก่อนแล้ว ก็ราว 20 คน แต่พลันที่รู้ว่า ค่ายบ้านในป่า เสีย 2 เก้าอี้รัฐมนตรีไปให้พรรคประชาธิปัตย์ คาดว่า สส.นับสิบก็คงเผ่นไปซบค่ายผู้กอง

วันที่ 22 ส.ค.2567 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงต้องมาแก้ข่าวเรื่องยกพรรคพลังประชารัฐให้ ร.อ.ธรรมนัส ดูแล และยืนยันไม่ลาออกจากหัวหน้าพรรค และจะทำหน้าที่นี้ต่อไป

 

ชั่วโมงนี้ มีความชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยจะส่งเทียบเชิญพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งจะชื่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน นั่งเก้าอี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเดชอิศม์ ขาวทอง นั่งเก้าอี้ รมช.สาธารณสุข

 

นั่นย่อมหมายความว่า สันติ พร้อมพัฒน์ หลุดรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย พล.อ.ประวิตร

ลุงบ้านในป่ายังสู้

 

ช่วงต้นสัปดาห์นี้ เกิดความชุลมุนวุ่นวายในพรรคพลังประชารัฐ หลังฝุ่นจาง ก็พอจะเห็นตัวละครที่จุดชนวนความปั่นป่วนในพรรคพลังประชารัฐ นั่นคือ สันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

 

ปมปัญหาความแตกแยกของลุงบ้านในป่ากับลูกรัก-ธรรมนัส มาจาก พล.อ.ประวิตร ชิงส่งรายชื่อรัฐมนตรีของ พปชร.ไปให้แกนนำเพื่อไทย วางตัว สันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.เกษตรฯ แทน ร.อ.ธรรมนัส เพราะสันติให้ข้อมูลว่า ธรรมนัสมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติส่วนตัว น่าจะไม่ผ่านด่านจริยธรรม

 

วันถัดมา ร.อ.ธรรมนัส แถลงประกาศอิสรภาพ ตัดจบความสัมพันธ์ 6 ปีกับลุงป้อม และโชว์พลัง สส.ในซุ้มประมาณ 22 คน บวก สส.พรรคเล็กอีก 5 คน ที่กระทรวงเกษตรฯ

 

ที่น่าสนใจ ซุ้มมะขามหวาน 6 คน แยกเป็น 2 ฝั่งโดยสันติ เข้าบ้านป่ารอยต่อฯ แต่วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ไปที่กระทรวงเกษตรฯ

 

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้มาจาก “นายกด๊อยซ์” อัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ โทรหาสันติให้เคลียร์ใจกับผู้กอง สันติกับธรรมนัส จึงได้คุยกัน เหมือนจะคุยกันได้ แต่สุดท้าย สันติก็เหยียบเรือสองแคม

 

เวลาเดียวกัน มีกระแสข่าวหนาหูว่า ทักษิณบอกให้สันติอย่าเหยียบเรือสองแคม และให้ถอยออกมาจากฝั่งลุงป้อม

 

เช้าวันที่ 21 ส.ค.2567 ร.อ.ธรรมนัส ไปพบทักษิณ ส่งโผ ครม.ในสัดส่วนของซุ้มตัวเอง 2 ตำแหน่งคือ อัครา พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ และอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ

 

ขณะที่นายกด๊อยซ์ อัครเดช ลูกชายเอี่ยม ทองใจสด อดีต สส.เพชรบูรณ์ ต่อสายหา สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เพื่อขอโอกาสพูดคุยกับทักษิณ ปรากฏว่าได้รับการปฏิเสธ

 

เท่ากับว่า ฝั่งลุงป้อม ที่มีซุ้มมะขามหวาน พร้อม สส.อีกจำนวนหนึ่ง จะต้องตัดสินใจอนาคตของพลังประชารัฐ เป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล

 

มะขามไม่หวาน

 

จริงๆแล้ว สันติ พร้อมพัฒน์ ไม่ใช่คนเพชรบูรณ์โดยกำเนิด แต่สันติ กลายเป็นผู้มากบารมีในเพชรบูรณ์ได้ เพราะบุคคลคนนี้คือ “นายกด๊อยซ์” อัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์

 

ที่ผ่านมา นายกด๊อยซ์ เป็นแกนหลักในการบริหารจัดการการเมืองในระดับพื้นที่ มีเครือข่ายผู้นำท้องถิ่นเป็นฐานสนับสนุน ทำให้สันติได้โลดแล่นบนการเมืองสนามใหญ่ มีตำแหน่งรัฐมนตรีมาหลายสมัย  

 

นายกด๊อยซ์ เป็นลูกชาย เอี่ยม ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ 8 สมัย ฉายา “เจ้าพ่อวิเชียรบุรี” ซึ่งเสี่ยเอี่ยมลงหลักปักฐานทำธุรกิจ และเล่นการเมืองที่ อ.วิเชียรบุรี มายาวนาน

 

นายกด๊อยซ์-อัครเดช ลูกชาย สส.เอี่ยม เป็นนายก อบจ.เพชรบูรณ์ 6 สมัย และ จินตนา ทองใจสด ภรรยาของอัครเดช เป็นนายกเทศมนตรีตำบลพุเตย นี่เป็นฐานการเมืองของบ้านใหญ่ทองใจสด

 

น่าจับตาว่า นายกด๊อยซ์ จะเลือกทักษิณ หรือเลือกลุงป้อม เหมือนที่สันติเลือกข้างในวันนี้ และหากนายกด๊อยซ์ไม่เดินตามสันติ ซุ้มมะขามหวานก็จบเห่