คอลัมนิสต์

ยึดกลาโหม “ทักษิณ” ต่ออายุดีลรัก “ประยุทธ์” สู้เกมนิติสงครามฝ่ายแค้น

04 ก.ย. 2567

เกมนิติสงครามฝ่ายแค้น “ทักษิณ” ต่ออายุดีลรัก “ประยุทธ์” วางตัว “ภูมิธรรม-พล.อ.ณัฐพล” คุมกลาโหม สกัดม็อบต้านชินวัตร

รัฐบาลพิเศษ ทักษิณ ต่ออายุดีลรัก ประยุทธ์ วางตัว ภูมิธรรม-พล.อ.ณัฐพล คุมกลาโหม สู้เกมนิติสงครามฝ่ายแค้น

 

ชื่อ พล.อ.ณัฐพล ติดโผ รมช.กลาโหม มาแต่รัฐบาลเศรษฐา เหตุทักษิณยังระแวง เกมนิติสงครามแผลงฤทธิ์ นายใหญ่จึงยอมเปิดทาง

 

ใกล้เที่ยงวันที่ 4 ก.ย.2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ที่ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ โดย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

สื่อออนไลน์ส่วนใหญ่ พาดหัวทำนองว่า “ครม.อุ๊งอิ๊ง 1 ตามโผเป๊ะ บิ๊กอ้วน กลาโหม เด็กบิ๊กตู่ นั่ง รมช.” โดยให้ความสำคัญกับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม และรัฐมนตรีช่วยกลาโหม

 

เนื่องจากภาพของ ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นตัวแทนของทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ก็เป็นน้องรักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

ดังนั้น ในรัฐบาลแพทองธาร มีอ้วน ภูมิธรรม และ บิ๊กเล็ก ณัฐพล คุมกองทัพและความมั่นคง จึงเป็นภาคต่อของดีลรักดีลข้ามขั้วเมื่อปีที่แล้ว

 

หากมองภาพทั้งกระดานอำนาจ พรรคประชาชนหรือพลพรรคสีส้ม ถูกจัดให้เป็นคู่ขัดแย้งหลักของชนชั้นนำ โดยมีพรรคของทักษิณ และพันธมิตรยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง

 

17-18 ปีที่ผ่านมา ทักษิณ และชนชั้นนำ(อนุรักษนิยม) ต่อสู้ห้ำหั่นกัน ผลัดกันแพ้ชนะ เหมือนสงครามไม่รู้จบ และทักษิณเองก็อายุอานามล่วงผ่านปีที่ 75

 

ชัยชนะของพรรคสีส้ม ก่อให้เกิดดีลข้ามขั้วหรือรัฐบาลเศรษฐา โดยเพื่อไทยเป็นแกนนำ ที่มีรวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐเข้าร่วมรัฐบาล จึงอุบัติขึ้นเมื่อปี 2566

 

ชั่วโมงนี้ รัฐบาลแพทอง กำเนิดขึ้น โดยเพื่อไทยยังจับมือรวมไทยสร้างชาติ เขี่ยพลังประชารัฐเป็นฝ่ายค้าน ยิ่งทำให้ทักษิณ ต้องพึ่งพาลุงตู่ สู้เกมนิติสงคราม

 

คนวงในบ้านจันทร์

 

สองสัปดาห์ก่อนโน้น มีกระแสข่าว ภูมิธรรม เวชยชัย จะขยับจาก รมว.พาณิชย์ มานั่ง รมว.กลาโหม เมื่อเจอนักข่าว บิ๊กอ้วนก็พูดทีเล่นทีจริงว่า “ผมเป็นรัฐมนตรีเป็ด อาจจะเป็นเป็ดกองก็ได้ ซึ่งไม่หนักใจ เขาให้มาทำงาน มีงานให้ทำก็ทำ”

 

เมื่อมีความชัดเจน บิ๊กอ้วนจะได้นั่ง รมว.กลาโหม ก็แสดงความเห็นว่า “จะทำให้กองทัพเป็นกองทัพอยู่กับพี่น้องประชาชนได้ ช่วยเหลือประชาชนในยามทุกข์ยาก...ความเป็นผม สามารถพูดคุยกับทหารได้ทุกเหล่าทัพได้”

 

ทำไมกลาโหม ต้องเป็น ภูมิธรรม เวชยชัย และส่ง สุทิน คลังแสง กลับสภาฯ

 

ประการแรก ภูมิธรรม เป็นสายตรงทักษิณ บุคลิกสุขุมนุ่มลึก คิดแบบนักยุทธศาสตร์ บวกเชิงชั้นการเมืองสูง เหมาะกับการทำงานด้านความมั่นคง

 

ประการที่สอง ในฐานะรองนายกฯ ด้านความมั่นคง ภูมิธรรมจะได้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นความปรารถนาของนายใหญ่

 

ประการที่สาม ฝ่ายชนชั้นนำน่าจะไว้วางใจภูมิธรรม มากกว่าสุทิน เพราะสุทินเป็น สส.ภูธร มาจากนักเลือกตั้ง มีภูมิต้านทานต่ำ ถูกแทรกแซงจากคนบางกลุ่มได้ง่าย

 

ตรงกันข้าม ภูมิธรรม ไม่ใช่นักเลือกตั้ง เป็นเทคโนแคร็ตการเมือง ทำงานรับใช้นายใหญ่มา 30 ปี มีภูมิต้านทานสูง

 

น้องรักลุงตู่

 

อย่างที่รู้กัน ชื่อ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ติดโผ รมช.กลาโหม มาแต่รัฐบาลเศรษฐา แต่ก็ได้นั่งเลขานุการรัฐมนตรีกลาโหม (สุทิน คลังแสง)

 

ภาพความเป็นน้องรักลุงตู่ ปรากฏชัดในวันที่บิ๊กเล็ก นั่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในรัฐบาลประยุทธ์

 

บิ๊กเล็ก เป็นเตรียมทหารรุ่นที่ 20 (ตท.20) รุ่นเดียวกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. หลังรัฐประหาร 2557 เป็นเจ้ากรมยุทธการทหารบก รองเสนาธิการทหารบก และหัวหน้าส่วนอำนวยการ สำนักงานเลขาธิการ คสช.

 

ช่วงรัฐบาลประยุทธ์(หลังเลือกตั้งปี 2562) บิ๊กเล็ก เป็นเสนาธิการทหารบก รอง ผบ.ทบ. จากนั้นโอนย้ายมาเป็นเลขาฯ สมช. หลังเกษียณอายุราชการ พล.อ.ณัฐพล ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา)

 

การฟอร์ม ครม.อุ๊งอิ๊ง 1 โดยมีคนวงในบ้านจันทร์ส่องหล้า และน้องรักลุงตู่ ดูแลกองทัพและความมั่นคง นายใหญ่จึงลั่นคำว่า ยากที่จะเกิดการทำรัฐประหาร