คอลัมนิสต์

เสี่ยงแพ้ซ้ำ “พิธา” อุ้มเด็ก “หมออ๋อง” ชี้ขาดอำนาจรัฐ-กติกาเลือกซ่อม

ศึกพิษณุโลก "พิธา" ลุ้นเด็ก "หมออ๋อง" ส้มเสี่ยงแพ้ซ้ำราชบุรี ไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้า เจอทั้งบ้านใหญ่-อำนาจรัฐ

โค้งสุดท้าย พิธา ลุยพิษณุโลกอุ้มเด็กหมออ๋อง ลืมช้ำสนามราชบุรี มีต้นทุนแชมป์ 2 สมัย หากพ่ายก็ขวัญกระเจิง

 

ส่องสมรภูมิเลือกซ่อม สส.พิษณุโลก ศึกศักดิ์ศรีพรรคใหญ่ เพื่อไทย-ประชาชน ต่างมีจุดแข็งจุดอ่อน แพ้ชนะสูสีมาก

 

นับถอยหลังเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 แทน ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีต สส.พิษณุโลกเขต 1 ที่ต้องพ้น สส.จากคดียุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นการต่อสู้กันระหว่างเบอร์ 1 “โฟล์ค” ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ พรรคประชาชน และเบอร์ 1 “บู้” จเด็ศ จันทรา พรรคเพื่อไทย

 

ช่วงวันที่ 7-8 ก.ย.2567 ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะนำทีม สส.ไปช่วย โฟล์ค-ณฐชนน เดินเคาะประตูบ้านในเขตเทศบาลเมืองพิษณุโลก

ส่วนวันที่ 13 ก.ย.นี้ พรรคประชาชน จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ โดยมีแกนนำสีส้มทุกรุ่นมาขึ้นเวที เหมือนเวทีราชบุรี

 

ฝั่งพรรคเพื่อไทย ช่วงวันที่ 6-7 ก.ย.2567 เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมว.ท่องเที่ยวฯ ได้นำทีม สส. และ อดีต สส.ลงพื้นที่ช่วย บู้ จเด็ศ หาเสียง และวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้ มีการปราศรัยใหญ่ ที่เวทีสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ

 

ดังที่รู้กัน เขตเลือกตั้งที่ 1 อ.เมืองพิษณุโลก “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ได้รับเลือกเป็น สส.มาแล้ว 2 สมัย จึงถือว่าพรรคประชาชนเป็นต่อพรรคคู่แข่ง แต่บังเอิญเป็นการเลือกตั้งซ่อม ก็มีเหตุปัจจัยที่อาจทำให้ค่ายสีส้มพ่ายเหมือนกัน

เด็กหมออ๋อง มีแต้มต่อเรื่องกระแสพรรค

 

คนพิดโลกกลับบ้าน

 

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่าน “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ได้โพสต์เฟซบุ๊คเชิญชวนคนพิษณุโลกกลับบ้าน

 

“กลับจาก กทม. ด้วยเงิน 350 บาทครับ จ่าย 350 ได้คูปอง 20 บาท แลกน้ำ นม เครื่องดื่มได้ ไปกลับ 700 บาท คนพิดโลกไหวกันไหมครับ ในการกลับมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นั่งรถทัวร์มาเพลินๆ ถึง 15.00 น. ไปใช้สิทธิ์มันก่อนปิดหีบแน่นอน”

 

ก่อนหน้านั้น หมออ๋องก็โพสต์ว่า “การชนะเลือกตั้งซ่อม ไม่ง่ายนะครับ” พร้อมกล่าวถึงปัจจัยที่จะทำให้ค่ายส้มแพ้คือ “ไม่มีเลือกตั้งนอกเขต ไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้า การรวมพลังกันของนักการเมืองพรรคอื่น นักการเมืองท้องถิ่น เครือข่าย อสม. หัวคะแนน และปัจจัยที่สาม อำนาจรัฐ”

 

ตอนเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เปิดแคมเปญ “คนราดรีกลับบ้าน” ไปเลือกนายก อบจ. เพราะเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้า โดยทีมงานส้มใช้สื่อโซเชียลรณรงค์เต็มที่ แต่ก็มีคนไปใช้สิทธิ์เลือกนายก อบจ.ราชบุรี น้อยกว่าเลือกตั้ง สส.ราชบุรี ปี 2566

 

กติกาเลือกตั้งกลายเป็นโจทย์ยากของพรรคประชาชน หากซ้ำรอยราชบุรี มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ไม่ถึง 70% โอกาสที่โฟล์ค-ณฐชนน จะแพ้ก็มีสูง

 

เด็กปั้น สมศักดิ์ เทพสุทิน

 

แต้มต่อขั้วรัฐบาล

 

ตอนแรก สภากาแฟเมืองสองแควประเมินว่า พรรคประชาชนเป็นต่อพรรคเพื่อไทย เพราะหมออ๋อง เป็น สส.เขตนี้มา 2 สมัย แต่หาเสียงไปสักพัก ค่ายสีแดงแรงขึ้นมา และอาจแซงค่ายสีส้มเข้าป้าย

 

จากที่ไม่คิดจะสู้ สมศักดิ์ เทพสุทิน แม่ทัพเหนือตอนล่าง ก็มีความมั่นใจมากขึ้นว่า บู้ จเด็ศ จันทรา เด็กปั้นคนนี้ มีหน่วยก้านใช้ได้ โดนใจแม่ยกพ่อยก

 

ในแง่กระแสพรรค ต้องยอมรับว่าเพื่อไทยตกเป็นรอง แต่ก็มีปัจจัยที่ บู้-จเด็ศ จะเบียดชนะได้เหมือนกัน

 

ปัจจัยแรก ทีมงานมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ว่าที่นายก อบจ.พิษณุโลก ให้การสนับสนุน

 

ปัจจัยที่สอง เพื่อไทย  ,พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ รวมเป็นหนึ่งเดียว ถ้าเอาคะแนนเลือกตั้ง สส.พิษณุโลก มากางดูเฉพาะเขต 1 เกือบ 5 หมื่นแต้ม

 

ธรรมชาติเลือกตั้งซ่อม ก็ไม่ค่อยมีชาวบ้านตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งทั่วไป เรื่องนี้ก็ไม่เป็นผลแก่ค่ายสีส้มมากนัก

 

หากวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย.นี้ มีคนแห่เข้าคูหามากกว่า 70% โฟล์ค เด็กหมออ๋องก็ชนะ แต่ถ้ามีคนมาใช้สิทธิ์ 50% บู้ จเด็ศ เด็กสมศักดิ์ก็เข้าป้าย

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวยอดนิยม