คอลัมนิสต์

อดีตไล่ล่า “ชาญ” พ่วงบ้านใหญ่ “นายกเบี้ยว” สะเทือนศึก อบจ.ปทุมฯ

อดีตไล่ล่า “ชาญ” พ่วงบ้านใหญ่ “นายกเบี้ยว” สะเทือนศึก อบจ.ปทุมฯ

11 ก.ย. 2567

ศึกใบเหลือง “ชาญ พวงเพ็ชร์” เจออดีตไล่ล่า พ่วงบ้านใหญ่ “นายกเบี้ยว” ส่งผล "คำรณวิทย์" ถือแต้มต่อ พท.เป็นรอง

อดีตไล่ล่า ชาญ พวงเพ็ชร์ พ่วงบ้านใหญ่ นายกเบี้ยว ติดบ่วงคดี เป็นรอง คำรณวิทย์ เลือกนายก อบจ.ปทุมฯรอบสอง

 

ศึกใบเหลือง แจ๊ส คำรณวิทย์ มีแต้มต่อ ลุงชาญเหนื่อย เพื่อไทยหืดจับ วัดพลังบ้านใหญ่เมืองปทุม จะอุ้มไหวมั้ย

 

สมรภูมินายก อบจ.ปทุมธานี รอบที่สอง ค่อนข้างเงียบเหงา ชาญ พวงเพ็ชร์ และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ต่างฝ่ายต่างมีทีมงานออกหาเสียง แต่ไม่คึกคัก

 

ในความเงียบก็มีข่าวใหญ่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีหนังสือถึง กกต.ปทุมธานี ให้ดำเนินคดีอาญาแก่ กฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ปมทุจริตช่วย ชาญ พวงเพ็ชร์ เป็นนายก อบจ.ปทุมธานี

 

อันสืบเนื่องมาจากงานบวชลูกชาย ซึ่งได้มีการจัดเลี้ยงและมหรสพ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ผู้สมัคร นายก อบจ.ปทุมธานี

 

ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2567 กกต.มีมติแจกใบเหลือง ชาญ พวงเพ็ชร์ กรณี จัดเลี้ยงและมหรสพ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้ตัวเอง

 

สำหรับการให้ใบเหลืองนี้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ทั้ง 4 คนเดิม สามารถแข่งขันและรณรงค์หาเสียง โดยใช้หมายเลขเดิม โดย กกต.ปทุมธานี กำหนดวันเลือกตั้งคือ วันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย.2567

 

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อ 30 มิ.ย.2567 ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดเรียงตามลำดับดังนี้

 

อันดับ 1 ชาญ พวงเพ็ชร์ กลุ่มปทุมรักไทย พรรคเพื่อไทย ได้ 203,032 คะแนน

 

อันดับ 2 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กลุ่มคนรักปทุม ได้ 201,212 คะแนน

 

อันดับ 3 นพดล ลัดดาแย้ม ได้ 16,983 คะแนน อันดับ 4 อธิวัฒน์ สอนเนย ได้ 7,122 คะแนน

 

เลือกตั้งรอบใหม่ ชาญ เป็นรองคำรณวิทย์ เพราะคดีค้างเก่า

บ้านใหญ่กระเจิง

 

เป็นที่ทราบกันดีว่า กองหนุนที่สำคัญของ ชาญ พวงเพ็ชร์ คือ กลุ่มบ้านใหญ่ปทุมธานี 8 ซุ้ม และหนึ่งในนั้นคือ “นายกเบี้ยว” กฤษฎา หลีนวรัตน์

 

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2567 ชาญ พวงเพ็ชร์ ได้พานักการเมืองท้องถิ่นหรือบ้านใหญ่ 8 ซุ้ม ไปพบทักษิณ ชินวัตร ที่โครงการเรนจ์วูดปาร์ค ลำลูกกา คลอง 11

 

ถัดมา ทักษิณก็ไปเป็นประธานงานบวชลูกชายคนเล็กของนายกเบี้ยว ในวันที่ 8 มิ.ย.2567 ที่ลานข้างเทศบาลตำบลธัญบุรี (คลอง 7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี

 

ลึกๆแล้ว ในกลุ่มบ้านใหญ่ 8 ซุ้มนั้น มีอยู่ 2 ซุ้มที่เป็นกองกำลังหลักในการช่วยเหลือลุงชาญคือ นายกเบี้ยว-กฤษฎา หลีนวรัตน์ บิดา ฟลุค-มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ เป็น สส.ปทุมธานี เขต 5

 

บ้านใหญ่ธัญบุรี เป็นเพื่อนตายสหายศึกของชาญ พวงเพ็ชร์ มาแต่สมัยก่อตั้งกลุ่มปทุมรักไทย ปี 2547

 

นายกแป๊ะ-สายัณ นพขำ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง บิดา ศุภชัย นพขำ อดีต สส.ปทุมธานี ก็เป็นบ้านใหญ่อีกหลังหนึ่งที่เป็นมิตรแท้ของลุงชาญ

 

การเลือกตั้งนายก อบจ.รอบใหม่ 22 ก.ย.นี้ ก็น่าจับตาดูว่า บ้านใหญ่เมืองปทุมฯ ทั้ง 8 ซุ้ม ยังพร้อมอกพร้อมใจหนุนช่วยลุงชาญหรือไม่

 

แจ๊สเป็นต่อลุงชาญ

 

สภากาแฟทุกวงในเมืองปทุมฯ ต่างมองไปในทิศทางเดียวกัน ศึกใบเหลืองสนาม อบจ.ปทุมธานี “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็นต่อลุงชาญ

 

สืบเนื่องจาก ชาญ พวงเพ็ชร์ ยังมีคดีค้างเก่า สมัยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ปี 2555 ถูกร้องเรียนกรณีทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และส่งฟ้องศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1

 

ชาญได้ยื่นขอประกันตัวสู้คดี และศาลไม่ได้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะเวลานั้น ครั้นได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.เมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงมีคำถามตามมาว่า ชาญจะปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่

 

ด้วยเหตุนี้ แจ๊ส คำรณวิทย์ จึงชูคำขวัญ “เลือกผม ทำงานได้ทันที” คล้ายจะบอกว่า ถ้าเลือกลุงชาญได้เป็นนายก อบจ. ก็ยังทำงานทันทีไม่ได้

 

จะว่าไปแล้ว หนที่แล้ว แจ๊ส คำรณวิทย์ มีกระแสความนิยมสูงกว่าลุงชาญ เหมือนผลสำรวจของนิด้าโพลล์ แต่มีผู้มาใช้สิทธิ์น้อยกว่าที่คาด

 

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จึงพ่ายเกมจัดตั้งของฝั่งลุงชาญ ที่มีกลุ่มบ้านใหญ่ และพรรคเพื่อไทย เป็นกองหนุน