คอลัมนิสต์

คลิปพิฆาต “ประวิตร” ถล่ม “วงษ์สุวรรณ” เสือแค้นพุ่งเป้าวอร์รูม ป.คนที่ 4

ตาต่อตาฟันต่อฟัน “ประวิตร” เจอคลิปพิฆาต "พรรควงษ์สุวรรณ" พุ่งเป้าวอร์รูมใหม่ “ป.คนที่ 4” คุมทัพนิติสงคราม

คลิปพิฆาต ประวิตร เสือแค้นตีโต้พรรควงษ์สุวรรณ พุ่งเป้าวอร์รูมใหม่ ป.คนที่ 4 จับคู่ไพบูลย์ คุมทัพนิติสงคราม

 

ย้อนอดีต รอยร้าว 3 ป. หลัง ป.ที่ 4 ปรากฏตัวหลังม่านบ้านป่า ยุทธการล้มประยุทธ์ สอดประสานคลิปเสียงลุงขอเป็นเบอร์หนึ่ง 

 

สะท้านสะเทือนบ้านป่ารอยต่อ เมื่อมีการปล่อยคลิปเสียง “ลุง” ผ่านสื่อหลายสำนัก กลายเป็นประเด็นร้อนตลอดทั้งวัน

 

ขณะที่กระบอกเสียง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาชี้แจงว่า คลิปเสียงดังกล่าวเป็น AI มีการทำขึ้นใหม่เลียนเสียงลุงป้อม ไม่ใช่ของจริง

อย่างไรก็ตาม สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดมหาดไทย ได้ออกมายอมรับว่า คลิปหลุดเป็นเสียงตัวเองจริง เช่นเดียวกับวิรัช รัตนเศรษฐ อดีตรองหัวหน้าพรรค พปชร. ก็ยืนยันว่า คลิปเสียงลุง ทั้ง 4 คลิปเป็นของจริง

 

ดังที่รู้กัน พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ 2 พี่น้องคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ได้เปลี่ยนสนามรบ จากในสภาฯมาเป็นเกมนิติสงครามนอกสภาฯ

 

ปฏิบัติการเปิดคลิบลับเสียงลุง จึงเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บ้านป่ารอยต่อ ปรับยุทธศาสตร์การต่อสู้ใหม่

 

บางเนื้อหาในคลิปเสียงลุง ทำให้นึกถึงช่วงปี 2564-2565 ที่เกิดภาวะสงครามเย็น ระหว่างพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และน้องเล็ก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

 

ย้อนรอยแผนล้มประยุทธ์

 

หลายคนยังจำได้ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ 2 ของปี 2564 ชื่อของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯสมัยนั้น ตกเป็นข่าวเรื่องเปิดเกมเขย่าเก้าอี้นายกฯ

 

หลังจากจบศึกซักฟอก 4 ก.ย.2564 ปรากฏว่า นายกฯประยุทธ์ ได้คะแนนไว้วางใจอันดับรองสุดท้าย และมีคะแนนไม่ไว้วางใจมากที่สุด

 

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของอาณาจักร 3 ป. เมื่อน้องเล็กไม่วางใจพี่ใหญ่ และที่สำคัญคือ การเข้ามาของ “ป.คนที่ 4”

 

ป.คนที่ 4 อยู่นอกวง “พี่น้อง 3 ป.” คือ พล.อ.ประวิตร, พล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ประยุทธ์ นัยว่า ลุงตู่มีความระแวงแคลงใจ ป.คนที่ 4 และเชื่อในข้อมูลที่ว่า มีตัวละครลับอยู่เบื้องหลังศึกซักฟอกปี 2564 

 

ตัดภาพมาในปัจจุบัน “ป.คนที่ 4” ที่เคยมีหัวโขนเสนาบดี ได้กลับสู่สถานะเดิมคือคนหลังม่าน และยังมีอิทธิพลสูงหลายวงการ

 

มีรายงานว่า ป.คนที่ 4 ได้ตั้งวอร์รูมใหม่ โดยเช่าอาคารสำนักงานของราชพัสดุ กรมธนารักษ์ เป็นฐานบัญชาการทำนิติสงคราม

 

สาเหตุที่ไม่ใช้บ้านป่ารอยต่อ เพราะต้องการเก็บความลับ ไม่ให้แพร่งพรายไปถึงฝั่งตรงข้าม โดยมี ป.คนที่ 4 นั่งหัวโต๊ะประชุมทุกวัน คนเข้าร่วมประชุม มีทั้งมือกฎหมาย นักร้องเรียน และนักการเมืองที่ไว้ใจใกล้ชิด

 

เมื่อ ป.คนที่ 4 รู้ว่า ลุงตู่กับบ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นพันธมิตรกันในยามนี้ ก็ยิ่งเพิ่มแรงผลักดันให้เปิดนิติสงครามเต็มรูปแบบ

 

หักดีลบ้านป่า-บ้านจันทร์

 

สองปีก่อน นักวิเคราะห์หน้าจอ ต่างเชื่อกันว่า พล.อ.ประวิตร มีดีลลับกับนายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า

 

กระทั่งคืนวันอังคารที่ 30 ส.ค.2565 ทักษิณ ชินวัตร โผล่คลับเฮาส์ มาพูดในหัวข้อประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่...แล้วไงต่อ ซึ่งตอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กำลังลุ้นคดีในศาลรัฐธรรมนูญ กรณีดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี

 

“บางคนแต่งนิยายว่าผมกับป้อมคุยกันทุกวัน เอาจริงๆ แม้แต่ในฝันผมยังไม่เคยฝันถึงเลยด้วยซ้ำ...” ทักษิณชี้แจงเรื่องดีลลับกับลุงป้อม

 

ตอนนั้น คนส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อเรื่องที่ทักษิณพูด และประเด็นดีลลับกับลุงป้อม จึงถูกนำมาขยายผลตอนหาเสียง เมื่อพรรคสีส้มเปิดแคมเปญมีลุง ไม่มีเรา

 

ผ่านมาถึงปีนี้ ทักษิณ เปิดใจในงาน Nation TV Dinner Talk ว่า ก่อนหน้านี้เคยคุยเรื่องร่วมรัฐบาลกันครั้งเดียว ช่วงก่อนเลือกตั้ง หลังจากนั้นไม่ได้คุย และไม่ได้เจอ เพราะเขาไม่รู้จักตนแล้ว

 

ต้นเหตุของปฏิบัติการเขี่ย พปชร.สายบ้านป่า เป็นฝ่ายค้าน ก็สืบเนื่องมาจากเกมนิติสงครามสอยเศรษฐานั่นเอง