คอลัมนิสต์

ใบสั่งแค้น “ประวิตร” เผือกร้อนในมือ “ภูมิธรรม” เกมยึดคืนบ้านป่ารอยต่อฯ

แค้นรุกฆาต “ประวิตร” เจอเกมรุกยึดบ้านป่ารอยต่อฯ วัดใจ “ภูมิธรรม” รับเผือกร้อน สิ้นระบอบ 3 ป.

แค้นนี้ไม่ลืม ประวิตร เจอเกมรุกฆาตยึดบ้านป่ารอยต่อฯ วัดใจ ภูมิธรรม สนามไชย 1 กล้ารับเผือกร้อนหรือไม่

 

ตำนานบ้านป่ารอยต่อฯ ที่มั่นการเมืองบูรพาพยัคฆ์ ยุค คสช.รุ่งเรืองสุดขีด หลังสิ้นระบอบ 3 ป. ลุงป้อมก็ถูกโดดเดี่ยว 

 

เหมือนเจอพายุโหมลมแรง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ แทบจะหาที่ยืนไม่ได้ ต่างจากวันวานที่เคยยิ่งใหญ่คับฟ้า

 

ลึกๆ พล.อ.ประวิตร อาจคิดไม่ต่างจากอดีตนายทหารขวาจัดบางคนที่ออกมาค้าน ภูมิธรรม เวชยชัย นั่ง รมว.กลาโหม เพราะอย่าลืมว่า ลุงป้อมเคยเป็น รมว.กลาโหม รัฐบาลอภิสิทธิ์ และรัฐบาลประยุทธ์(ยุค คสช.)

 

อยู่มาวันหนึ่ง นักร้องระดับไมค์ทองคำ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้ทำหนังสือถึง กกต. ขอให้ตรวจสอบนายกฯแพทองธาร กรณีเสนอชื่อ ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรมว.กลาโหม มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ 

 

พูดง่ายๆ นายกฯแพทองธาร แต่งตั้งสหายใหญ่ ภูมิธรรม ที่เคยเข้าป่าและมีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองเป็น รมว.กลาโหมได้อย่างไร 

 

แม้ไพบูลย์ นิติตะวัน จะออกตัวว่า เรืองไกร ทำไปในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพลังประชารัฐ แต่ก็มีคนเห็นเรืองไกร ไปนั่งคุยกับลุงป้อมที่บ้านป่ารอยต่อฯทุกวัน

 

ก่อนหน้านี้ สื่อหลายสำนักได้พูดถึงกระแสการเรียกร้องให้กองทัพบก ทวงคืนบ้านพักสวัสดิการฯ กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งมีการนำไปเป็นสำนักงานมูลนิธิป่ารอยต่อฯ หรือที่รู้กันในชื่อบ้านป่ารอยต่อฯ 

 

ที่มั่นการเมือง 3 ป.

 

คำว่า บ้านป่ารอยต่อ หรือบ้านป่า ที่อ่านพบในข่าวการเมือง มีชื่อเต็มๆว่าสำนักงานมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด 

 

ปี 2549 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เกษียณอายุราชการ จึงตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ โดยบิ๊กป้อม เป็นประธานกรรมการมูลนิธิ โดยกรรมการมีทั้งทหาร ข้าราชการ และนักธุรกิจ

 

กรรมการมูลนิธิรุ่นแรกก็มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  

 

“บ้านป่ารอยต่อ” เป็นเสมือนแหล่งรวมพลพี่น้องสายทหารเสือ และบูรพาพยัคฆ์

 

บ้านป่ารอยต่อแห่งนี้ เคยเป็นเซฟเฮ้าส์ในกอบกู้วิกฤตม็อบเสื้อเหลือง และรัฐบาลพลิกขั้ว ที่มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

 

ก่อนรัฐประหาร 2557 บ้านหลังนี้ก็เป็นศูนย์รวม “เพื่อนประวิตร” ที่มาช่วยคิดช่วยวางยุทธศาสตร์แก้ปัญหาเศรษฐกิจชาติ

 

ช่วงปี 2562 บ้านป่ารอยต่อฯ มีสภาพไม่ต่างจากสำนักพรรคพลังประชารัฐ ส่วนที่ปิดลับ เพราะลุงป้อม ใช้บ้านหลังนี้ เรียกนักการเมืองบ้านใหญ่มาพูดคุย ก่อนจะดึงเข้าพรรค พปชร.

 

เผือกร้อนในมือ ผบ.ทบ.

 

เหตุใดจึงมีกระแสข่าวว่า เรียกร้องให้กองทัพบกทวงคืนบ้านพักสวัสดิการฯหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด

 

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า พื้นที่ที่เป็นบ้านพักสวัสดิการฯ ขององคมนตรี ข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ กำลังพล ตั้งอยู่บนพื้นที่ราชพัสดุ อยู่ในความรับผิดชอบของ กองทัพภาคที่ 1 หน่วยในสังกัดกองทัพบก

 

ต่อมา กองทัพบกเจ้าของโครงการบ้านพักสวัสดิการของกองทัพบก ได้ยกพื้นที่ดังกล่าวให้ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ดูแลเก็บค่าเช่ารายปี

 

เมื่อ พล.อ.ประวิตร นำบ้านพักสวัสดิการฯ ทำเป็นสำนักงานมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ จึงมีการทำสัญญาเช่าโดยตรงกับกรมธนารักษ์ 

 

ปมการใช้บ้านพักสวัสดิการฯเป็นมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ แต่ใช้บ้านหลังนี้ทำกิจกรรมทางการเมือง ถูกร้องเรียนมาหลายครั้ง

 

ในข้อร้องเรียนระบุว่า มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ มีวัตถุประสงค์สนับสนุนโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และ สัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

 

หากไม่ดำเนินการ เท่ากับกองทัพบกสนับสนุน พล.อ.ประวิตร ดำเนินกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ขัดต่อภาระหน้าที่ของกองทัพบก

 

 

นี่คือเผือกร้อน ในมือ ผบ.ทบ. หรือ รมว.กลาโหมคนใหม่ จะดำเนินการอย่างไร และเชื่อว่าอีกไม่นานจะมีนักร้องอีกค่ายหนึ่ง เข้ามาร้องเรียนต่อ ภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม อย่างแน่นอน