คอลัมนิสต์

รบประชิดตัว “บู้ จเด็ศ” บี้ “โฟล์ค ณฐชนน” ศึกพิดโลกแพ้ชนะหัวใจ-หัวจ่าย

สูสีแพ้ชนะที่หัวใจ-หัวจ่าย "บู้ จเด็ศ" กองหนุนปึ้ก "โฟล์ค ณฐชนน" ขี่กระแส จับตากฐินสามัคคีบ้านใหญ่พลิกเกม

เดิมพันอนาคต บู้ จเด็ศ กองหนุนปึ้ก โฟล์ค ณฐชนน ขี่กระแสส้ม คู่นี้แพ้ชนะสูสี สุดท้ายวัดกันที่หัวใจ-หัวจ่าย

 

คนพิดโลกลุ้น บู้ จเด็ศ สร้างประวัติศาสตร์พรรคทักษิณ ชนะครั้งแรกในรอบ 23 ปี หรือ โฟล์ค ณฐชนน จะทำสถิติพรรคส้มแชมป์ 3 สมัยซ้อน

 

ศึกเลือกซ่อม สส.พิษณุโลก ในวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย.2567 บทพิสูจน์กระแสความนิยมของขั้วรัฐบาล และขั้วฝ่ายค้าน เพื่อไทยและประชาชน

 

ชัยชนะของ “โฟล์ค” ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ เบอร์ 1 พรรคประชาชน และ“บู้” จเด็ศ จันทรา พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 ต่างมีความหมายด้วยกันทั้งคู่

หาก บู้ จเด็ศ ชนะ ก็จะเป็นคนแรกของพรรคทักษิณ ที่ปักธงสีแดงได้ในเขต 1 อ.เมืองพิษณุโลก ในรอบ 23 ปี

 

ตรงกันข้าม โฟล์ค ณฐชนน มีชัย จะทำแฮตทริกชนะ 3 สมัยซ้อน สะบัดธงสีส้มเหนือเมืองพิดโลก

 

สแกนพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 อ.เมืองพิษณุโลก เฉพาะ 9 ตำบลคือ ต.ในเมือง, ต.วัดจันทร์, ต.อรัญญิก, ต.บึงพระ , ต.ท่าทอง , ต.วังน้ำคู้ , ต.วัดพริก , ต.พลายชุมพล และ ต.บ้านคลอง

 

มี 3 ตำบลคือ ต.ในเมือง , ต.วัดจันทร์ และ ต.อรัญญิก เป็นย่านเศรษฐกิจใจกลางเมือง ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก และเทศบาลเมืองอรัญญิก

 

 

ต.อรัญญิก มีค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ ส่วนค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นที่ตั้งกองทัพภาคที่ 3 และมณฑลทหารบกที่ 39 อยู่ในเขต ต.บ้านคลอง

 

สำหรับมหาวิทยาลัยนเรศวร อยู่ที่ ต.ท่าโพธิ์ ไม่ได้อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 โดย กกต.จับไปอยู่เขตเลือกตั้งที่ 4 บวกกับ อ.บางระกำ และ อ.บางกระทุ่ม

 

ทีมหาเสียงของเพื่อไทย พยายามจะปลุกคนสองแควว่า เลือกตั้งหนนี้เป็นการต่อสู้ 2 แนวทางคือ อนุรักษนิยม กับเสรีนิยมก้าวหน้า โดยหวังจะดึงคะแนนจากครอบครัวทหาร 2 ค่ายใหญ่

โค้งสุดท้าย พรรคส้มปราศรัยทิ้งทวน

เพื่อไทยเทหมดหน้าตัก

 

สมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 มีความมั่นใจว่า เพื่อไทยจะชนะ เพราะธรรมชาติเลือกตั้งซ่อม ฝ่ายรัฐบาลย่อมได้เปรียบฝ่ายค้าน

 

ที่น่าสนใจ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ ในฐานะคนเมืองสองแคว ได้ควงระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ออกหาเสียงช่วยบู้ จเด็ศ ทุกวัน

 

เพื่อไทยตกเป็นรองเรื่องกระแสพรรค แต่มีความโด่ดเด่นในตัวผู้สมัคร สส.อย่าง บู้ จเด็ศ และที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ค่าย 2 ส.(สุริยะ-สมศักดิ์) มีทรัพยากรพร้อมรบประชิดตัว

 

จุดแข็งของ บู้ จเด็ศ ที่ค่ายส้มหวาดหวั่นคือ ทีมงานมือฉมังของ มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ว่าที่นายก อบจ.พิษณุโลก กลุ่มพลังพิษณุโลก ซึ่งเพิ่งประสบชัยชนะจากการเลือกตั้งนายก อบจ.มาหมาดๆ

 

ไม่นับตัวละครลับอย่าง หิมาลัย ผิวพรรณ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ต้องออกแรงช่วยหลังม่านบ้านใหญ่อีกหลายซุ้ม

 

หัวใจสู้หัวจ่าย

 

ก่อนเปิดปราศรัยใหญ่ในเย็นวันศุกร์ที่ 13 ก.ย.นี้ เพจพรรคประชาชนพิษณุโลก โพสต์สั้นๆว่า “พวกเราไม่มีหัวจ่าย มีแต่หัวใจ ที่มอบให้ประชาชนอย่างแท้จริง”

 

เนื่องจากทีมงานสีส้มประเมินแล้ว คะแนนนิยมแดง-ส้มสูสี จึงชักหวั่นหัวใจจะแพ้หัวจ่าย ซ้ำรอยราชบุรี

 

พรรคประชาชน ทิ้งทวนการหาเสียงด้วยปราศรัยใหญ่ บรรดาแกนนำรุ่นเก่ารุ่นใหม่มากันเพียบ เพราะสมรภูมินี้มีเดิมพันสูง

 

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , ปิยบุตร แสงกนกกุล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ , ชัยธวัช ตุลาธน และ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ จึงพร้อมใจกันขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ลานกลางเมือง สวนชมน่าน

 

ตัวแปรสำคัญคือ จำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง และไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้าหรือเลือกตั้งนอกเขต

 

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งปี 2562 และปี 2566 หมออ๋อง ได้คะแนนกว่าร้อยละ 50 มาจากการเลือกตั้งนอกเขต ฉะนั้น เลือกซ่อมเที่ยวนี้ สู้กันในเขตเลือกตั้งล้วนๆ ไม่มีตัวแปรจากนอกเขต

 

โอกาสที่พรรคประชาชน จะแพ้ติดต่อกัน 2 สนามรวดคือ ราชบุรี และพิษณุโลก มีความเป็นไปได้สูงมาก