คอลัมนิสต์

พรรคนิติตะวัน “ประวิตร” บ้านใหญ่เผ่น “สันติ” โฟกัสมะขามสีน้ำเงิน

พรรคนิติตะวัน “ประวิตร” บ้านใหญ่เผ่น “สันติ” โฟกัสมะขามสีน้ำเงิน

13 ก.ย. 2567

เช็กอาการ 20 สส. “ประวิตร” พึ่งไพบูลย์ทิ้งบ้านใหญ่ “วิรัช” เทลุง “สันติ” ส่ออำลา สมัยหน้ามะขามสีน้ำเงิน

ป่าแตก ประวิตร พึ่งเนติซามูไรทิ้งบ้านใหญ่ วิรัช-สันติ ส่ออำลา โฟกัสเพชรบูรณ์ มะขามหวานสีน้ำเงิน

 

เช็กลิสต์ 20 ชีวิตสายบ้านป่า ลุงป้อมยุคนิติตะวัน มีแต่สูญเสียไพร่พล เด็กชงกาแฟเพ้อปั้นเลือดใหม่ แนวโน้มสมัยหน้าพรรคต่ำสิบ

 

ในที่สุด พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ก็มีวันนี้ วันที่ป่าแตก สส.และอดีต สส.บ้านใหญ่ต่างแยกตัวออกไปจากบ้านป่ารอยต่อ

 

เมื่อ พล.อ.ประวิตร เลือก ไพบูลย์ นิติตะวัน นั่งเลขาธิการพรรค จนกลายเป็นพรรคนิติตะวันเพื่อนิติสงคราม

 

เมื่อเร็วๆนี้ วิรัช รัตนเศรษฐ บ้านใหญ่โคราช ได้ออกมายอมรับว่า ครอบครัวของเขา ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว 5 คน ยังเหลือตัวเขาและลูกชาย และ อธิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต รมช.คมนาคม

 

ถัดมา อธิรัฐ ได้ยื่นหนังสือลาออกจาก พปชร. และมีข่าวว่า ลูกชายคนโตของวิรัช จะไปนั่งเป็นเลขานุการ รมว.เกษตรฯ (นฤมล ภิญโญสินวัฒน์)

 

ส่วนตัวของวิรัช ยังไม่ทิ้ง พปชร. แต่น่าจะอยู่ไปจนถึงวันยุบสภา เหมือน สันติ พร้อมพัฒน์ ที่มีชื่อเป็นรองหัวหน้าพรรค พปชร. แต่ใจเตลิดไปอยู่พรรคอื่นแล้ว

 

เช็กอาการ 20 สส.

 

ปัจจุบัน สส.พรรคพลังประชารัฐ 40 คน ยังเหลืออยู่ซุ้มบ้านป่ารอยต่อ 20 คน รวม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วย

 

ซุ้มมะขามหวาน ของ สันติ พร้อมพัฒน์ มี สส.เพชรบูรณ์ 6 คนคือ  วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ , พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ , จักรรัตน์ พั้วช่วย , บุญชัย กิตติธาราทรัพย์ วรโชติ สุคนธ์ขจร และอัคร ทองใจสด

 

นัยว่า เพชรบูรณ์กำลังจะมีนวัตกรรมการเมืองใหม่ “มะขามหวานสีน้ำเงิน” โปรดรอหลังยุบสภา

 

ซุ้มชากังราว ของ วราเทพ รัตนากร มี สส.กำแพงเพชร 2 คนคือ อนันต์ ผลอำนวย และปริญญา ฤกษ์หร่าย ซึ่งน่าจะอยู่กับลุงป้อมจนถึงนาทีสุดท้าย

 

ซุ้มเทียนทองลายพราง มี สส.สระแก้ว 2 คนคือ ตรีนุช เทียนทอง และขวัญเรือน เทียนทอง สองแม่ลูกอาจจะอยู่กับลุงป้อม เพราะหนี้บุญคุณ และรอยร้าวลึกในตระกูลเทียนทอง 2 สาย

 

ซุ้มเมืองสิงห์ ของ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ มี สส.สิงห์บุรี 1 คนคือ โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ซึ่งเสี่ยโอ๋ไปไหนก็ยาก เพราะมีเสียงเดียว

 

ที่เหลืออีก 8 คน เป็น สส.นกแล แยกเป็นนกแลอีสาน 4 คน ได้แก่ กาญจณา จังหวะ สส.ชัยภูมิ,กระแส ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย, ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และวิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร

 

นกแลปักษ์ใต้ 4 คน ได้แก่ สุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช, คอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี, ฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา และทวี สุระบาล สส.ตรัง

 

พลันที่ยุบสภาฯ นกแลก็คือนกแก้ว เสียงแจ้วๆ พร้อมที่จะบินทิ้งป่ารอยต่อ ไปป่าผืนใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยผลไม้หอมหวาน

 

มะขามหวานสีน้ำเงิน

 

นักวิเคราะห์หลายสำนัก สันติ พร้อมพัฒน์ อาจจะยกซุ้มรีเทิร์นเพื่อไทย แต่ลึกๆแล้ว มันไม่ง่าย เพราะแกนนำเพื่อไทยเพชรบูรณ์คือ ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ อดีต สส.เพชรบูรณ์

 

ทวีศักดิ์ เป็นน้องชาย “สส.ดำ” สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ อดีต สส.เพชรบูรณ์ ผู้มากบารมีแห่ง อ.หนองไผ่

 

ตระกูลอนรรฆพันธ์ ถือว่าเป็นลูกหม้อพรรคไทยรักไทย กระทั่งมาถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งเมื่อปี 2562 สันติไปอ้อนวอน สส.ดำ ให้ทิ้งเพื่อไทยมาอยู่พลังประชารัฐ

 

การเลือกตั้ง สส.ปีที่แล้ว “สส.ดำ” สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ วางมือ จึงส่งสุประวีณ์ อนรรฆพันธ์ หลานชายลงสมัคร สส.เพชรบูรณ์ เขต 5 สังกัดเพื่อไทยชน วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ภรรยาสันติ

 

แม้ทวีศักดิ์ น้องชาย สส.ดำ และสุประวีณ์ หลานชาย จะแพ้ทีมสันติ แต่ตระกูลอนรรฆพันธ์ ก็พร้อมจะลุยต่อในสมัยหน้า

 

ที่สำคัญ ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ยังมีตำแหน่งเหรัญญิกพรรคเพื่อไทย แสดงว่าเขาได้รับความไว้วางใจจากบ้านจันทร์ส่องหล้า

 

ดังนั้น โอกาสที่สันติ จะนำซุ้มมะขามหวานไปอยู่ค่ายบุรีรัมย์ จึงมีความเป็นไปได้มากกว่ากลับค่ายเก่าเพื่อไทย