ยอมเจ็บ “ชาดา” อุ้มกลุ่มคุณธรรมดัน “เผด็จ” นั่งนายก อบจ.อุทัยฯสมัยที่ 5
เพื่อองค์กรบ้านใหญ่ “ชาดา” เปิดทาง “เผด็จ นุ้ยปรี” นายก อบจ.อุทัยฯ สมัยที่ 5 พิสูจน์ชัยชนะกลุ่มคุณธรรม เหนือไทยเศรษฐ์
ไร้คู่แข่ง ชาดา เปิดทาง เผด็จ นุ้ยปรี นั่งนายก อบจ.อุทัยฯ สมัยที่ 5 พิสูจน์ชัยชนะระบอบบ้านใหญ่ เหนือไทยเศรษฐ์
ส่องแบรนด์กลุ่มคุณธรรม ตระกูลนุ้ยปรี หนึ่งในหลายซุ้มบ้านใหญ่ เล่นการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ มาก่อนตระกูลไทยเศรษฐ์
การเลือกตั้งนายก อบจ.อุทัยธานี วันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค.2567 คือการฉายหนังม้วนเก่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค.2563 เผด็จ นุ้ยปรี ผู้สมัครจากกลุ่มคุณธรรม ลงสมัครเดียว และได้รับเลือกเป็นนายก อบจ. ผ่านเกณฑ์ 10%ของ กกต.
ก่อนที่ เผด็จ นุ้ยปรี จะเป็นนายก อบจ.อุทัยธานี สมัยที่ 5 ก็มีดราม่าเล็กน้อย เมื่อ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาว ชาดา ไทยเศรษฐ์ จะลงสนามแข่งกับเผด็จ
ถึงขั้นเตรียมป้ายหาเสียงไว้แล้ว ด้วยสโลแกน “มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ทำได้ ทำจริง ทำได้ ไม่หายหน้า ยกระดับ อบจ. เพื่อชาวอุทัยฯ”
ในที่สุด ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้ร้องขอให้น้องสาวถอนตัว เพื่อรักษาระบอบบ้านใหญ่อุทัยธานี หรือ “กลุ่มคุณธรรม” ให้ดำรงอยู่ต่อไป
บ้านใหญ่นุ้ยปรี
ยุคประชาธิปไตยครึ่งใบ(ปี 2522-2534) บ้านใหญ่อุทัยธานี หมายถึง “บ้านทรงไทย” ริมแม่น้ำสะแกกรัง ของ “เสธ.พล” พ.อ.พล เริงประเสริฐวิทย์ อดีต สส.อุทัยธานี 5 สมัย
ลุ่มน้ำสะแกกรังสมัยโน้น มีตระกูลการเมืองอยู่ 3 กลุ่มคือ พ.อ.พล เริงประเสริฐวิทย์ อดีต สส.อุทัยธานี 5 สมัย, ศิริ ทุ่งทอง บ้านใหญ่ อ.หนองฉาง และศิลป์ชัย นุ้ยปรี อดีต สส.อุทัยธานี 4 สมัย
เผด็จ นุ้ยปรี เป็นนักการเมืองท้องถิ่นมานาน และเป็นผู้กุมฐานคะแนนให้พี่ชาย ศิลป์ชัย นุ้ยปรี มาแต่สมัยวัยรุ่น เพราะพี่ชายเป็น สส.สมัยแรกปี 2519
ก่อนปี 2544 เผด็จ นุ้ยปรี ในฐานะ สจ.อุทัยฯ เขต อ.หนองฉาง ได้รับเลือกทางอ้อมเป็นนายก อบจ.สมัยแรก
ด้วยความเป็นนักการเมืองสไตล์นักเลงลูกทุ่ง เผด็จ จึงผนึกตระกูลการเมือง 4-5 ตระกูล ให้มาสนับสนุนตัวเอง จนได้เป็นนายก อบจ.ต่อเนื่องมา 4 สมัย
นอกจากเผด็จ นุ้ยปรี ก็ยังมี “สจ.เปี๊ยก” ปภาวิชญ์ บุษวะดี ประธานสภา อบจ.อุทัยธานี ที่เป็นพันธมิตรการเมืองท้องถิ่นกับบ้านใหญ่ไทยเศรษฐ์
ปภาวิชญ์ บุษวะดี ยังเป็นผู้กว้างขวางในแวดวงมวยไทย เป็นเจ้าของค่ายมวย สจ.เปี๊ยกอุทัย หรือศิษย์ สจ.เปี๊ยก ที่ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี
เมืองอุทัยฯ ไม่ได้มีแค่เผด็จ นุ้ยปรี และ สจ.เปี๊ยก ยังมีบ้านใหญ่ระดับตำบลอีกมาก ซึ่งทุกคนต่างรวมตัวกันอยู่ด้วยผลประโยชน์ที่ลงตัว
บ้านใหญ่ไทยเศรษฐ์
ชาดา ไทยเศรษฐ์ รู้ดีว่า บ้านใหญ่ดอนหมื่นแสน ไม่ใช่บ้านหลังเดียวที่ใหญ่ที่สุดในลุ่มน้ำสะแกกรัง เหมือนที่เขาให้สัมภาษณ์กรณีน้องสาวถอนตัวไม่ลงสมัครนายก อบจ.
“จังหวัดอุทัยธานีนั้น ถือเป็นจังหวัดที่การเมืองนิ่งมาตลอด ไม่ว่าจะตั้งแต่ระดับองค์การบริหารส่วนตำบล มาจนองค์การบริหารส่วนจังหวัด ไปจนถึงระดับ สส. ซึ่งถ้าหากว่าเกิดความแตกแยกมาตั้งแต่ระดับตำบล ก็จะทำให้เกิดปัญหาในพื้นที่”
สมัยที่ตระกูลนุ้ยปรี บารมีเบ่งบานในระดับชาติ ชาดายังเป็นคนขายเนื้อ และหันมาเล่นการเมืองท้องถิ่นปี 2539 โดยร่วมกับตระกูล “เหลืองบริบูรณ์” ก่อตั้ง กลุ่มคุณธรรม นำทีมลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอุทัยธานี และชาดาเป็นนายกเทศมนตรี
ปี 2550 ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้รับเลือกเป็น สส.อุทัยธานี สมัยแรก สังกัดพรรคชาติไทย และเริ่มรวบรวมซุ้มการเมืองท้องถิ่นให้เป็นหนึ่งในนามกลุ่มคุณธรรม
การเลือกตั้งนายก อบจ.อุทัยฯ ปี 2552 ชาดาหนุน เผด็จ นุ้ยปรี ลุยสนามนายก อบจ.สมัยที่ 3 และมีการจัดทัพท้องถิ่นใหม่ ไล่มาตั้งแต่ อบจ. เทศบาล และ อบต. ภายใต้ชื่อกลุ่มคุณธรรม
ด้วยเหตุนี้ เผด็จจึงใช้สโลแกนหาเสียงว่า “เผด็จ นุ้ยปรี คนดี..คนเดิม” มาทุกสมัย และก่อนหน้านี้ เผด็จเปรยกับคนใกล้ชิดว่า อยากวางมือ และการเป็นนายก อบจ.สมัยที่ 5 อาจเป็นวาระสุดท้ายของเขาก็ได้