คอลัมนิสต์

ดินเนอร์ขม “เนวิน” คว่ำนิรโทษ ม.112 “แพทองธาร” โดดเดี่ยวในดงขวาจัด

ดินเนอร์ขม “เนวิน” คว่ำนิรโทษ ม.112 “แพทองธาร” โดดเดี่ยวในดงขวาจัด

20 ต.ค. 2567

ชักธงสีน้ำเงินเข้ม “เนวิน” ส่งสคริปต์ ภท. คว่ำนิรโทษพ่วง “ม.112” วงดินเนอร์ “แพทองธาร” โดดเดี่ยวกลางดงขวาจัด

สัญญาณชัด เนวิน ส่งผ่าน ภท. คว่ำนิรโทษกรรมพ่วง ม.112 วงดินเนอร์ส่อเค้าเคลียร์ไม่จบ พท.ตกอยู่ในวงล้อมพรรคร่วม

 

ค่ายสีน้ำเงินขยับแรง ดุจกองกำลังพิทักษ์ ม.112 เหมือนกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีจุดยืนปกป้อง รธน.2560 มรดก คสช.

 

ประเด็นร้อนนิรโทษกรรมพ่วง ม.112 มีสัญญาณมาจากบุรีรัมย์ เมื่อโฆษกพรรคภูมิใจไทย ยื่นข้อเสนอให้ กมธ.ถอนรายงานศึกษาการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ หากไม่ถอน ภูมิใจไทยจะโหวตคว่ำรายงานฉบับนี้ 

ท่าทีของกระบอกเสียงค่ายสีน้ำเงิน ย่อมหมายถึงจุดยืนของครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ ผู้ทางจิตวิญญาณชาวภูมิใจไทย

 

ดังนั้น วงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลในค่ำวันจันทร์ที่ 21 ต.ค.2567 จึงมีการจับตามองว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีการเคลียร์ใจกับอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กรณีกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่

 

ชั่วโมงนี้ เพื่อไทยตกอยู่ในวงล้อมพรรคร่วมรัฐบาล ขยับตัวลำบาก ดูได้จากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 17 ต.ค.2567 ที่มีวาระพิจารณารายงานของ กมธ.วิสามัญ ศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมี ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นประธาน กมธ.

 

ปรากฏว่า สส.ภูมิใจไทย ,รวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์ อภิปรายคัดค้านแนวทางนิรโทษกรรม พ่วงจำเลยคดี ม.110 และ ม.112 ส่งผลให้เพื่อไทยอิหลักอิเหลื่อหาข้อสรุปไม่ได้ ต้องเลื่อนการพิจารณาไปเป็นวันที่ 24 ต.ค.นี้

 

พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงจะอำนวยความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน โดยตรากฎหมายนิรโทษกรรมแก่ผู้ชุมนุมทางการเมือง และพ่วงผู้กระทำความผิด ม.110 และ ม.112 ไปด้วย

 

อันเป็นที่มาของกระแสข่าวเรื่องพันมิตรเฉพาะกิจ เพื่อไทย-ประชาชน ซึ่งหากสองพรรคนี้โหวตเห็นชอบร่วมกัน รายงานศึกษานิรโทษกรรมฯ ก็ผ่านสภาฉลุย

 

โหนรถไฟสายขวาจัด

 

ท่าของครูใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน ทำให้รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ต้องออกมาโหนรถไฟสายอนุรักษนิยม ไม่เอาด้วยกับการนิรโทษกรรมเหมาเข่ง ปล่อยผู้ต้องขังคดีหมิ่นสถาบันฯ

 

พรรคร่วมรัฐบาลดังกล่าว เห็นพ้องต้องกันว่า ควรตรากฎหมายนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมือง แต่ไม่ควรพ่วงคดี ม.110 และ ม.112 

 

พรรคเพื่อไทยตกที่นั่งลำบาก ในประเด็นนิรโทษกรรม คดีตาม ม.112 เมื่อ “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้า ยังติดบ่วงคดี ม.112 หากค่ายสีแดงออกหน้าลุยต่อ ก็จะถูกโจมตีว่า นิรโทษกรรมเอื้อนายใหญ่

 

ล่าสุด บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ต่อการพิจารณารายงาน กมธ.ศึกษาการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่จะมีการพิจารณากันอีกครั้งในวันที่ 24 ต.ค.นี้ว่า ภูมิใจไทยไม่สามารถลงมติรับรายงานดังกล่าวได้

 

นั่นเท่ากับวัดใจค่ายเพื่อไทย จะจับมือค่ายประชาชน โหวตเห็นชอบรายงานศึกษากฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้หรือไม่

 

ผู้นำปีกขวาคนใหม่

 

นับแต่อุบัติเหตุทางการเมืองกรณีเศรษฐา ตกสวรรค์ ทักษิณ ชินวัตร ก็รู้ซึ้งในคำว่า การเมืองไทยยังเป็น “การเมืองลี้ลับ” มากขึ้น

 

การที่ทักษิณเปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า ให้อนุทินพาเนวิน เข้าไปพบปะพูดคุยกัน ก็คือการประนอมอำนาจ ระหว่างนายใหญ่กับครูใหญ่

 

วันนี้ ครูใหญ่ไม่ใช่ลูกน้องนายใหญ่ เหมือนในอดีต ลึกๆแล้ว การยื้อกฎหมายประชามติ และค้านนิรโทษกรรมพ่วง ม.112 ของเนวินและอนุทิน ก็คือเกมซื้อใจชนชั้นนำฝ่ายอนุรักษนิยม 

 

นับแต่วันที่ก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย เนวินได้วางโพสิชั่นนิ่งพรรคนี้คือ พรรคสีน้ำเงิน เพียงแต่ที่ผ่านมา มวลชนอนุรักษ์สวนใหญ่ยังมองว่า ภท.เป็นพรรคบ้านใหญ่ ที่เล่นการเมืองแบบเก่า

 

กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถอยจากพรรค รทสช.ไปเป็นดำรงตำแหน่งองคมนตรี ทำให้ตลาดการเมืองขาดหัวขบวนอนุรักษ์

 

ดังนั้น ครูใหญ่บุรีรัมย์ จึงพยายามปั้นภูมิใจไทยให้เป็นพรรคเลือดสีน้ำเงินเข้ม และดัน อนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นแท่นผู้นำอนุรักษ์คนใหม่