ถอยในรุก “แพทองธาร” สู้การเมืองลี้ลับ “บ้านจันทร์” เลือกยุบก่อนถูกทุบ
ดินเนอร์ชื่นมื่น “แพทองธาร” สู้การเมืองลี้ลับ “บ้านจันทร์” เลือกประนอมอำนาจ หากมีวิกฤต อาจเลือกยุบสภาฯ ก่อนถูกทุบ
สารตั้งต้น แพทองธาร สู้ครอบงำ การเมืองลี้ลับเล่นเพื่อไทย บ้านจันทร์หนาวยุบพรรค จับตาเกมค่ายสีน้ำเงิน
เดอะแหวงเซราะกราว ชงคดียุบ พท. พ่วง 6 พรรค เหตุคำร้องมีมูล ทักษิณครอบงำ และเป็นสารตั้งต้น ตามสูตรแยกแล้วทุบ ทฤษฎีเกมแห่งอำนาจ
หลังดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี กกต.ชงคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมว่า ไม่มีใครมีความกังวลในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่า การพูดคุยกับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่การครอบงำ
อันเนื่องมาจาก “เดอะแหวง ณ เซราะกราว” หรือแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้พิจารณา 6 คำร้องที่มีผู้ร้องขอให้ กกต.พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม โดยเห็นว่าคำร้องมีมูล จึงตั้งกรรมการสอบสวน
ปมเหตุแห่งการร้องมาจาก ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค มีการครอบงำ ชี้นำ และ 6 พรรคการเมืองก็ยินยอมให้ทักษิณ ครอบงำ ชี้นำ
ทักษิณ และแกนนำ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม มีพฤติการณ์ร่วมประชุมกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อพิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี
แยกเพื่อยุบเพื่อไทย
ในชั่วโมงนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยยังประเมินว่า คำร้องไม่มีอะไรที่น่ากังวลเหมือนนายกฯแพทองธาร ให้สัมภาษณ์หลังจบวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล
แม้แกนนำเพื่อไทย ไม่ห่วงและเตรียมจะแก้เกมเอาคืนด้วยการฟ้องกลับบรรดานักร้อง(การเมือง) แต่ก็ประมาทไม่ได้ เนื่องจากการเมืองลี้ลับมีอยู่จริง
ขณะที่กูรูการเมืองหลายสำนัก ต่างฟุ้งซ่านไปตามแนววิเคราะห์ของตัวเอง และที่มาแปลกกว่าคนอื่นคือ ธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย
ประเด็นแรก เชื่อว่าคำร้อง กกต.ยื่นยุบ 6 พรรคนั้น แต่มีเป้าหมายที่จะถูกยุบเพียงพรรคเดียว คือเพื่อไทย เพราะสิ่งที่คุยกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2567 จะเป็นการครอบงำ ชี้นำ หรือสั่งการโดยทักษิณหรือไม่ อยู่ที่พยานหลักฐาน
ประเด็นที่สอง พยานหลักฐานก็คือปากคำของแกนนำ 5 พรรคคือ ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ประชาชาติ และชาติไทยพัฒนา
เสี่ยจ๊ะ-ธนพรวิเคราะห์ว่า หากเปิดให้มีการไต่สวนกันแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับ อาจนำไปสู่การกันอีก 5 พรรคไว้เป็นพยาน
ทฤษฎีวิเคราะห์ของเสี่ยจ๊ะ อาจเป็นแค่เรื่องเล่าในสภากาแฟ หากปรายตาไปมองที่วงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล เพราะมีสัญญาณชื่นมื่น ทั้งหน้าฉากและหลังฉาก
เกมประนอมอำนาจ
อย่างที่พูดกัน ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลครั้งแรกในรัฐบาลแพทองธาร จะมีการเคลียร์ใจทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น หลังการพูดคุยกันก็มีสัญญาณบวก
ปมแรก การแก้รัฐธรรมนูญ ที่สะดุดในการพิจารณากฎหมายประชามติ ที่ สว.สีน้ำเงินแสดงอิทธิฤทธิ์พลิกมติสภาล่าง และเมื่อมีการตั้ง กมธ.ร่วมสองสภาฯ น่าจะน่าหาทางออกได้
เนื่องจากครูใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน คงไม่คิดเล่นเกมแตกหักในเวลานี้ และการเดินเข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นั่นคือการประนอมอำนาจ ภายใต้เกมสมประโยชน์ร่วมกัน
ปมที่สอง กฎหมายนิรโทษกรรมก็คลี่คลายไปในทันที เมื่อแพทองธาร ชินวัตร พูดชัดว่า เพื่อไทยไม่แตะเรื่องมาตรา 112 และภูมิธรรม เวชยชัย ได้ออกมาบอกสื่อว่า “ทุกพรรคเห็นเหมือนกัน คือไม่เอามาตรา 112 เพราะเป็นเงื่อนไขในการตั้งรัฐบาล”
ดังนั้น ที่ประชุม สส.เพื่อไทยก็ต้องคุยกัน ก่อนการพิจารณาบทศึกษาว่าด้วยเรื่องการนิรโทษกรรม ที่จะพิจารณาต่อในสภาฯ วันที่ 24 ต.ค.2567
รัฐบาลดีลข้ามขั้ว เป็นส่วนหนึ่งเกมประนอมอำนาจ หากจะอุบัติเหตุทางการเมือง เชื่อว่าผู้ถืออำนาจบ้านจันทร์ น่าจะเลือกยุบสภาฯ ก่อนการยุบพรรคจะเกิดขึ้นจริง