คอลัมนิสต์

ดอกผลนายใหญ่ “ชลน่าน-พิเชษฐ์” โตมาจาก “นกแล” คนหัวอกเดียวกัน

ดอกผลนายใหญ่ “ชลน่าน-พิเชษฐ์” โตมาจาก “นกแล” คนหัวอกเดียวกัน

27 ต.ค. 2567

คนหัวอกเดียว “ชลน่าน-พิเชษฐ์” ดอกผลแบรนด์ “ทักษิณ” ไม่ใช่เด็กบ้านใหญ่ สส.นกแลรุ่นแรก กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย

สหายร่วมรบ ชลน่าน-พิเชษฐ์ ดอกผลคิดใหม่ทำใหม่ ไม่ได้มาจากบ้านใหญ่ เป็น สส.นกแลรุ่นแรก ใต้ร่มธงไทยรักไทย

 

ไร้ความขัดแย้ง ชลน่าน-พิเชษฐ์ กว่าจะก้าวสู่สภาฯ ฝ่าด่านการเมืองเก่า หากไม่ได้แบรนด์ทักษิณ ก็ยากที่จะได้เป็น สส.

 

เก็บตกจากงานเลี้ยงมงคลสมรสลูกชายของประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมี สส.เพื่อไทยร่วมงานเป็นจำนวนมาก 

ที่น่าสนใจคือ การพบกันของ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนฯคนที่ 1  และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต รมว.สาธารณสุข 

 

เนื่องจากก่อนหน้านั้น ทั้งคู่มีวิวาทะเดือดกลางสภาฯ และมีคำพูดบางประโยคถูกโยงไปถึงตำแหน่งรองประธานสภาฯ กูรูการเมืองจึงวิเคราะห์กันไปต่างๆนานา

 

ระหว่างงานฉลองมงคลสมรส ชลน่านและพิเชษฐ์ ได้พบกับ 3 บก.จากเครือเนชั่น จึงมีการพูดคุยซักถามและแซวกัน โดยทั้งสองคนเคลียร์กันต่อหน้า 3 บก. ยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้ง ต่างคนทำหน้าที่ แถมชูนิ้วโป้งชื่นชมการทำงานของอีกฝ่ายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

 

จริงๆแล้ว ทั้ง ชลน่าน และพิเชษฐ์ ต่างก็เป็นดอกผล “คิดใหม่ ทำใหม่” ของทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2543-2544 โดยการส่งทีมงานไปค้นหา “ดาวดวงใหม่”จากพื้นที่มาลงสมัคร สส.

 

เมื่อพวกเขาเหล่านั้นได้รับเลือกตั้งเป็น สส. ก็ถูกเรียกขานว่า “นกแล” เพราะไม่ใช่ สส.บ้านใหญ่ หรือ สส.สังกัดซุ้มบ้านใหญ่

 

ปัจจุบัน สส.นกแล พรรคไทยรักไทย ปี 2544 ที่ยังคงได้รับเลือกเป็น สส.มีอยู่หลายคน อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ,สุทิน คลังแสง, พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน, เอกธนัช อินทร์รอด ,ธีระชัย แสนแก้ว,กิตติ สมทรัพย์, เกษม อุประ ฯลฯ

 

ปี 2566 เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อาจเป็นปีทองของนกแล เมื่อ นพ.ชลน่าน เป็น รมว.สาธารณสุข, สุทิน เป็น รมว.กลาโหม และพิเชษฐ์ ได้นั่งรองประธานสภาฯ 

 

ด้วยเก้าอี้รัฐมนตรีมีจำกัด ในรัฐบาลแพทองธาร หมอชลน่านและสุทิน จึงต้องกลับไปทำงานสภาฯ ส่วนพิเชษฐ์ ได้ขยับเป็นประธานสภาฯ คนที่ 1

ชลน่าน-พิเชษฐ์ และ 3 บก.

นกแลเชียงราย

 

พิเชษฐ์ มีเทือกเถาเหล่ากอมาจาก อ.พาน จ.เชียงราย เนื่องจาก “เชื้อเมืองพาน” เป็นนามสกุลเจ้านายเมืองเหนือ ในยุคต้นรัตนโกสินทร์

 

เมื่อพิเชษฐ์ สำเร็จการศึกษาเทคโนโลยีการเกษตรบัณฑิต สาขาพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ขับเคลื่อนเรื่องงานการเกษตรในพื้นภาคเหนือ และมีบทบาทเป็นผู้นำเกษตรกร 

 

อยู่มาวันหนึ่ง ทักษิณ ชินวัตร ตั้งพรรคไทยรักไทย พิเชษฐ์จึงสมัครเป็นสมาชิกพรรค และเตรียมตัวลงสมัคร สส.เชียงราย

 

บังเอิญ ยงยุทธ ติยะไพรัช พาวิสาร เตชะธีราวัฒน์ แหกค่าย ปชป. มาซบเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จึงถูกวางตัวเป็นผู้สมัคร สส.เชียงราย คนหน้าใหม่อย่างพิเชษฐ์เลยต้องอยู่บัญชีรายชื่อ 

 

ปี 2546 พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ พิเชษฐ์ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 77 จึงได้เลื่อนขึ้นมาเป็น สส.

 

พิเชษฐ์รอมา 2 สมัย จึงได้ลงสมัคร สส.เชียงราย ในนามพรรคพลังประชาชนเมื่อปี 2550 หลังจากนั้น พิเชษฐ์กลายเป็นตัวหลักของพรรค และได้รับเลือกเป็น สส.เชียงราย มาทุกสมัย

 

นกแลเมืองน่าน

 

เมื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว มองว่า อาชีพหมอมีข้อจำกัดในการช่วยเหลือคนอื่น จึงอยากทำงานการเมือง

 

ช่วงปี 2542-2543 คำรณ ณ ลำพูน สส.น่าน พรรค ปชป. เป็น รมช.สาธารณสุข รัฐบาลชวน 2 จึงชักชวนให้หมอชลน่าน ลงสมัคร สส.ในสีเสื้อ ปชป. แต่หมอชลน่านปฏิเสธ

 

จังหวะนั้น มีแกนนำพรรคไทยรักไทย ลงพื้นที่เมืองน่าน พร้อมด้วยนโยบายประชานิยม หมอชลน่าน จึงตัดสินใจสมัคร สส.น่าน ในนามพรรค ทรท.

 

ปี 2544 นพ.ชลน่าน ลงสมัคร สส.น่าน เขต 2 (อ.บ้านหลวง, อ.เวียงสา, อ.นาน้อย, อ.นาหมื่น, อ.แม่จริม และอ.สันติสุข) ได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น และเป็น สส.น่าน ติดต่อกันมา 6 สมัย