คอลัมนิสต์

โชว์เหนือ “สว.สีน้ำเงิน” เอกภาพดัน “เขยบุรีรัมย์” ข่ม สส.คุมเกมประชามติ

โชว์เหนือ “สว.สีน้ำเงิน” เอกภาพดัน “เขยบุรีรัมย์” ข่ม สส.คุมเกมประชามติ

31 ต.ค. 2567

เขย่าสภาล่าง “สว.สีน้ำเงิน” เอกภาพดัน “เขยบุรีรัมย์” นั่งประธาน กมธ.คุมเกมประชามติ บ้านสีน้ำเงิน ไพร่พลทะลุ 170 คน

มาเหนือเมฆ สว.สีน้ำเงิน เสียงเอกภาพดัน เขยบุรีรัมย์ นั่งประธาน กมธ.ประชามติ โชว์เหนือ สส. คุมเกมแก้รัฐธรรมนูญ

 

ส่องกองทัพ สว.สีน้ำเงิน ยอดกำลังพลเบ่งบานทะลุ 170 เสียง เสบียงกรังพร้อม อาหารเสริมเพียบ แถมมีตำแหน่งมีภารกิจ

 

ก่อนรัฐสภาปิดสมัยประชุม สว.สีน้ำเงิน ได้แสดงพลังข่ม สส.อีกครั้ง กรณีคณะกรรมาธิการร่วมพิจารณา พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่ 2 สภาขัดแย้งกัน ซึ่ง กมธ.(สส.+สว.) มีทั้งหมด 28 คน ฝ่ายละ 14 คน ได้ประชุมเป็นนัดแรกเพื่อเลือกตั้งตำแหน่งต่างๆ

 

ตอนแรกเหมือนไม่มีอะไร แต่พอถึงคิวเลือกประธานปรากฏว่า พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.จากกลุ่มอาชีพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้รับเลือกเป็นประธาน กมธ.  

 

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร วัย 67 ปี เกิดและเติบโตที่เมืองเพชรบุรี แต่เป็น “เขยบุรีรัมย์” เพราะแต่งงานกับสาวเซราะกราว อ.นางรอง

 

เนื่องจาก พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ รับราชการในภาคอีสานมาตลอด โดยประจำการที่บุรีรัมย์มาร่วม 20 ปี ไต่ระดับจาก ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.อ.โนนสุวรรณ, ผกก.สภ.นางรอง และขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์

 

อดีตนายตำรวจใหญ่คนนี้ จึงถูกประทับตราว่า “สว.สีน้ำเงิน” หรือ สว.บ้านใหญ่บุรีรัมย์ เหมือน มงคล สุระสัจจะ ประธาน สว.

 

“เราสีน้ำเงิน มันดีอย่างหนึ่งนะ เราคิดในทางบวก สีน้ำเงินเป็นสีของสถาบันฯ เป็นสีหนึ่งของธงชาติ เราก็ได้รับเกียรติ เพราะตำรวจเราหนีไม่ออกในเรื่องของความจงรักภักดี” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ เคยพูดกับสื่อในที่เข้ารายงานตัวที่อาคารรัฐสภา

 

แพ้เอกภาพสีน้ำเงิน

 

ก่อนการประชุม กมธ.ร่วมสองสภาฯ นัดแรก ฝั่งสภาล่าง วางตัว ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน หวังคุมเกมและความได้เปรียบใน กมธ. 

 

ขณะที่ฝั่งสภาสูง สว.ที่เป็น กมธ.มากันครบ ไม่มีแตกแถว พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร จึงได้รับเลือกเป็นประธาน กมธ. ส่วนสภาล่าง บางคนลาประชุม บางคนงดออกเสียง จึงแพ้กลุ่ม สว.

 

ดังนั้น คณะกรรมาธิการร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติฯ จึงมี พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร นั่งประธาน, ประยุทธ ศิริพานิชย์ รองประธาน และนิกร จำนง เลขานุการ

 

ว่ากันว่า ตำแหน่งประธาน กมธ. อยู่ในมือ สว.สีน้ำเงิน ย่อมบ่งชี้ทิศทางกฎหมายประชามติว่า จะไปในทิศทางใด และกุญแจไขประตูนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเป็นจริงหรือไม่

 

สำหรับ กมธ.ร่วม พ.ร.บ.ประชามติ จะประชุมครั้งต่อไป ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ และคาดว่าจะประชุมไม่เกิน 5 ครั้งก็จะได้ตำตอบ 

 

เบื้องต้นมีรายงานว่า กมธ.ฝ่าย สส.พยายามเสนอสูตรประนีประนอม ขอให้ฝ่าย สว.ลดเกณฑ์ขั้นต่ำของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงประชามติจากไม่น้อยกว่า50 เปอร์เซ็นต์ หรือครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ลดเหลือเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ก็ลดเหลือ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้มีสิทธิ์  โดยในขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจากกมธ.ฝ่าย สว.  

 

ส่องหลังบ้าน สว.สีน้ำเงิน

 

กูรูการเมืองทุกสำนัก ต่างยอมรับว่า “สว.สีน้ำเงิน” ทำให้ดุลการเมืองเปลี่ยน ฝั่งบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ถือไพ่เหนือกว่าบ้านจันทร์ส่องหล้า ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยขยับยาก จะทำรัฐธรรมนูญใหม่ จะแก้นิรโทษกรรมพ่วง ม.112 ก็ทำไม่ได้ เสียมวลชนไปเรื่อยๆ

 

ปัจจุบัน บ้านสีน้ำเงิน มี สว.อยู่สังกัดไม่ต่ำกว่า 165 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 170 กว่าคนในเร็ววันนี้

 

แมงหวี่แมงวันแถวซอยรางน้ำ อาจได้ยินเสียง สว.หลายคนบ่นเรื่องอาหารเสริม แต่ยังไงคนที่มีสีเสื้อ ก็มีหลักประกันเรื่องตำแหน่ง และบทบาทในกรรมาธิการและภารกิจต่างๆ ขณะที่ สว.นอกสังกัดแทบจะหาพื้นที่สร้างบทบาทไม่ได้

 

อันเนื่องมาจากตำแหน่งใน กมธ. จึงเป็นแรงจูงใจให้ สว.อิสระจำนวนไม่น้อยยอมเปลี่ยนใจมาสวมเสื้อสีน้ำเงิน แลกกับมีตำแหน่ง มีภารกิจ

 

สำหรับ สส.ของค่ายสีน้ำเงินนั้น อาจได้รับการดูแลดีกว่า สว.บ้าง นอกเหนือ จากอาหารเสริมรายเดือนแล้ว ยังได้รับโบนัสอีกคนละ 2 กิโล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและค่าใช้จ่ายในช่วงปีใหม่