ศึก อบจ.สุรินทร์ “ทักษิณ” รุกเมืองช้างชนเด็ก “เนวิน” ค่ายแดงลับลวงพราง
เกมลับลวงพราง “ทักษิณ” ลุยสมรภูมิ “อบจ.สุรินทร์” ชนเด็ก “เนวิน” ตระกูลมุ่งเจริญพร หนุน “ซ้อน้อง” บ้านใหญ่สังขะ
ช้างชนช้าง ทักษิณ ลุยสมรภูมิ อบจ.สุรินทร์ เกมลับลวงพรางหนุนซ้อเสื้อแดงสู้ตระกูลมุ่งเจริญพร ค่ายครูใหญ่เนวิน
ซ้ำรอยขอนแก่น สส.สีแดงโวยมีการแอบอ้าง พรรคไม่ได้ส่งผู้สมัครนายก อบจ.สุรินทร์ แต่ซ้อน้องขึ้นป้ายสมาชิกเพื่อไทยแล้ว
การเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 พ.ย.2567 มีผู้สมัครนายก อบจ. 5 คน โดยสื่อโฟกัสไปที่ศึกสายเลือดตระกูล “มุ่งเจริญพร”
ระหว่างเบอร์ 1 ธัญพร มุ่งเจริญพร อดีตประธานสภา อบจ.สุรินทร์ และเบอร์ 2 พรชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์
ไม่มีใครให้ความสนใจ นัทธมน ศิริวัฒนวานิช อดีตรองนายก อบจ.สุรินทร์มากนัก กระทั่งวันที่ 10 พ.ย.2567 มีรายงานข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร เตรียมเดินทางไปหาเสียงช่วยนัทธมน ผู้สมัครนายก อบจ.สุรินทร์ เบอร์ 3 ในวันที่ 19-20 พ.ย.2567
วันที่ 11 พ.ย. 2567 ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย บอกว่าตนเองไม่ทราบเรื่องทักษิณลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ และยืนยันว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ ในครั้งนี้ ไม่มีตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ลงสมัครนายก อบจ.เลยแม้แต่คนเดียว
ครูมานิตย์ยังชี้ว่า ผู้สมัครเบอร์ 1-3 มีความเกี่ยวโยงกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งสิ้น ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ส่งผู้สมัครในสนามนี้
แหล่งข่าวในเพื่อไทยเปิดเผยว่า กำหนดการของทักษิณจะลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ วันที่ 19-20 พ.ย.นี้ ยังไม่มีออกมา ซึ่งหากทักษิณลงพื้นที่จริง ก็ถือเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ หลังทักษิณเคยลงพื้นที่ไปเป็นประธานงานอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ เมื่อ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม “ซ้อน้อง” นัทธมน ศิริวัฒนวานิช ที่ลงสนามแบบมวยรองก็ขยับขึ้นแท่นม้ามืดทันที เพราะมีข่าวว่า ทักษิณจะลงไปหาเสียงช่วยซ้อน้อง
ล่าสุด นัทธมน เพิ่งเปลี่ยนป้ายหาเสียง โดยมีภาพเธอสวมเสื้อเพื่อไทย และมีข้อความ “สมาชิกพรรคเพื่อไทย” โดดเด่นกว่าชื่อกลุ่มสุรินทร์ต้องดีกว่าเดิม
บ้านใหญ่ชายแดนสังขะ
เมื่อการเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ สมัยที่แล้ว “ซ้อน้อง” นัทธมน ศิริวัฒนวานิช สนับสนุน พรชัย มุ่งเจริญพร จึงได้รับตำแหน่งรองนายก อบจ.คนที่ 1
ภายหลังพรชัย ลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.ก่อนครบวาระ มีการเลือกตั้งใหม่ ซ้อน้องตัดสินใจลงสมัครนายก อบจ.สุรินทร์ โดยใช้ “กลุ่มสุรินทร์ต้องดีกว่าเดิม”
ซ้อน้อง-นัทธมน ไม่ใช่คนหน้าใหม่ เมื่อปี 2544 ใช้ชื่อ นัฐมล สมบูรณ์เทอดธนา ได้รับเลือกเป็น สส.สุรินทร์ เขต 4 (อ.สังขะ อ.กาบเชิง) พรรคชาติไทย
ตระกูลสมบูรณ์เทอดธนา เป็นบ้านใหญ่ชายแดน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ประกอบธุรกิจฟาร์มวัว และขายเครื่องจักรกลการเกษตร
นัทธมน เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ก่อนลงสมัครนายก อบจ. และดำเนินกลยุทธ์หาเสียงคล้ายกับวัฒนา ช่างเหลา คือมุ่งเจาะกลุ่มคนเสื้อแดงเมืองช้าง พร้อมโฆษณาผลงานรัฐบาลแพทองธาร
สาแหรกมุ่งเจริญพร
ประเด็นศึกสายเลือดตระกูลมุ่งเจริญพร ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะวิถีการเมืองของคนในตระกูลนี้ต่างแยกทางกันเดินชัดเจน
บ้านใหญ่มุ่งเจริญพร แยกเป็น 2 สายคือ ชูชัย มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ และธงชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ สวมเสื้อสีแดง พรรคเพื่อไทย
ส่วน ปกรณ์ มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ และพรซัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ สวมเสื้อสีน้ำเงิน พรรคภูมิใจไทย
ว่ากันตามสาแหรกของตระกูลมุ่งเจริญพร พ่อของ สส.ปกรณ์ เป็นพี่ชายคนโต และมีน้องชาย 3 คนคือ พรชัย ธงชัย และชูชัย
ฉะนั้น เฮียพรจึงมีศักดิ์เป็นอาของ สส.ปกรณ์ และซ้อหมวย ก็เป็นหลานสะใภ้ แต่วันนี้ ซ้อกลับมาเปิดศึกกับเฮียพร จึงมีคำถามว่า บ้านใหญ่บุรีรัมย์ เลือกที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งของเบอร์ 1 และเบอร์ 2 อย่างไร
หากทั้งเฮียพร เบอร์ 2 และซ้อหมวย เบอร์ 1 สู้กันถึงขั้นแตกหัก ต้องตัดแต้มกันเอง เบอร์ 3 ซ้อน้อง ค่ายสีแดงอาจแซงเข้าป้ายก็ได้