ขาลงของแท้ “ประวิตร” เจอพิษ “สามารถ” ต่อเนื่องสิ้นสภาพเจ้าพ่อโอลิมปิคฯ
บ้านป่าขาลง “ประวิตร” สวมบทเตมีย์ใบ้กรณี “สามารถ” เจอข่าวยกหูเคลียร์คดี บาดเจ็บการเมืองต่อเนื่องวงการกีฬา
กลัวเหงา พล.อ.ประวิตร สวมบทเตมีย์ใบ้กรณีสามารถ เจอข่าวยกหูเคลียร์คดี คนบ้านป่ารอยต่อฯ ชี้แจงเรื่องของคนหาแสง
บาดเจ็บจากการเมืองต่อเนื่องวงการกีฬา สะพัดเขี่ยลุงป้อม พ้นประธานโอลิมปิคฯ หลังพ่ายเลือกนายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯ
กรณีศาลออกหมายจับ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช และ มารดา-วิลาวัลย์ ในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินคดีดิไอคอน โดยดีเอสไอได้เข้าจับกุมทั้งคู่ และนำตัวไปฝากขังฝากขังศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว
อันเนื่องจาก “จ๊อบ” สามารถ เจนชัยจิตรวณิช เคยเป็นลูกรักคนบ้านในป่า ถึงขั้นมีตำแหน่งเป็นรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ
นักข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กรณีการจับกุมสามารถ ก็ได้คำตอบว่า “ผมไม่รู้”
จู่ๆ สิระ เจนจาคะ อดีต สส.กทม. ออกมาให้ข่าวว่า “คนในป่า” ยกหูหาคนๆหนึ่งให้ช่วยเหลือสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ที่ถูกออกหมายจับในข้อหาฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน
ร้อนถึง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา คณะกรรมการมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ในฐานะคนใกล้ชิดลุงป้อม ต้องออกมาปฏิเสธกรณี “คนในป่า” ยกหูเคลียร์คดีของสามารถ
เรื่องลับคนบ้านในป่า
นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้องกรณีทักษิณล้มล้างการปกครองฯ ก็ทำให้บ้านป่ารอยต่อฯ เงียบเหงาลงทันตา
ดังที่ทราบกัน พรรคพลังประชารัฐ มี สส.อยู่ในมือไม่ถึง 20 คน แต่ก็มีอาวุธลับอยู่ที่การเล่นเกมนิติสงคราม
บังเอิญกรณี “จ๊อบ” สามารถ เจนชัยจิตรวณิช มีความเชื่อมโยงกับลุงป้อม จึงทำให้บ้านป่ารอยต่อฯ หม่นหมองหนักขึ้น
วันที่ 26 พ.ย.2567 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เดินทางมาประชุม สส.พรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับคดีของสามารถ
ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาชี้แจงกรณีสิระพูดถึงคนบ้านในป่า โดยระบุว่า คนที่พูดไม่ได้อยู่ในพรรคแล้ว ขออนุญาติให้ช่วยรักษามารยาทด้วย ถ้าไม่ได้อยู่ในพรรค ก็อย่ามาพูดเรื่องในพรรคพลังประชารัฐ
เช่นเดียวกับ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เล่าว่า หลังตกเป็นข่าวฉาว บิ๊กป้อมก็พูดถึงสามารถว่า “..บอกไอ้ห่ามันทำอะไรแบบนี้ ก็ว่ากันไป มันเป็นคนแบบนี้ ทุกคนเขาก็เห็นอยู่แล้ว และเรื่องที่ว่าโทรไปไม่มีแน่นอน”
บ้านอัมพวันที่มั่นสุดท้าย
ในแวดวงสื่อสายการเมือง จะคุ้นเคยกับบ้านป่ารอยต่อฯ ส่วนนักข่าวสายกีฬาจะต้องรู้จัก “บ้านอัมพวัน” ที่ตั้งสำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย
ปัจจุบัน ลุงป้อมเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ จึงใช้บ้านอัมพวันเป็นที่มั่นด้านการกีฬา
เมื่อไม่นานมานี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แพ้เลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาทางน้ำ และส่อคุณสมบัติไม่พอจะดำรงตำแหน่งประธานโอลิมปิคต่ออีกสมัย
เมื่อกลางเดือน พ.ย.2567 สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย หรือสมาคมว่ายน้ำเดิม จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคม หลังนายกฯคนเก่า บิ๊กป้อมจะหมดวาระเมื่อ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา
ผลปรากฏว่า สโมสรสมาชิกได้เลือก พล.ท.บุญชัย เกษตรตระการ 231 เสียง ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ได้เพียง 22 เสียง ส่งผลให้ พล.ท.บุญชัยเป็นนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยคนใหม่
สำหรับกรณีลุงป้อมไม่เพียงหลุดเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯ แต่จะสิ้นสภาพประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯไปด้วย
ฉากทัศน์ต่อไปคือ การเลือกตั้งคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในเดือน มี.ค.2568 ก็จะไม่มีชื่อลุงป้อมเข้าแข่งขัน
ส่วน “บิ๊กสุ่น” พล.ท.บุญชัย เกษตรตระการ รองจเร กอ.รมน. ไม่เคยบทบาทด้านการกีฬามาก่อน ก็มีข่าวลือว่า น้องรักลุงป้อมคนหนึ่งให้การสนับสนุนบิ๊กสุ่น จึงโค่นลุงป้อมได้
ถึงเวลาสิ้นอำนาจวาสนา ลุงป้อมก็รักษาบ้านอัมพวันไว้ไม่ได้ นี่คืออนิจลักษณะการเมืองไทย