คอลัมนิสต์

สิ้นบารมี “ประวิตร” ดิ้นดึงบ้านใหญ่ “สุชาติ” เมินหนี จับมือฉายแสง ชิง อบจ.แปดริ้ว

สิ้นบารมี “ประวิตร” ดิ้นดึงบ้านใหญ่ “สุชาติ” เมินหนี จับมือฉายแสง ชิง อบจ.แปดริ้ว

02 ธ.ค. 2567

สิ้นวาสนาบารมี “ประวิตร” ดิ้นดึงบ้านใหญ่ “สุชาติ” เมินเดินหน้าจับมือตระกูล “ฉายแสง-จารุสมบัติ” ชิงนายก อบจ.แปดริ้ว

บ้านป่าบ้านร้าง ประวิตร สิ้นวาสนาบารมี ดิ้นดึง สุชาติ บ้านใหญ่แปดริ้ว ไม่สมหวัง แถมเจอข้อเสนอให้ลุงวางมือ

 

พ่อมดดำคัมแบ็กท้องถิ่น จับมือตระกูลฉายแสง-จารุสมบัติ หนุนน้องชายจาตุรนต์ ชนบ้านใหญ่ตระกูลเป้าเปี่ยมทรัพย์ ชิง อบจ.แปดริ้ว

 

มีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เชิญ “พ่อมดดำ” สุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯ มาพูดคุยเรื่องอนาคตทางการเมือง ที่บ้านป่ารอยต่อฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ปรากฏว่า สุชาติแนะนำให้ลุงป้อมวางมือ ควรถึงเวลาพักผ่อนได้แล้ว สำหรับตัวพ่อมดดำเอง ก็คงทิ้งเพื่อไทยกลับมาพลังประชารัฐไม่ได้แล้ว

 

ความจริงทางการเมือง สถานการณ์ใน พปชร. ไม่ต่างจากเรือรั่วใกล้อับปาง คนบนเรือต่างเผ่นหนีเอาชีวิตรอด สส.บ้านใหญ่หลายกลุ่มก๊วน เตรียมทางหนีทีไล่กันหมดแล้ว

 

วันนี้ สุชาติ ตันเจริญ ไม่ได้มีหัวโขนในรัฐสภา หรือในคณะรัฐมนตรี แต่ก็พยายามสร้างที่มั่นการเมืองท้องถิ่น เพื่อปูทางให้ทายาทตระกูลตันเจริญได้ก้าวเดินต่อไป

 

ล่าสุด พ่อมดดำ ร่วมกับตระกูลฉายแสง และตระกูลจารุสมบัติ ประกาศหนุน “นายกก้อย” กลยุทธ ฉายแสง ลงสมัครนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ในนามกลุ่มรวมใจพัฒนา

ดีลบ้านใหญ่แปดริ้ว หนุน กลยุทธ ฉายแสง ชิง นายก อบจ.

 

ศิษย์เก่าบ้านริมน้ำ

 

นัยว่า ลุงป้อมได้ตัดสินใจเชิญ สุชาติ ตันเจริญ มาเสวนาการเมืองในบ้านป่ารอยต่อฯ เพราะ “ครูต่าง” ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร ในฐานะแม่ทัพอีสาน พรรค พปชร. เป็นลูกน้องเก่ามดดำ

 

ในชั่วโมงนี้ ชัยมงคล สส.สกลนคร เป็นที่หวังที่พึ่งของหัวหน้าพรรค พปชร. เพราะลุงป้อมไม่เหลือใครแล้ว

 

เมื่อปี 2562 ชัยมงคล สมัยเป็นนายก อบจ.สกลนคร ได้รวบรวมเพื่อนนายก อบจ.อีสานเหนือ 5 จังหวัด มาอยู่ภายใต้ร่มเงาบ้านริมน้ำของ สุชาติ ตันเจริญ

 

ตอนนั้น พาพลพรรคบ้านริมน้ำเข้าไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีทั้งอดีต สส.สายอีสาน และนักการเมืองท้องถิ่น

 

สุชาติ มอบให้ชัยมงคล เป็นแม่ทัพรับผิดชอบ 5 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และยโสธร แต่พ่ายกระแสเพื่อไทยทุกเขต

 

ปี 2566 พ่อมดดำพาลูกชายออกจากบ้านป่ารอยต่อฯ กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า บรรดานักการเมืองท้องถิ่นบ้านริมน้ำสายอีสาน ก็แยกย้ายกันไป แต่ชัยมงคลปักหลักอยู่ พปชร.

 

เมื่อสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป พ่อมดดำคงประเมินแล้ว แบรนด์ลุงป้อมและ พปชร.ขายไม่ได้ จึงไม่คิดหวนกลับไปอยู่ค่ายบ้านป่ารอยต่อฯ

 

สงครามบ้านใหญ่แปดริ้ว

 

นับจากนี้ไป สุชาติ ตันเจริญ บ้านใหญ่พนมสารคาม คงปักหลักอยู่พรรคเพื่อไทย และเตรียมสร้างฐานการเมืองให้ทายาท “มดเล็ก” ศักดิ์ชาย ตันเจริญ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 3

 

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2567 สุชาติ ตันเจริญ ได้นัด “นายกก้อย” กลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา และตัวแทนบ้านใหญ่สายตระกูลจารุสมบัติ มาพูดกันที่บ้านริมน้ำ เมืองนนท์

 

ในวงพูดคุยได้ข้อยุติที่ว่า 4 ตระกูลบ้านใหญ่แปดริ้วคือ ฉายแสง, ตันเจริญ, จารุสมบัติ และนพเกตุ จะสนับสนุนกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา ลงสมัครนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 19 ธ.ค.2567 ในนามกลุ่มรวมใจพัฒนา หรือกลุ่มรวมใจฉะเชิงเทรา

 

สำหรับคู่แข่งคือ “นายกไก่” กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา 5 สมัย ในนามกลุ่มแปดริ้วโฉมใหม่ ที่มี อิทธิ ศิริลัทยากร รมช.เกษตรฯ สายตรงธรรมนัส ให้การสนับสนุน

 

ศึกนายก อบจ.แปดริ้ว ระหว่าง กลยุทธ ฉายแสง กับ กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ จะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดแหลมคมยิ่ง 

 

ดีลบ้านใหญ่แปดริ้วนี้ เป็นผลงานของซุ้มหัวสำโรง “นายกมะกัน”ธนะเกียรติ นพเกตุ นายก อบต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว ซึ่งเป็นฐานเสียงของ พินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกฯมายาวนาน

 

ดังนั้น ศึกชิง อบจ.แปดริ้วหนนี้ จะเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่ 3 ตระกูลบ้านใหญ่คือ “ตันเจริญ-ฉายแสง-จารุสมบัติ” ผนึกกำลังลุยสนามการเมืองท้องถิ่น