
หนึ่งในมาแรง "หมอมุดสัง" ถล่ม "2 บ้านใหญ่" ชิงปักธง อบจ.สุราษฏร์
บ้านใหญ่หักบ้านใหญ่ "หมอมุดสัง" ปักธง "อบจ.สุราษฎร์" ปลุกกระแสเปลี่ยน ดับฝัน "กำนันศักดิ์-ป้าโส"
หนึ่งเดียว หมอมุดสัง ความหวังค่ายส้มปักธง อบจ.สุราษฎร์ ปลุกกระแสเปลี่ยน ดับฝัน 2 ซุ้มบ้านใหญ่
แบรนด์หมอมุดสังแข็งแรง ไม่แพ้แบรนด์พิธา บวกกระแสส้ม จับตาคืนหมาหอนเมืองร้อยเกาะ กระสุนจะดับกระแส
ก่อนเปิดคูหาเลือกตั้งท้องถิ่น สมรภูมินายก อบจ.สุราษฎร์ธานี มีคนพูดถึงกรณี “หมอมุดสัง” นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ อย่างกว้างขวาง และนักวิเคราะห์ต่างฟันธงว่า หมอมุดสัง จะเป็นหนึ่งเดียวของค่ายสีส้มที่จะได้รับชัยชนะ
ช่วงแรกๆ ที่มีการเปิดตัว นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ ลงสมัครในนามพรรคประชาชน ด้วยสโลแกน “เปลี่ยน” และสุราษฎร์ดีกว่านี้ได้ ก็เหมือนจะเป็นแค่ตัวประกอบของ 2 บ้านใหญ่
เมื่อ “หมอมุดสัง” หาเสียงไปได้สักพัก ก็มีผู้คนพูดถึงปากต่อปาก บวกกับการใช้ TikTok อย่างได้ผล ส่งผลให้มีหัวคะแนนธรรมชาติเพิ่มขึ้นทั่วเมืองคนดี
มาถึงชั่วโมงนี้ ท่ามกลางการต่อสู้ห้ำหั่นตาต่อตา ฟันต่อฟันของ 2 บ้านใหญ่คือ พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว กับ โสภา กาญจนะ ทุกสภากาแฟเชื่อว่าโอกาสที่หมอมุดสัง จะสอดแทรกเข้าป้ายก็มีสูงมาก
แบรนด์หมอมุดสัง
ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคประชาชน ทั้ง 17 จังหวัด ปรากฏว่า กรณี “หมอมุดสัง” มีความแข็งแกร่งของตัวผู้สมัคร และมีปัจจัยตัวแปรภายนอก
ปัจจัยแรก แบรนด์หมอมุดสัง ในฐานะนายแพทย์สาธารณสุข นักบริหารมืออาชีพที่ได้รับการยอมจากประชาชนทุกชั้นชน
บนเส้นทางชีวิตราชการ 27 ปี ด้วยความรู้ความสามารถอันโดดเด่น จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สมัยที่อยู่เมืองร้อยเกาะ หมอมุดสังได้วางแผนยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ 3 ข้อ 1. การสร้างสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ 2.ต้นแบบเมืองสมุนไพรสุราษฎร์ธานี และ 3. NCDs หายได้ที่สุราษฎร์ธานี (เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ฯลฯ) ได้รับความชื่นชมมากมาย
ปัจจัยที่สอง เบื่อการเมืองเก่า ไม่เอาบ้านใหญ่ กระแสนี้อาจได้รับอิทธิพลมาจากการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง “น้ำ” วาริน ชิณวงศ์ ชูการเมืองสีขาว จึงเอาชนะบ้านใหญ่ไปได้
สงครามแค้นบ้านใหญ่
เชื่อว่า คนสุราษฏร์ส่วนหนึ่งที่หันไปเชียร์ “หมอมุดสัง” คงเห็นการแข่งขันอย่างเป็นเอาตายของ 2 ซุ้มบ้านใหญ่ ซึ่งไม่ต่างจากสงครามความแค้นแบบการเมืองเก่า
อันเนื่องจากผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ ปี 2563 กำนันศักดิ์-พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว ชนะชุมพล กาญจนะ อดีต สส.หลายสมัย ทำให้กำนันศักดิ์ เบ่งบารมี กลายเป็นขวัญใจคนรากหญ้า
ช่วงเลือกตั้ง สส.ปี 2566 กระแสลุงตู่ ทำให้กำนันศักดิ์ กับชุมพล ต้องมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติเหมือนกัน
ผลจากบาดแผลการเมืองท้องถิ่น ทำให้ รทสช.สุราษฎร์ แยกเป็น 2 ก๊กคือ ก๊กกำนันศักดิ์ บ้านใหญ่กาญจนดิษฐ์ และก๊กชุมพล-ป้าโส บ้านใหญ่เวียงสระ
แม้พรรค รทสช.จะชนะได้ สส. 6 ที่นั่ง และพลาดท่าให้พรรคภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง แต่สภากาแฟแถวไชยา พูดกันให้แซดว่า กำนันศักดิ์ เจอบ้านใหญ่เวียงสระวางยา
เมื่อสนามสุราษฎร์ เขต 6 (ท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง และวิภาวดี) พิชัย ชมภูพล ค่ายภูมิใจไทย ชนะ อนงค์นาถ จ่าแก้ว ลูกสาวกำนันศักดิ์
กำนันศักดิ์รู้อยู่แก่ใจว่า พิชัย ชมภูพล เป็นเด็กปั้นของตระกูลกาญจนะ และในท้ายที่สุด กำนันศักดิ์ก็อำลาพรรค รทสช. มาสังกัดพรรคกล้าธรรม
ด้วยเหตุนี้ ศึกนายก อบจ.เมืองหอยใหญ่เที่ยวนี้ 2 ซุ้มบ้านใหญ่ จึงทุ่มสุดกำลังชนิดทั้งคู่ต่างก็แพ้ไม่ได้
หากคนสุราษฎร์เชื่อในเรื่องการเมืองสีขาว เหมือนนครศรีฯโมเดล โอกาสเปลี่ยน..ก็จะเป็นของหมอมุดสังมากขึ้น และหากพรรคสีส้มได้บริหาร อบจ.เมืองคนดี อาจส่งผลต่อนิเวศน์การเมืองปักษ์ใต้ในการเลือกตั้ง สส.ปี 2570
ตรงกันข้าม หมอมุดสังแพ้ ก็อาจบ่งชี้ว่า การเมืองแบบบ้านใหญ่จะมีอิทธิพลครอบงำปักษ์ใต้ไปอีกระยะหนึ่ง