คอลัมนิสต์

หนึ่งในมาแรง "หมอมุดสัง" ถล่ม "2 บ้านใหญ่" ชิงปักธง อบจ.สุราษฏร์

หนึ่งในมาแรง "หมอมุดสัง" ถล่ม "2 บ้านใหญ่" ชิงปักธง อบจ.สุราษฏร์

30 ม.ค. 2568

บ้านใหญ่หักบ้านใหญ่ "หมอมุดสัง" ปักธง "อบจ.สุราษฎร์" ปลุกกระแสเปลี่ยน ดับฝัน "กำนันศักดิ์-ป้าโส"

หนึ่งเดียว หมอมุดสัง ความหวังค่ายส้มปักธง อบจ.สุราษฎร์ ปลุกกระแสเปลี่ยน ดับฝัน 2 ซุ้มบ้านใหญ่

แบรนด์หมอมุดสังแข็งแรง ไม่แพ้แบรนด์พิธา บวกกระแสส้ม จับตาคืนหมาหอนเมืองร้อยเกาะ กระสุนจะดับกระแส

ก่อนเปิดคูหาเลือกตั้งท้องถิ่น สมรภูมินายก อบจ.สุราษฎร์ธานี มีคนพูดถึงกรณี “หมอมุดสัง” นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ อย่างกว้างขวาง และนักวิเคราะห์ต่างฟันธงว่า หมอมุดสัง จะเป็นหนึ่งเดียวของค่ายสีส้มที่จะได้รับชัยชนะ

ช่วงแรกๆ ที่มีการเปิดตัว นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ ลงสมัครในนามพรรคประชาชน ด้วยสโลแกน “เปลี่ยน” และสุราษฎร์ดีกว่านี้ได้ ก็เหมือนจะเป็นแค่ตัวประกอบของ 2 บ้านใหญ่

เมื่อ “หมอมุดสัง” หาเสียงไปได้สักพัก ก็มีผู้คนพูดถึงปากต่อปาก บวกกับการใช้ TikTok อย่างได้ผล ส่งผลให้มีหัวคะแนนธรรมชาติเพิ่มขึ้นทั่วเมืองคนดี

มาถึงชั่วโมงนี้ ท่ามกลางการต่อสู้ห้ำหั่นตาต่อตา ฟันต่อฟันของ 2 บ้านใหญ่คือ พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว กับ โสภา กาญจนะ ทุกสภากาแฟเชื่อว่าโอกาสที่หมอมุดสัง จะสอดแทรกเข้าป้ายก็มีสูงมาก

แบรนด์หมอมุดสัง
 

ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคประชาชน ทั้ง 17 จังหวัด ปรากฏว่า กรณี “หมอมุดสัง” มีความแข็งแกร่งของตัวผู้สมัคร และมีปัจจัยตัวแปรภายนอก

ปัจจัยแรก แบรนด์หมอมุดสัง ในฐานะนายแพทย์สาธารณสุข นักบริหารมืออาชีพที่ได้รับการยอมจากประชาชนทุกชั้นชน

บนเส้นทางชีวิตราชการ 27 ปี ด้วยความรู้ความสามารถอันโดดเด่น จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี

สมัยที่อยู่เมืองร้อยเกาะ หมอมุดสังได้วางแผนยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพ 3 ข้อ 1. การสร้างสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ 2.ต้นแบบเมืองสมุนไพรสุราษฎร์ธานี และ 3. NCDs หายได้ที่สุราษฎร์ธานี (เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ฯลฯ) ได้รับความชื่นชมมากมาย

ปัจจัยที่สอง เบื่อการเมืองเก่า ไม่เอาบ้านใหญ่ กระแสนี้อาจได้รับอิทธิพลมาจากการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง “น้ำ” วาริน ชิณวงศ์ ชูการเมืองสีขาว จึงเอาชนะบ้านใหญ่ไปได้

วันที่พิธา ไปหาเสียงช่วยหมอมุดสัง

สงครามแค้นบ้านใหญ่
 

เชื่อว่า คนสุราษฏร์ส่วนหนึ่งที่หันไปเชียร์ “หมอมุดสัง” คงเห็นการแข่งขันอย่างเป็นเอาตายของ 2 ซุ้มบ้านใหญ่ ซึ่งไม่ต่างจากสงครามความแค้นแบบการเมืองเก่า

อันเนื่องจากผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ ปี 2563 กำนันศักดิ์-พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว ชนะชุมพล กาญจนะ อดีต สส.หลายสมัย ทำให้กำนันศักดิ์ เบ่งบารมี กลายเป็นขวัญใจคนรากหญ้า

ช่วงเลือกตั้ง สส.ปี 2566 กระแสลุงตู่ ทำให้กำนันศักดิ์ กับชุมพล ต้องมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติเหมือนกัน 

ผลจากบาดแผลการเมืองท้องถิ่น ทำให้ รทสช.สุราษฎร์ แยกเป็น 2 ก๊กคือ ก๊กกำนันศักดิ์ บ้านใหญ่กาญจนดิษฐ์ และก๊กชุมพล-ป้าโส บ้านใหญ่เวียงสระ 

แม้พรรค รทสช.จะชนะได้ สส. 6 ที่นั่ง และพลาดท่าให้พรรคภูมิใจไทย 1 ที่นั่ง แต่สภากาแฟแถวไชยา พูดกันให้แซดว่า กำนันศักดิ์ เจอบ้านใหญ่เวียงสระวางยา

เมื่อสนามสุราษฎร์ เขต 6 (ท่าชนะ ไชยา ท่าฉาง และวิภาวดี) พิชัย ชมภูพล ค่ายภูมิใจไทย ชนะ อนงค์นาถ จ่าแก้ว ลูกสาวกำนันศักดิ์

กำนันศักดิ์รู้อยู่แก่ใจว่า พิชัย ชมภูพล เป็นเด็กปั้นของตระกูลกาญจนะ และในท้ายที่สุด กำนันศักดิ์ก็อำลาพรรค รทสช. มาสังกัดพรรคกล้าธรรม

ด้วยเหตุนี้ ศึกนายก อบจ.เมืองหอยใหญ่เที่ยวนี้ 2 ซุ้มบ้านใหญ่ จึงทุ่มสุดกำลังชนิดทั้งคู่ต่างก็แพ้ไม่ได้ 

หากคนสุราษฎร์เชื่อในเรื่องการเมืองสีขาว เหมือนนครศรีฯโมเดล โอกาสเปลี่ยน..ก็จะเป็นของหมอมุดสังมากขึ้น และหากพรรคสีส้มได้บริหาร อบจ.เมืองคนดี อาจส่งผลต่อนิเวศน์การเมืองปักษ์ใต้ในการเลือกตั้ง สส.ปี 2570

ตรงกันข้าม หมอมุดสังแพ้ ก็อาจบ่งชี้ว่า การเมืองแบบบ้านใหญ่จะมีอิทธิพลครอบงำปักษ์ใต้ไปอีกระยะหนึ่ง