คอลัมนิสต์

แดงกินส้ม “ทักษิณ” โชว์กวาด “อบจ.เหนือ” บารมีชินวัตรข่มค่าย ปชน.

แดงกินส้ม “ทักษิณ” โชว์กวาด “อบจ.เหนือ” บารมีชินวัตรข่มค่าย ปชน.

30 ม.ค. 2568

เชียงใหม่ลุ้น 7 แสนแต้ม “ทักษิณ” ปิดเกม “อบจ.เหนือ” ค่าย “พิธา” ส่อแพ้เรียบ ศึกนี้พ่อเลี้ยงเดิมพันชินวัตร

แดงกินส้ม ทักษิณ ลุยปิดเกม อบจ.ภาคเหนือ แนวโน้มกวาด 7 จังหวัด พิธา ส่อแพ้เรียบ ศึกนี้ พ่อเลี้ยงแม้วเทหมดหน้าตัก

 

ฟันธงเชียงใหม่ แดงชนะส้ม ทักษิณลุ้น 7 แสนแต้ม กู้ชื่อพ่ายคาสนาม สส.ปี 2566 ธรรมนัส-ทีมบ้านใหญ่เดินเกมใต้ดินเต็มที่

 

เย็นวันที่ 30 ม.ค 2568 ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเวทีสุดท้ายปราศรัยหาเสียงช่วย “นายกก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ เป็นเวทีปิดท้าย ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมืองเชียงใหม่

 

“คราวที่แล้วเขียนจดหมายมา พี่น้องยังให้คะแนนพิชัยกว่า 4 แสนคะแนน วันนี้มาพูดเองจนเสียงแห้ง ขอสัก 7 แสนก็พอนะ เลือกขาดๆ ไปเลยไม่ต้องเกรงใจใคร”

 

อดีตนายกฯ ทักษิณ พูดทีเล่นทีจริง แต่ในใจลึกๆ ก็คงหวังที่จะเห็นตัวเลขมากกว่า 4 แสนคะแนน

 

จริงๆ แล้ว พรรคประชาชน ก็หมายมั่นปั้นมือที่จะยึดครอง อบจ.เชียงใหม่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงมาเปิดตัว พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว

 

เวลานั้น ค่ายส้มกำลังคึกคะนอง หลังชัยชนะเกือบแลนด์สไลด์ คว้า สส.เชียงใหม่ 7 ที่นั่งจากทั้งหมด 10 ที่นั่ง

 

สมรภูมินายก อบจ.ภาคเหนือ ปีนี้ มีการแข่งขัน 8 จังหวัด พรรคเพื่อไทย ส่งผู้สมัคร 7 จังหวัด และพรรคประชาชน ส่ง 2 จังหวัด ซึ่งแนวโน้มผลการเลือกตั้ง ค่ายสีแดงจะกวาดไปได้ทั้ง 7 จังหวัด

สมรภูมิเชียงใหม่ เดิมพันยกตระกูลชินวัตร

บ้านเกิดชินวัตรแพ้ได้ไง

 

ศึก อบจ.เชียงใหม่ คือเดิมพันสุดท้ายของ “นายกคนเมือง” ทักษิณ ชินวัตร จึงทุ่มเทการหาเสียงช่วย “นายกก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร โดยเริ่มคิกออฟช่วงสงกรานต์ปี 2567

 

ถ้ายังจำกันได้ ทักษิณพูดในงานรดน้ำดำหัวที่บ้านเจ๊แดงว่า จะมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้นายกก๊อง และพร้อมจะไปพบชาวเชียงใหม่ทุกอำเภอ

 

ครั้งหนึ่ง ทักษิณเคยพูดบนเวทีปราศรัยว่า “ที่เชียงใหม่ พรรคเรามี 3 คน..” หลายคนอาจงงนิดหน่อย เพราะ สส.เชียงใหม่ ค่ายสีแดงเหลือแค่ 2 คน แล้วคนที่ 3 มาจากไหน

 

สส.คนที่ 3 นั่นคือ นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ เขต 9 พรรคกล้าธรรม ในอดีต นเรศเป็นมือทำงานของพ่อเลี้ยงบุญเลิศ บูรณุปกรณ์

 

ปัจจุบัน นเรศ เป็นคนสนิทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรฯ ซึ่งในการเลือก ส.อบจ.เชียงใหม่ นเรศ ได้ส่งลูกชายลงสมัคร สจ.ในนามพรรคเพื่อไทย

 

ทีมผู้กองธรรมนัส และอดีต สจ.สายบ้านใหญ่เชียงใหม่ เป็นอาวุธลับที่ทักษิณมั่นใจว่า “นายกก๊อง” จะชนะพันธุ์อาจ พรรคสีส้ม

 

ส่วนสนามลำพูน อนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตนายก อบจ.ลำพูน ก็น่าจะชนะ วีระเดช ภู่พิสิฐ ตัวตึงของพรรคประชาชน

 

สรุปว่า พรรคสีส้มส่งผู้สมัครนายก อบจ.ภาคเหนือ 2 จังหวัด ก็คงชวดชัยหมด เพราะเงื่อนไขเลือกท้องถิ่นแตกต่างจากเลือกตั้ง สส.  

มาเหนือเพื่อต่อยอด

 

สังเวียนเชียงราย สลักจฤฏดิ์ ติยะไพรัช พรรคเพื่อไทย น่าจะชนะอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.เชียงราย 

 

ศึกนี้ พ่อเลี้ยงแม้วลงไปเคลียร์ “บ้านใหญ่เจียงฮาย” ด้วยตัวเอง ขอร้องให้ทุกบ้านหนุนหวานใจ “อ้ายยุทธ” 

 

สนามลำปาง พรรคประชาชนไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ. ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร อดีตนายก อบจ.ลำปาง พรรคเพื่อไทย ก็นอนมา

 

เช่นเดียวกันสนามน่าน นพรัตน์ ถาวงศ์ อดีตนายก อบจ.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้ไปต่ออีกสมัย

 

สังเวียนแพร่ อนุวัธ วงศ์วรรณ อดีตนายก อบจ.แพร่ 3 สมัย ยอมสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยครั้งแรก ก็คงเอาชนะประสงค์ ชุ่มเชย ทีมงาน “แม่เลี้ยงติ๊ก” ได้ไม่ยาก

 

ส่วนสนามแม่ฮ่องสอน ทั้งค่ายสีแดง และค่ายสีส้ม ไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ.ลงสนาม จึงเป็นโอกาสของ อัครเดช วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.แม่ฮ่องสอน 3 สมัย

 

แม้ ดนุภัทร์ เชียงชุม คนสนิท สมบัติ ยะสินธุ์ อดีต สส.แม่ฮ่องสอน พรรค ปชป.จะปักหลักสู้ แต่บ้านใหญ่วันไชยธนวงศ์ คงไม่พลาดท่าปราชัย

 

ค่ายเพื่อไทยเน้นสมรภูมิ อบจ.ภาคเหนือ เพราะยังมั่นใจในยุทธศาสตร์ยึดเหนือเพื่อศักดิ์ศรีบารมีชินวัตร