
รักร้าวเลิกยาก "ทักษิณ" เบื่อแค่ไหนก็ทน "เนวิน" พลังน้ำเงินคว่ำแก้ รธน.
วาเลนไทน์การเมือง "ทักษิณ" รักร้าวเลิกยาก "เนวิน" อ่านขาด โชว์รำวงเซราะกราว น้ำเงินดับฝันรื้อรัฐธรรมนูญ 2560
ดีลคลุมถุงชน ทักษิณ เบื่อแค่ไหนก็ทน จูบกันบ้าง ตบตีกันบ้าง เนวิน อ่านขาด หย่าร้างไม่ได้ เลือกโชว์รำวงเซราะกราว
วาเลนไทน์การเมือง แดงรื้อรัฐธรรมนูญแบบมีแผนลึกล้ำ น้ำเงินสาย สส.วอล์คเอาท์ สาย สว.ลากไปเชือด แนวโน้มจบแบบปี 2564
การเมืองไทยยุคนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้เล่นนอกทำเนียบ ไม่มีอำนาจเต็มไม้เต็มมือเหมือน 20 ปีที่แล้ว แถมโดนดีลซ่อนกลซ่อนเงื่อนคอยกำกับ
ฉะนั้น รัฐบาลแพทองธาร จะทำอะไรก็ดูไม่ไหลลื่น ติดๆ ขัดๆ เนื่องจากเด็กครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ ชอบแทงกั๊ก ชอบออกสเต็ปรำวง
ไม่แปลกที่สัปดาห์นี้ มีใครบางคนจะปล่อยข่าวข่าวปรับ ครม.แพทองธาร 1 ซึ่งคาดการณ์ว่า จะเกิดขึ้นหลังศึกซักฟอกรัฐบาล ช่วงต้นเดือน เม.ย.2568
เฉพาะหน้า มีการวัดพลังกันอีกรอบระหว่างค่ายสีแดง และค่ายสีน้ำเงิน โดยมีวาระรื้อรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นเดิมพัน
วันที่ 13-14 ก.พ. นี้ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน ต่างยื่นญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย แสดงจุดยืนไม่ขอเสี่ยงสังฆกรรมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมันเสี่ยง เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ
อีกประเด็นร้อนคือ กลุ่มตัวแทนผู้สมัคร สว. ได้เข้ายื่นหนังสือต่อดีเอสไอ ให้รับเป็นคดีพิเศษ โดยขอให้ร่วมสอบสวนคดีการฮั้ว โกง และบล็อกโหวตในการเลือก สว.ปี 2567
เกมนี้ถูกมองว่า มีเป้าหมายอยู่ที่การลดทอนพลัง สว.สีน้ำเงิน เพื่อทำให้ดุลอำนาจในพรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยน
ค่ายสีแดงเล่นท่ายาก
แกนนำพรรคเพื่อไทย รู้มาแต่แรกแล้วว่า การรื้อรัฐธรรมนูญ 2560 ยากจะฝ่าด่านเสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพราะพรรคภูมิใจไทย ไม่ร่วมประชุม และ “สว.สีน้ำเงิน” มีจุดยืนไม่แก้รัฐธรรมนูญ
เหนืออื่นใด การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะถูกตัดจบไปเหมือนกรณี 17 มี.ค.2564 เพื่อไทย ก้าวไกล ลุยโหวตวาระสาม และผลคือ ถูกตีตก ไม่สามารถหยิบยกการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาได้จนหมดวาระของสภาฯ
คราวนี้เพื่อไทยแก้เกม โดยยืมมือ สว.กลุ่มสีขาว นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.ยื่นญัตติเพื่อขอให้รัฐสภา มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่ และอำนาจของรัฐสภา มาตรา 210 (2) ในกรณีการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของสมาชิกรัฐสภา ต่อที่ประชุมรัฐสภา
ดังนั้น สส.เพื่อไทย กล้าธรรม และกลุ่ม สว.สีขาว จึงสนับสนุนญัตติหมอเปรมศักดิ์
สุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พูดชัดว่า เพื่อไทยเห็นด้วยต่อการเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นหนทางที่จะแก้ไขได้ หากญัตติค้างอยู่จะยังทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ต่อไป
สรุปว่า เพื่อไทยรอเวลารื้อใหญ่รอบเดียว หลังกฎหมายประชามติฉบับแก้ไข ซึ่งแก้เกณฑ์ผ่านประชามติด้วยเสียงข้างมากชั้นเดียว มีผลบังคับใช้ ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 ฤทธิ์ สว.สีน้ำเงิน
เมื่อที่ประชุมเสียงข้างมาก มีมติไม่เลื่อนญัตติหมอเปรมศักดิ์จากลำดับที่ 3 มาพิจารณาก่อน ก็ต้องเดินหน้าญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
แกนนำเพื่อไทย ก็มองเห็นฉากจบ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีแนวโน้มไม่ผ่านมติของรัฐสภา พูดง่ายๆคือ สว.ที่จะได้ไม่ถึง 67 เสียง หรือ 1 ใน 3
เมื่อสแกนผลการลงมติในญัตติของหมอเปรมศักดิ์ ซึ่งเสียงข้างมาก 275 เสียง เห็นว่าไม่ให้เลื่อน ต่อเสียงที่หนุนให้เลื่อน 247 เสียง
ในเสียงข้างมากที่ไม่ให้เลื่อนนั้น พบว่ามี สส.พรรคประชาชนเป็นกลุ่มหลัก รวมกับพรรคเป็นธรรม และสว.กลุ่มพันธุ์ใหม่
ที่น่าสนใจ มี สว.มากถึง 136 เสียงที่ลงมติสนับสนุน ซึ่งพลิกดูรายชื่อแล้ว ล้วนเป็น สว.สีน้ำเงิน
นั่นหมายถึง สว.สีน้ำเงิน สนับสนุนให้เดินหน้าประชุมต่อ ไม่ต้องรอพักเบรกไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ และเมื่อลงมติโหวตวาระ 1 ,2 ก็จะไปตัดจบที่วาระ 3 เหมือนปี 2564