คอลัมนิสต์

พ่าย 3 ตัด "ชิตตู่" เปิดทางจีนเทาเผ่น "BGF" โชว์ละครปราบคอลเซ็นเตอร์

พ่าย 3 ตัด "ชิตตู่" เปิดทางจีนเทาเผ่น "BGF" โชว์ละครปราบคอลเซ็นเตอร์

14 ก.พ. 2568

ล้างเมืองบาป "ชิตตู่" จีนเทาทิ้งชเวก๊กโก่ "BGF" โชว์ละครปราบแก๊งคอลฯ "มินอ่องหล่าย" เลือกกะเหรี่ยงเทาถ่วงดุล KNU

ล้างเมืองบาป ชิตตู่ เปิดทางจีนเทาเผ่น BGF โชว์ละครปราบคอลเซ็นเตอร์ พ่ายมาตรการ 3 ตัด กะเหรี่ยงเทาง้อไทย

กะเหรี่ยงเทา DKBA-BGF แข่งกันสร้างภาพอุ้มเหยื่อข้ามแดน ไม่ต่างจากชื่อหนังฮอลลีวู้ดเรื่องไถ่บาปด้วยบุญโจร

หลัง “โกไซ” พล.จ.ไซ จ่อหล่า และผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA จัดอีเวนต์ส่งเหยื่อการค้ามนุษย์ 260 คน ผ่านบ้านช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งมีการมอบเงินให้เหยื่อรายละ 3 พันบาท

ฝั่งเมืองชเวก๊กโก่ พ.อ.ซอ ชิตตู่ ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง ก็แต่งตั้งหน่วยพิเศษเพื่อปราบปรามธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์

วันที่ 14 ก.พ. 2568 ได้มีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นทางฝั่งเมียวดี เริ่มจากสื่อท้องถิ่นได้มีการเผยแพร่ภาพทหาร BGF คุ้มรถนักธุรกิจจีนหรือกลุ่มจีนเทา ระหว่างการเดินทางจากเมืองเมียวดี ไปยังเมืองกอกะเร็ก รัฐกะเหรี่ยง

แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มนายทุนจีนอาจกำลังเดินทางไปย่างกุ้ง ซึ่งปกตินายทุนกลุ่มนี้ จะมีบ้านพักอยู่ใน อ.แม่สอด จ.ตาก

อีกด้านหนึ่ง หน่วยพิเศษ BGF ได้เริ่มปฏิบัติการตรวจค้นและกวาดล้างธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ในเมืองใหม่ชเวก๊กโก่ โดยมีการรวบรวมเหยื่อการค้ามนุษย์เป็นจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ พ.อ.ซอ ชิตตู่ ได้ส่งหนังสือแถลงการณ์ถึง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม เรื่องความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ พร้อมหยอดคำหวานขอให้รัฐบาลไทยให้คำชี้แนะ และให้ความช่วยเหลือตามความจำเป็นด้วย
 

ภาพ BGF คุ้มกันรถนายทุนจีน ออกจากเมืองชเวก๊กโก่ มุ่งหน้าเมาะละแหม่ง

อุ้มจีนเทาทิ้งเมียวดี
 

มาตรการ 3 ตัดคือ ตัดไฟ ตัดน้ำมัน และตัดเน็ต ของรัฐบาลแพทองธาร สร้างความเดือดร้อนให้ชาวเมียนมา ทั้งฝั่งเมียวดี ท่าขี้เหล็ก และพญาตองซู

สำหรับพื้นที่เมืองใหม่ของกลุ่มจีนเทา ไม่ว่าจะเป็นชเวก๊กโก่, เคเคพาร์ค และบ้านช่องแคบ ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากกลุ่มทุนจีนได้สั่งเครื่องปั่นไฟจำนวนมากจากจีน โดยใช้น้ำมันจากเมียนมา แก้ปัญหาการจ่ายไฟไม่เพียงพอมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

หลังจากสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) โดย พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ได้สั่งห้ามส่งน้ำมันไปที่เมืองเมียวดี จึงทำให้ผู้นำกะเหรี่ยง BGF และ DKBA ต้องปรับแผนใหม่

ปฏิบัติการล้างเมืองบาป จึงเกิดขึ้น พ.อ.ซอ ซานอ่อง เสนาธิการทหาร DKBA พูดชัดว่า ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์จะต้องหมด คงเหลือไว้เฉพาะกาสิโน

แหล่งข่าวยังบอกว่า ขณะนี้กลุ่มนักธุรกิจชาวจีน และผู้บริหารบริษัทย่าไท่(Yatai) ได้ออกจากพื้นที่หมดแล้ว

ว่ากันว่า ผู้บริหาร Yatai ได้รับการแจ้งเตือนจากเครือข่ายในรัฐบาลจีนมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว กรณีจีนต้องการเข้ามาเป็นตัวกลางแก้ปัญหาความขัดแย้งในเมียนมา ระหว่าง SAC กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ด้วยการนำประเด็นขบวนการคอลเซ็นเตอร์ มากดดันผู้นำกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ทำธุรกิจสีเทา

BGF ถ่วงดุล KNU
 

ศูนย์อำนาจในปักกิ่ง คงอยากมีบทบาทในการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทางฝั่งเมียวดี เหมือนกรณีเล้าก์ก่าย รัฐบาลแพทองธาร ก็เปิดเกมรุกด้วยมาตรการ 3 ตัด และหาช่องทางเจรจากับผู้นำกะเหรี่ยง BGF และ DKBA โดยตรง

ด้านหนึ่ง พ.อ.ซอ ชิตตู่ ,พ.ท.ซอ โม้โต่ง และ พ.ต.เต่งวิน ยังเป็นนายทหารสังกัดกองทัพเมียนมา และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย

ผู้กุมอำนาจในเนปิดอว์ ก็ยังต้องการใช้กะเหรี่ยง BGF ที่มีกำลังพลหมื่นนาย ถ่วงดุลสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ในรัฐกะเหรี่ยง

ปัจจุบัน กองทัพเมียนมา ยังไม่สามารถส่งกองกำลังเข้ามาประจำการที่ค่ายผาซอง เมียวดีได้ เพราะถูกทหารกะเหรี่ยง KNLA สกัดไว้ที่เมืองกอกะเร็ก

เนื่องจากภูมิรัฐศาสตร์การเมืองในรัฐกะเหรี่ยง ต่างจากเล้าก์ก่าย รัฐฉานเหนือ ซึ่งจีนมีอิทธิพลต่อกองกำลังว้า(USWA) และโกก้าง (MNDAA)

ส่วนด้านชายแดนไทย-เมียนมา อิทธิพลของสหรัฐฯ ยังมีบทบาทสูงต่อผู้นำกะเหรี่ยง KNU และกลุ่มกะเหรี่ยง PDF

ด้วยเหตุนี้ การปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมืองเมียวดี จึงกลายเป็น “อีเวนต์ไถ่บาป” ของกะเหรี่ยงเทา ทั้ง DKBA และ BGF