
จีนเล่น 2 หน้าอุ้ม "มินอ่องหล่าย" แตะมือ "ชิตตู่" เมียวดีโมเดลล้างแก๊งคอลฯ
เกม 2 หน้า "จีน" ผู้ชนะสิบทิศ จูบปาก "มินอ่องหล่าย" อุ้ม "ชิตตู่" ปราบแก๊งคอลฯ ยืมมือไทยตัดไฟ ตัดน้ำมัน ตัดเน็ต
จีนผู้ชนะสิบทิศ ชิตตู่ พลิกบทปราบแก๊งคอลฯ มินอ่องหล่าย แย่งซีนส่งเหยื่อกลับบ้าน หลังยืมมือไทยตัดไฟ ตัดน้ำมัน ตัดเน็ต
ปักกิ่งเดินเกมเจรจาไทย-เมียนมา บีบ BGF-DKBA จำใจเล่นบทพ่อพระอุ้มเหยื่อ หลังล้างเมืองบาป ได้กลิ่นไฟสงครามรัฐกะเหรี่ยง
ยุทธการ “เมียวดีโมเดล” อำนวยการสร้างโดยรัฐบาลปักกิ่ง ไม่จบแบบเล้าก์ก่ายโมเดล ไม่มีภาพ พ.อ.ซอ ชิตตู่ และสหาย ถูกใส่กุญแจมือ เหมือนกรณีไป๋ โส่วเฉิง ผู้นำ BGF โกก้าง
เนื่องจาก พ.อ.ซอ ชิตตู่ ,พ.ท.ซอ โม้โต่ง และ พ.ต.เต่ง วิน ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF มี พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) เป็นกองหนุน
วันที่ 14 ก.พ. 2568 หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางไปยังเนปิดอว์ เมียนมา เข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายใน(มหาดไทย) สภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) หารือถึงการส่งตัวชาวจีนกลับออกจาก จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และการส่งตัวอาชญากรที่จีนต้องการตัวกลับไปดำเนินคดี
วันที่ 16 ก.พ. 2568 หลิว จงอี้ เดินทางจากประเทศเมียนมา มายังท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนจะนั่งเครื่องบินเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด จ.ตาก
บ่ายวันเดียวกัน หลิว จงอี้ พร้อมคณะ เดินทางไปเมืองใหม่ชเวก๊กโก่ พร้อมกับรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในเมียนมา ติดตามการคัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์โดยเจ้าหน้าที่เมียนมา ร่วมกับทหารกะเหรี่ยง BGF
จากกรุงเทพฯ ไปเนปิดอว์ แล้ววกกลับมาแม่สอด ก่อนจะข้ามน้ำเมยไปเมืองใหม่ชเวก๊กโก่ นี่คือการเดินทางของ หลิว จงอี้ ในภารกิจปิดจ๊อบล้างเมืองบาปฉบับปักกิ่ง
พม่าทวงคืนเมียวดี
มีข้อน่าสังเกตว่า พ.อ.ซอ ชิตตู่ ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง BGF กวาดล้างคอลเซ็นเตอร์ในเมืองใหม่ชเวก๊กโก่ ตรงกับวันเดียวกันที่ หลิว จงอี้ ผช.รมว.ความมั่นคงสาธารณะของจีน เข้าพบบิ๊กมหาดไทยเมียนมา
ถัดมา วันที่ 15 ก.พ. 2568 กระบอกเสียงของสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ตีข่าวเตรียมส่งตัวเหยื่อค้ามนุษย์ชาวจีนกลับประเทศต้นทาง โดยระบุว่า เหยื่อค้ามนุษย์จากหลายประเทศ อยู่ในการดูแลของ BGF พร้อมกันทาง SAC ยังเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่เมียนมา ได้เข้าไปดำเนินการคัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์ พบชาวจีนแยกเป็น 194 คนและหญิง 6 คน รวม 200 คน ในพื้นที่เมืองชเวก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง โดยจะมีส่งตัวให้ทางการจีนตามขั้นตอน
ว่ากันตามจริง นับแต่ค่ายผาซอง กองพัน 275 ถูกกะเหรี่ยง KNU ตีแตก เมื่อเดือน เม.ย.2567 แทบไม่มีทหารเมียนมาเหลืออยู่ในเมืองเมียวดี และมีเพียงเจ้าหน้าที่ราชการส่วนอื่นเหลืออยู่ไม่มากนัก
การที่มีภาพเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานความมั่นคง มาทำหน้าที่คัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์ สะท้อนว่า พ.อ.ซอ ชิตตู่ ยอมเปิดทางให้มีการส่งทหารเมียนมา ทยอยเข้ามาแบบลับๆ มานานแล้ว
ดังที่ทราบกัน กองทัพเมียนมา พยายามส่งกองทหารขนาดใหญ่ เข้ามายังเมืองเมียวดี แต่ก็ยังฝ่าด่านสกัดของกะเหรี่ยง KNU/KNLA ไม่ได้
เกมสองหน้าปักกิ่ง
ปฏิบัติการ “กรุงเทพฯ-เนปิดอว์-ชเวก๊กโก่” ของหลิว จงอี้ สะท้อนว่า จีนยังเล่นเกม 2 หน้าในเมียนมา ด้านหนึ่ง รักษาสัมพันธ์กับรัฐบาลมินอ่องหล่าย อีกด้านหนึ่ง ก็ยังพูดคุยกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์
กรณีของกะเหรี่ยง BGF ปักกิ่งมิได้ต่อสายโดยตรง แต่ก็ให้รัฐบาลมินอ่องหล่ายเป็นผู้ประสานงาน
“เมียวดีโมเดล” ปราบแก๊งคอลฯ เที่ยวนี้ จึงเป็นความร่วมมือของรัฐบาลไทย จีน และเมียนมา
โดยไทยใช้มาตรการ 3 ตัดคือ ตัดไฟ ตัดน้ำมัน ตัดเน็ต กดดันให้กะเหรี่ยง BGF และ DKBA ยอมจัดการแก๊งคอลฯ แลกกับการรักษาผลประโยชน์ด้านอื่นไว้ เช่นกาสิโน และสถานบันเทิงทั่วไป
แหล่งข่าวความมั่นคงเปิดเผยว่า รัฐบาลแพทองธาร ร่วมมือกับจีน และเมียนมา ก็หวังฟื้นฟูช่องทางการค้าขายชายแดนตะวันตกให้กลับมาสู่ภาวะปกติ
รูปธรรมคือ เปิดถนนสายเอเชีย(AH1) ที่เชื่อมจากชายแดนด้านแม่สอดไปสู่ภาคกลางของเมียนมา และหลังล้างเมืองบาปเมียวดี ก็ได้กลิ่นไฟสงครามรัฐกะเหรี่ยงรอบใหม่