คอลัมนิสต์

ส่องทางชีวิต "หลิว จงอี้" มังกรลุยเดี่ยวสยบ "ชิตตู่" เมินพม่าอุ้มแก๊งก๊กโก่

ส่องทางชีวิต "หลิว จงอี้" มังกรลุยเดี่ยวสยบ "ชิตตู่" เมินพม่าอุ้มแก๊งก๊กโก่

18 ก.พ. 2568

พลิกปูมชีวิต "หลิว จงอี้" มือปราบแก๊งคอลฯ สยบ "ชิตตู่" หนุนไทยคงไม้แข็ง 3 ตัด ค้านเนปิดอว์อุ้มแก๊งก๊กโก่

มือปราบ หลิว จงอี้ สยบกะเหรี่ยงเทา ชิตตู่ หนุนไทยคงมาตรการไม้แข็ง 3 ตัด ค้านเนปิดอว์อุ้มแก๊งชเวก๊กโก่

 

รู้จัก หลิว จงอี้ สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน มือสืบสวนคดีอาญาระดับชาติ สู่วีรบุรุษต้นแบบด้านความมั่นคงสาธารณะ

ปฏิบัติการข้ามน้ำเมยของ หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงวันที่ 16-17 ก.พ.2568 ได้มีปฏิกิริยาในหมู่คนไทยอย่างกว้างขวาง ทั้งตั้งคำถามว่า ตัวแทนรัฐบาลไทยไปไหน ปล่อยให้ “มือปราบหลิว” ไปไหนมาไหน ราวมีอธิปไตยเหนือดินแดนไทย

ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า ไทยเรารับทราบการเคลื่อนไหวของหลิว จงอี้ โดยตลอด เพราะเป็นการร่วมมือของ 3 ชาติคือ ไทย เมียนมา และจีน

ว่ากันตามจริง หากติดตามข่าวสารเรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทางฝั่งเมียวดี ก็จะรู้ว่า ก่อนข้ามน้ำเมย หลิว จงอี้ เพิ่งกลับมาจากเนปิดอว์

14 ก.พ. 2568 หลิว จงอี้ เดินทางไปกรุงเนปิดอว์ เมียนมา เข้าพบ พล.ท.ทุน ทุน หน่อง รมว.มหาดไทย สภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) นัดหมายมาเจอกันที่เมียวดี

16 ก.พ. 2568 หลิว จงอี้ ข้ามแดนไปที่เมืองเมียวดี ประชุมร่วมกับ พล.ท.ทุน ทุน หน่อง รมว.มหาดไทย, ข่าย ทุนอู ปลัดมหาดไทย และ พล.ต.ต.วิน ซอ โม ผบ.ตร.เมียนมา

17 ก.พ. 2568 หลิว จงอี้ ข้ามน้ำเมยอีกครั้ง ไปที่ศูนย์คัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์ เมืองใหม่ชเวก๊กโก่ ติดตามการทำงานของตำรวจเมียนมา

ระหว่างอยู่ในเมืองเมียวดี มือปราบหลิว ได้รับการอารักขาจากกองกำลัง BGF เพราะเมืองเมียวดี ไม่มีตำรวจและทหารเมียนมา มาปีกว่าแล้ว

ที่น่าสนใจ หลิว จงอี้ เหยียบถ้ำพยัคฆ์ แต่เขาไม่ได้พบกับ พล.ต.ซอ ชิตตู่ ผู้นำกองกำลัง BGF ทั้งที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่า สองคนนี้จะได้พบกัน

มังไร้ร่องรอย หลิว จงอี้ มือปราบแก๊งคอลฯ

ไม่อ่อนข้อแก๊งก๊กโก่

 

ก่อนจบภารกิจล้างเมืองบาปเมียวดี หลิว จงอี้ มีคิวเข้าพบ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในวันที่ 19 ก.พ. นี้

ในวันนั้น หลิว จงอี้ จะได้นำข้อเสนอแนะ 4 ข้อจากทางการจีนผ่านรองนายกฯ ภูมิธรรม

1. เสริมสร้างกลไกไตรภาคี ภายใต้อำนาจอธิปไตยและกฎหมายและกฎหมายท้องถิ่น ในอนาคตอาจเพิ่มสมาชิก

2. มาตรการตัดไฟ สัญญาณอินเตอร์เน็ต และน้ำมันเชื้อเพลิง เกิดผลเป็นรูปธรรม ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ขอให้ไทยดำเนินการต่อ แม้จะมีการเรียกร้องจากประเทศเมียนมาให้ยกเลิก

3. ให้การสกัดกั้น ควบคุม พื้นที่ไม่ให้อาชญากร หลบหนีหรือเคลื่อนย้ายไปพื้นที่อื่น

4. ให้ไทยช่วยเหลือในการส่งกลับคนจีน โดยจีนจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมาส่งไทย

สังเกตจากข้อเสนอแนะที่ 2 แสดงให้เห็นว่า ศูนย์อำนาจเนปิดอว์ ต้องการเข้ามามีอำนาจในเมืองเมียวดี จึงเสนอให้ยกเลิกมาตรการ 3 ตัด หากได้รับการตอบสนองจากไทย ก็เป็นการซื้อใจชาวรัฐกะเหรี่ยง

อีกด้านหนึ่ง สะท้อนว่า “มินอ่องหล่าย” ยังโอบอุ้ม “ชิตตู่” และสหายแก๊งกะเหรี่ยงเทา

ดังนั้น ทางการจีนจึงยืนยันในมาตรการ 3 ตัด เพราะกดดัน BGF และ DKBA จนต้องยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งคอลฯ

รู้จักมือปราบแก๊งคอลฯ

 

ในปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งเมียวดี ชื่อ หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ แดนมังกร กลายเป็นมือปราบขวัญใจคนไทย

จากข้อมูลที่เผยแพร่ในสารานุกรมออนไลน์ขึ้นชื่อว่า ไป่ตู้ไป่เคอ พบว่าหลิว จงอี้ (Liu Zhongyi) เป็นนายตำรวจ ที่มีความสามารถสูงในการปราบปรามอาชญากรรม และเป็น 1 ใน 5 บุคคล ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษต้นแบบด้านความมั่นคงสาธารณะ

หลิว จงอี้ สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยตำรวจมณฑลเฮยหลงเจียง สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี มีประสบการณ์ด้านอาชญากรรม นานถึง 32 ปี และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวน ที่สามารถปิดคดีได้มากกว่าพันคดี

ปี 2529 หลิว จงอี้ ขยับขึ้นเป็นรองผู้อำนวยการกรมสอบสวนคดีอาญาของกระทรวงความมั่นคงฯ

มือปราบหลิว ยังเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นเลขาธิการพรรคประจำกรมสอบสวนคดีอาญาฯ

12 เม.ย. 2567 จากตำแหน่งผู้อำนวยการกรมสอบสวนอาชญากรรม หลิว จงอี้ ผงาดขึ้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี

ด้วยผลงานโดดเด่นระดับบุคคลต้นแบบ ปักกิ่ง จึงส่งหลิว จงอี้ มาปฏิบัติการล้างเมืองบาปเมียวดี โดยประสานกับไทยและเมียนมา