
ยึดเมียวดี "มินอ่องหล่าย" จับจังหวะรุก "KNU" ชิตตู่บอบช้ำโดนพิษ 3 ตัด
จีนปิดจ๊อบ พม่า-กะเหรี่ยงรบกันต่อ "มินอ่องหล่าย" เปิดศึก "KNU" ชิงเมียวดี หลังไทยบีบ "ชิตตู่" อ่อนแรง
เปิดเกมรุก มินอ่องหล่าย ฉวยจังหวะยึดคืนเมียวดี หลังไทย-จีน บีบชิตตู่ BGF ทุกทิศทาง KNU โดนหางเลขพิษ 3 ตัด
แล้งนี้ ท้าพิสูจน์ยุทธการอ่องเซยะ ทหารเมียนมา จะฝ่าด่านสกัดทัพ KNU/KNLA เข้าสู่เมียวดีได้หรือไม่
หลิว จงอี้ ใกล้จบภารกิจกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ชเวก๊กโก่-เคเคพาร์ค หลังเครื่องบินสายการบิน China Southern Airlines พาคนจีน 200 คนชุดแรก ออกเดินทางจากท่ากาศยานนานาชาติแม่สอด สู่เมืองหนานจิง ประเทศจีน ตอนสายของวันที่ 20 ก.พ. 2568
“เมียวดีโมเดล” เป็นความร่วมมือของไทย-เมียนมา-จีน เริ่มจากมาตรการ 3 ตัดของฝ่ายไทย และ พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย เปิดการเจรจากับ พล.ต.ซอ ชิตตู่ ผบ.กองกำลัง BGF ขอให้ร่วมมือกวาดล้างแก๊งคอลฯ
ลำพังทางเนปิดอว์กดดัน ชิตตู่ไม่ได้หวั่นไหวนัก เพราะมีการเล่นละครบทตบจูบกันบ่อยครั้ง และจบลงด้วยการจ่ายส่วย
การที่ทางการไทยใช้ไม้แข็งต่อกองกำลัง BGF เป็นครั้งแรก ทำให้ชิตตู่ต้องทำจดหมายถึงรองนายกฯภูมิธรรม ให้ความร่วมมือแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์
อย่าลืมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ชิตตู่ ในฐานะทหารกะเหรี่ยง DKBA และ BGF ได้พึ่งพาข้าราชการไทยทุกสีทุกระดับ ยันผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ริมน้ำเมย
พม่าซ้ำดาบสอง BGF
จะว่าไปแล้ว พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ก็รอคอยเวลานี้มานานเกือบปีแล้ว นั่นคือ การสถาปนาอำนาจรัฐเมียนมาใน จ.เมียวดี
นับแต่ทหารเมียนมาชุดสุดท้าย ต้องถอนกำลังออกจากเมียวดี ปลายเดือน เม.ย.2567 และมอบอำนาจให้ พล.ต.ซอ ชิตตู่ ดูแลแทน
เมื่อปักกิ่งเอาจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในชเวก๊กโก่ และเคเคพาร์ค ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาก็ฉวยโอกาสรุกคืนทันที
15 ก.พ. 2568 รัฐบาลเมียนมา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยนายเดินทางมายังชเวก๊กโก่ ภายหลังกองกำลัง BGF ปฎิบัติการสำรวจและคัดแยกชาวต่างชาติที่ทำงานในตึกต่างๆ มารวมไว้จุดเดียวนับพันคน
เมียนมาต้องการเข้ามามีบทบาทในการส่งมอบชาวต่างชาติให้ไทย เพื่อแสดงให้เห็นว่า ยังมีอำนาจรัฐจากส่วนกลางอยู่ในเมืองเมียวดี
พร้อมกันนั้น ทางเมียนมายังได้แจ้งไปยังกองกำลัง DKBA ให้รวบรวมชาวต่างชาติ มาส่งมอบให้ตำรวจเมียนมา ห้ามส่งเหยื่อข้ามแดนโดยพลการ เหมือนชุดแรก 260 คน
จับตาอ่องเซยะภาค 2
หลังกองทัพเมียนมา เปิดยุทธการถล่มเมืองเมียวดี ทิ้งระเบิดวันเดียว 250 ลูก เมื่อ 20 เม.ย. 2567 ทหารกะเหรี่ยง KNLA และ PDF ได้ถอนกำลังออกจากเมียวดี มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาดอนะ เพื่อสกัดกองทัพเมียนมา
ย้อนไปต้นเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ร่วมกับ PDF เข้าตีฐานทหารเมียนมา ค่ายผาซอง กองพัน 275 เมืองเมียวดี และยึดฐานได้เบ็ดเสร็จ
เบื้องหลัง KNLA ยึดเมียวดีคือ พล.ต.ซอ ชิตตู่ ถอนกำลัง BGF และเปิดทางให้ฝ่ายต่อต้านเข้าโจมตีฐานทหารเมียนมา พร้อมประกาศหนุนสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) ปลดปล่อยเมียวดี
ต่อมา กองทัพเมียนมา ขู่จะส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดใส่เมืองใหม่ชเวก๊กโก่ ชิตตู่จึงเล่นบทคนกลาง เปิดการเจรจาระหว่างกองทัพเมียนมา และ พล.อ.ซอ จอนนี่ ผบ.ทหารสูงสุด KNLA ขอให้พื้นที่เมืองเมียวดี เป็นเขตปลอดการสู้รบ โดย BGF จะทำหน้าที่ดูแลความสงบแทน
เมื่อทหาร KNLA ถอนตัว กองทัพเมียนมา ได้เปิดปฏิบัติการอ่องเซยะ มีเป้าหมายยึดคืนเมียวดี จนถึงวันนี้ ทหารเมียนมาก็ยังฝ่าด่านสกัด KNLA ข้ามเทือกเขาดอนะมาไม่ได้
คาดว่า จบยุทธการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝ่ายมินอ่องหล่าย คงจะเปิดศึกรบครั้งใหญ่กับทหารกะเหรี่ยง KNLA
เนื่องจากทหาร KNLA ที่มีฐานอยู่ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และ อ.พบพระ เจอพิษ 3 ตัดไปด้วย โดยเฉพาะการตัดไฟ ตัดน้ำมัน เดือดร้อนกันไปถ้วนหน้า
แล้งนี้ ยุทธการอ่องเซยะ ยกใหม่คงจะเริ่มต้นขึ้นอีก หากไทยยังคงมาตรการ 3 ตัดไว้ต่อไป ก็เท่ากับว่าได้ช่วยทหารเมียนมาเอาชนะ KNU/KNLA ทางอ้อม