
สงครามเงา “มงคล-เกรียงไกร” ท้ารบ “ทวี” ล็อกเป้า 138 สว.สลายขั้วน้ำเงิน
25 ก.พ. 68 นับหนึ่งเชือด “138 สว.” ขั้วน้ำเงิน “มงคล-เกรียงไกร” รบ “ทวี” ผู้นำหลังม่านแตกหักซุ้มเซราะกราว
เกมอำนาจ เกรียงไกร รองประมุขสภาสูงพร้อมรบ ทวี ลุยคดีฮั้วเลือก สว. ล็อกเป้า 138 สว. สลายขั้วสีน้ำเงิน
ดีเอสไอปาดหน้า กกต. ตั้งแท่นสอบคดีบล็อกโหวต สว. โป๊ะแตกศาลสั่งฟัน 138 สว. เปลี่ยนดุลอำนาจ ซุ้มเซราะกราวหุ้นร่วง
วันหยุดสุดสัปดาห์ การเมืองนอกสภายังร้อนแรง มีความชัดเจนในเกมอำนาจ 2 ขั้ว 2 บ้าน แม้สถานการณ์เฉพาะหน้าจะบีบให้มาอยู่ในปีกอนุรักษ์ แต่การเมืองเรื่องผลประโยชน์ ที่ไม่มีใครยอมใคร ก็ถึงคราวแตกหัก
ดังนั้น ตัวละครในสงครามเงา จึงเปิดวิวาทะกัน พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง แถลงโต้สไตล์อดีตแม่ทัพภาค 4 พร้อมรบ รมว.ยุติธรรม และดีเอสไอ
ขณะที่ มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นคนพูดน้อย แต่เป็นนักปฏิบัติ จึงเปิดวอร์รูม สว.สีน้ำเงิน เตรียมพร้อมสำหรับสงครามตัวแทน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ยืนยันว่า คดีฮั้วเลือก สว.เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116(3) และ 209 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐและการกระทำลักษณะ อั้งยี่และซ่องโจร
วันอังคารที่ 25 ก.พ. 2568 จะมีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 2/2567 จำนวน 22 คน โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานบอร์ด
วาระสำคัญคือ กรณีร้องขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2)
บอร์ดคดีพิเศษ ต้องใช้เสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 หรืออย่างน้อย 15 จาก 22 เสียง เพื่อรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ
คนทั้งสังคมเฝ้าจับตา บอร์ดคดีพิเศษจะตัดสินใจอย่างไร มีเสียงลือกระหึ่ม “ผู้นำหลังม่าน” ได้โทรล้อบบี้บอร์ดคดีพิเศษ จึงเชื่อว่า จะมีเสียงเห็นชอบเพียงพอต่อการรับเป็นคดีพิเศษ
“ผู้มากบารมี” อีสานใต้ ก็พร้อมแตกหัก เป็นไงเป็นกัน การดำเนินคดีมีระยะเวลา 1-2 ปี ระหว่างนี้ สว.สีน้ำเงิน ยังมีบทบาทอยู่ในสภาสูง
“ร่าง พรบ.ใดมาจากรัฐบาล ก็ยากจะผ่าน สว. ไม่คว่ำทันที แต่จะเป็น delay tactic ยื้อเวลาให้นานที่สุด กมธ.พิจารณานานเต็มแม็ก แก้จนสภาผู้แทนรับไม่ได้ ต้องตั้ง กมธ.ร่วม..” แหล่งข่าวจากฝั่ง สว.สีน้ำเงิน กระซิบบอก
เชือด-ต่อรองย้ายค่าย
ประเด็น “สว.บล็อกโหวต” หรือ “ฮั้วเลือก สว.” ได้มีกลุ่มตัวแทนผู้สมัคร สว. และกลุ่ม สว. สำรอง ได้ยื่นต่อศาลฎีกา ขอให้กระบวนการเลือก สว.เป็นโมฆะ แต่ศาลมีคำวินิจฉัยยกคำร้อง
กลุ่มผู้สมัคร สว.ดังกล่าว ยังได้ร้องต่อ กกต.ให้สอบคดีทุจริตการเลือก สว. แต่ กกต.ก็ไม่ขยับ พวกเขาจึงเบนเข็มไปร้องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ขอให้รับเป็นคดีพิเศษ
นัยว่า ดีเอสไอ ได้ดำเนินการสืบสวนทางลับมาก่อนหน้านี้แล้ว และมีการล็อกเป้า สว.ประมาณ 138 คน และ สว.ลำดับสำรองอยู่ 2 คน
กูรูการเมืองบางคนประเมินว่า หากล้มเครือข่าย สว.สีน้ำเงินบางส่วนลงได้ ย่อมส่งผลต่อสมการการเมืองที่จะเปลี่ยนไป
เชื่อว่า หากกดดัน สว.จำนวนหนึ่ง ยอมเปลี่ยนสีเสื้อจาก “น้ำเงิน” เป็น “แดง” ก็จะทำให้หุ้นบ้านใหญ่เซราะกราวตกอย่างรุนแรง
ซุ้มเซราะกราวซุ่มตีโต้
การเลือก สว.สูตร อ.มีชัย ฤชุพันธุ์ ใครก็รู้ว่า สว.140-150 เสียง อยู๋ในอาณัติของผู้มากบารมีเซราะกราว เรียกกันว่า “สว.สีน้ำเงิน”
สว.ชุดปัจจุบัน ยังมีอำนาจมาก โดยเฉพาะเรื่องเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ใครจะยอมให้ “2 น.” เป็นเจ้าขององค์กรอิสระอยู่ฝ่ายเดียว โดยวิธีการที่โจ๋งครึ่ม
ผู้มีอำนาจหลังม่านที่สนใจผลลัพธ์สำคัญกว่าวิธีการ จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายทุบ “สว.สีน้ำเงิน” ให้กระจุยกระจาย
ไม่แปลกที่ มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 พร้อมสมาชิกวุฒิสภา จะแถลงข่าวโต้ดีเอสไอที่จะรับคดีฮั้วเลือก สว.ปี 2567 เป็นคดีพิเศษ
พร้อมจะดำเนินการแจ้งความผู้ที่กล่าวหา ทั้งภาครัฐและเอกชน ฐานทำให้วุฒิสภาเสียหาย ถูกเข้าใจผิด
ยามนี้ ขั้วผู้นำหลังม่านกำลังรุกไล่ สว.สีน้ำเงิน แต่อย่าลืมว่า ผู้มากบารมีอีกขั้วหนึ่ง เป็นเจ้าทีมลูกหนัง ถนัดเล่นเกมโต้กลับเสียด้วย