คอลัมนิสต์

พิษฮั้วเลือก สว. "ภูมิธรรม" เลื่อนรับคดี "บอร์ดดีเอสไอ" ไม่นิ่ง คนใหญ่คุม 7 เสียง

พิษฮั้วเลือก สว. "ภูมิธรรม" เลื่อนรับคดี "บอร์ดดีเอสไอ" ไม่นิ่ง คนใหญ่คุม 7 เสียง

25 ก.พ. 2568

รู้ล่วงหน้า "ภูมิธรรม" เลื่อนรับคดีพิเศษ "บอร์ดดีเอสไอ" ไม่นิ่ง ลือสนั่นมีคนตัวใหญ่ๆ ล้อบบี้สำเร็จ 7 เสียง

เลื่อนรับคดีฮั้ว สว. ภูมิธรรม รอฟัง กกต. นัดใหม่ 6 มี.ค. เบื้องลึก คนใหญ่บ้านไกล ล้อบบี้สำเร็จ 7 เสียงในมือ

รู้ล่วงหน้าก่อน 1 วัน บอร์ดดีเอสไอ ส่อเลื่อน เพราะ 15 เสียงข้างมากที่ต้องการ หายไป 7 ไม่ตามเป้า จึงเล่นเกมยื้อ

หลังถกมาราธอน 3 ชั่วโมง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้ออกมาแถลงข่าวสรุปว่า เลื่อนลงมติออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าต้องเชิญ กกต. เข้ามาชี้แจง

“ขอเวลาอีก 1 สัปดาห์เพื่อไม่ให้สังคมรู้สึกว่า เรายื้อ หรือเราไม่อยากทำ เราต้องการทำคดีโดยไม่เอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือความรู้สึกที่ดีหรือไม่ดีต่อกันมา แต่เอาตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย” ภูมิธรรม กล่าว

สำหรับการประชุมครั้งถัดไป จะเกิดขึ้นในวันที่ 6 มี.ค.2568 หลังจากฟังครบถ้วนทุกกระบวนการ จะเชิญประธานคณะกรรมการหรือผู้แทนคณะที่มีอำนาจมาเข้าร่วมประชุมด้วย โดยในวันดังกล่าวจะมีข้อยุติ

ว่ากันว่า ประเด็นบอร์ดดีเอสไอ จะเลื่อนการลงมติคดีฮั้วเลือก สว.นั้น มีรายงานเชิงลึกมาแล้วตั้งแต่ค่ำวันที่ 24 ก.พ.2568 เนื่องกรรมการคดีพิเศษ หรือบอร์ดดีเอสไอ 22 คน มีแนวโน้มฝ่ายที่สนับสนุนให้รับเป็นคดีพิเศษ จะได้ไม่ถึง 15 คน

การพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ในฐานความผิดที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติ ต้องเป็นการเสนอโดยอธิบดีดีเอสไอ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) ใช้เสียง 2 ใน 3 เท่ากับ 15 เสียงขึ้นไป

หากเสียงฝั่งที่จะไม่ให้รับเป็นคดีพิเศษ รวบรวมได้ถึง 7 เสียง โอกาสรับเป็นคดีพิเศษเท่ากับศูนย์

มีรายงานว่า ช่วงหัวค่ำ 24 ก.พ. “คนใหญ่” บ้านไกล ล้อบบี้ได้แล้ว 5 เสียง และพอถึงช่วงเช้า 25 ก.พ. ได้เพิ่มอีก 2 เสียง

ก่อนหน้านั้น มีกระแสข่าว “คนใหญ่” บ้านใกล้ ก็ล้อบบี้เหมือนกัน แต่ไม่มีใครยืนยันข่าวนี้

ทวี สอดส่อง คนชงคดีฮั้วเลือก สว. ต้องลุ้นอีกครั้ง 6 มี.ค.นี้

เช็กชื่อบอร์ดคดีพิเศษ

 

คณะกรรมการคดีพิเศษ มีทั้งหมด 22 คน แต่ที่เข้าร่วมประชุมในมีจำนวน 19 คน ซึ่งขาดกรรมการโดยตำแหน่ง 1 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คน

กรรมการที่ขาดประชุม 3 คน ประกอบด้วย  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. แต่มอบหมายให้ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม เป็นผู้แทน แต่ พล.ต.ท.สมประสงค์ ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วย

อีก 2 คนเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คือ  พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา อ้างมีกิจธุระ

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  อ้างเจ็บป่วยต้องเข้าแอดมิตโรงพยาบาล

กรรมการโดยตำแหน่ง ที่มอบผู้แทนเข้าประชุม ประกอบ 1.ปลัดกระทรวงยุติธรรม 2.ปลัดกระทรวงการคลัง 3.ปลัดกระทรวงพาณิชย์  4.อัยการสูงสุด  5. ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย  6.ผบ.ตร.(มอบผู้แทน แต่ผู้แทนไม่ได้เข้าประชุม)

กรรมการโดยตำแหน่ง มาประชุมเองเช่น ปลัดกระทรวงมหาดไทย, เจ้ากรมพระธรรมนูญ, เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และนายกสภาทนายความ 

7 เสียงไม่รับคือใคร

 

ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้วิเคราะห์ผลการลงมติรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ ตั้งแต่ค่ำวันที่ 24 ก.พ.นี้ โดยประเมินท่าทีของบอร์ดดีเอสไอกลุ่มที่จะไม่รับเป็นคดีพิเศษ ดังนี้

กลุ่มที่มีแนวโน้มไม่รับเป็นคดีพิเศษ รวม 5 เสียง ได้แก่ หัวหน้าหน่วยงานที่ปรึกษากฎหมาย, ปลัดกระทรวงที่มีรัฐมนตรีมาจากอีสานใต้ ,กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 1 คน และคนในเครื่องแบบสีกากี ยังไม่เกษียณ 1 คน เกษียณแล้ว 1 คน

ส่วนกลุ่มลังเล มี 2 เสียง ได้แก่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกอย่างน้อย 1 คน (คนมีสี) และผู้นำหน่วยงานเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย

เมื่อ 7 เสียงมีแนวโน้ม “ไม่รับ” ฉะนั้น โอกาสที่กรรมการคดีพิเศษจะลงมติรับคดี ฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ โดยหวังที่จะได้เสียงถึง 15 เสียงแทบจะเป็นศูนย์

ต้องรอดูฝีมือสหายใหญ่ ภูมิธรรม ที่บอกว่า 6 มี.ค. บอร์ดดีเอสไอ 22 คน ต้องได้ข้อยุติ แต่กูรูการเมืองเชื่อว่า เลื่อนอีกครั้ง