คอลัมนิสต์

แดง-ส้มไม่รบ “แว่นฟ้า” ยึด อบจ. ไปต่อเลือกซ่อม “อรอุมา” ฉลุยบึงกาฬบึงน้ำเงิน

แดง-ส้มไม่รบ “แว่นฟ้า” ยึด อบจ. ไปต่อเลือกซ่อม “อรอุมา” ฉลุยบึงกาฬบึงน้ำเงิน

10 มี.ค. 2568

นี่ไง..บึงกาฬบึงน้ำเงิน “แว่นฟ้า” ยึด อบจ. ไปต่อเลือกซ่อม สส. “อรอุมา” เมียนายกหม่ำฉลุย แดง-ส้มไม่พร้อม

เหตุยึด อบจ. แว่นฟ้า คว้าชัย ส่งผลเลือกซ่อม สส.บึงกาฬ อรอุมา เมียนายกหม่ำไร้คู่แข่ง แดง-ส้มไม่พร้อมรบ

 

บ้านใหญ่ทองศรี จาก อ.ประโคนชัย ใช้เวลา 12 ปี เปลี่ยนนครนาคา..บึงกาฬ จากบึงสีแดงเป็นบึงสีน้ำเงิน

 

ปลายปี 2567 ทีมประชาสัมพันธ์ จ.บึงกาฬ ได้เผยแพร่เพลง “บึงกาฬบึงใจ” ขับร้องโดย ฝน ธนสุนทร อำนวยการผลิตโดย ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย คนประโคนชัย-เขยบึงกาฬ คล้ายจะปั่นกระแสให้เป็นเพลงประจำจังหวัด

 

ต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา “คุณนาย มท.2” แว่นฟ้า ทองศรี หวานใจ รมช.ทรงศักดิ์ ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.บึงกาฬ สมัยที่ 2 มีคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งทุกคน

 

ด้วยเหตุนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทย ตามมาด้วยพรรคประชาชน ตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัคร สส. ในการเลือกตั้งซ่อม สส.บึงกาฬ เขต 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 มี.ค. 2568

 

ดังนั้น “มาดามอ้อ” อรอุมา บุญศิริ ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย จึงลงสมัครคนเดียว เหมือนจะนอนมา แต่ก็มีเงื่อนไขจะต้องได้คะแนนร้อยละ 20 ของมีผู้มีสทธิเลือกตั้ง จำนวน 107,471 คน 

มาดามอ้อ-อรอุมา เมียอดีต สส.สุวรรณา ลงแข่งคนเดียวมาดามอ้อ-อรอุมา เมียอดีต สส.สุวรรณา ลงแข่งคนเดียว

มาดามอ้อแห่งโป่งไฮ

 

ย้อนไปดูผลการเลือกตั้ง สส.บึงกาฬ เขต 2 (เซกา บึงโขงหลง บุ่งคล้า) เมื่อปี 2566 ปรากฏว่า สุวรรณา กุมภิโร ภูมิใจไทย ได้ 26,541 คะแนน ,ไตรรงค์ ติธรรม เพื่อไทย 18,713 คะแนน และสำรวย ศรีทิน ก้าวไกล 16,568 คะแนน

 

“นายกหม่ำ” สุวรรณา กุมภิโร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลโป่งไฮ อ.เซกา ถูกวางตัวให้ลงสมัคร สส.เขต 2 มาแต่ปี 2565 และด้วยความเป็นบ้านใหญ่ท้องถิ่น จึงโค่น ไตรรงค์ ติธรรม อดีต สส.บึงกาฬ 3 สมัย ที่พึ่งพากระแสพรรคเป็นหลัก

 

ดูผลคะแนนเลือกตั้ง สส.บึงกาฬ ข้างต้น จะพบว่า “นายกหม่ำ” มีคะแนนเหนือกว่าอดีต สส.ไตรรงค์ เท่าตัว ซึ่งเป็นภาพสะท้อนว่า กระแสเสื้อแดงอ่อนแรง มนต์พ่อใหญ่ทักษิณไม่ขลัง

 

หลังศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ สุวรรณา กุมภิโร สส.บึงกาฬ เขต 2 เป็นเวลา 10 ปี ค่ายสีน้ำเงินก็เตรียมการส่ง “เมียนายกหม่ำ” ลงสนามแทน

 

สาเหตุที่ “นายกหม่ำ” ตกสวรรค์ มาจาก กกต.พบว่า มีการสนับสนุนให้รถแห่หาเสียงไปช่วยงานวัดแห่งหนึ่ง เข้าข่ายการจัดแสดงมหรสพ ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

 

“มาดามอ้อ” อรอุมา บุญศิริ ภรรยานายกหม่ำ ก็ช่วยสามีทำงานการเมืองมาตั้งแต่เป็นนายกเทศมนตรีโป่งไฮ จึงมีความพร้อมในเวทีเลือกตั้ง สส.

 

โดยส่วนตัว “มาดามอ้อ” เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในนามบริษัท ดินทอง เรียลเอสเตท จำกัด ซื้อบ้านมารีโนเวทขายแถวชานกรุงเทพฯ และปทุมธานี

ได้เวลาบ้านใหญ่ทองศรี

 

ปี 2551 เนวิน ชิดชอบ แยกตัวออกจากค่ายนายใหญ่ มาตั้งพรรคภูมิใจไทย จึงมอบให้ “เสี่ยป้อม” ทรงศักดิ์ ทองศรี มาสร้างฐานที่มั่นการเมืองใหม่ที่ จ.บึงกาฬ

 

ต้นปี 2554 เสี่ยป้อมได้มาบัญชาการสร้างศูนย์อบรมพัฒนาบุคลากรทางการเมือง ในรีสอร์ตของภรรยา แว่นฟ้า ทองศรี ที่ อ.เมืองบึงกาฬ

 

เวลานั้น เสี่ยป้อม สวมหัวโขน รมช.คมนาคม จัดอีเวนท์เปิดตัว “แว่นฟ้า” ทั้งจัดมวยชิงแชมป์โลก ,ฟรีคอนเสิร์ตลูกทุ่ง และจำหน่ายสินค้าโอท็อป

 

ยกแรกของเสี่ยป้อม พบกับความพ่ายแพ้ตามคาด แว่นฟ้า ลงสมัคร สส.บึงกาฬ เขต 1 ไม่สามารถฝ่าคลื่นคนเสื้อแดงเข้าสภาฯ ได้

 

ยกที่สองปี 2562 เสี่ยป้อมหนุนมาดามแว่นฟ้า ลงสนามทำศึกล้างตา แต่ก็พ่ายค่ายสีแดงอีกรอบ

 

ยกที่สามปี 2563 ค่ายสีน้ำเงินประสบผลสำเร็จ เมื่อ แว่นฟ้า ทองศรี ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.บึงกาฬ โดยเอาชนะแชมป์เก่า นิพนธ์ คนขยัน สายตรงพินิจ จารุสมบัติ

 

ก่อนการเลือกตั้ง สส.บึงกาฬ ปี 2566 เสี่ยป้อมตั้งเป้ายึด สส.บึงกาฬ 2 ที่นั่ง จาก 3 ที่นั่ง และค่ายสีน้ำเงินได้ สส.ตามเป้าหมายคือ เขต 1 สยาม เพ็งทอง และเขต 2 “นายกหม่ำ” สุวรรณา กุมภิโร

 

อนึ่ง สส.สยาม เพ็งทอง ทายาทเจ้าของร้านทองในเมืองบึงกาฬ และเป็นลูกเขยคนโปรดของเสี่ยป้อมและคุณนายแว่นฟ้า

ทรงศักดิ์ ทองศรี เขยบึงกาฬทรงศักดิ์ ทองศรี เขยบึงกาฬ