
ย้อนรอยบางบอน “ไอซ์ รักชนก” พบ “ชูวิทย์” ขอบทเรียนเรือนจำ เผื่อวันข้างหน้า
ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน “ไอซ์ รักชนก” พบ “ชูวิทย์” ย้อนวันวานที่บางบอน วันนี้ ไอซ์ทำใจอาจใช้ชีวิตในเรือนจำ
ตัวจี๊ดค่ายส้ม ไอซ์ รักชนก พบจอมแฉ ชูวิทย์ ย้อนวันวานกลางสมรภูมิบางบอน วันนี้ไอซ์ขอบทเรียนใช้ชีวิตในเรือนจำ
ความหวังส้มรุ่น 4 ไอซ์ รักชนก ขวัญใจผู้ใช้แรงงาน ทุบประกันสังคม ทั้งสูตรบำนาญชราภาพ ยันซื้อตึกแพง มีเงื่อนงำ
กระแสสีส้มดีดขึ้นสวนทางกระแสสีแดงที่ร่วงกราว จากกรณีตรวจสอบกองทุนประกันสังคม ชั่วโมงนี้ “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน มีผลงานที่จับต้องได้ และถูกยกย่องชมเชยจากทุกขั้วสี
ล่าสุด เมื่อ 14 มี.ค. 2568 ไอซ์ รักชนก ได้ย้อนวันวานกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผ่านรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ
จริงๆ แล้ว ชูวิทย์ มาออกรายการของเพื่อนเก่า-สรยุทธ์ เพื่อพูดคุยเรื่องการใช้ชีวิตในเรือนจำ แต่พิธีกรได้นัดหมายให้ ไอซ์ รักชนก วิดีโอคอลมาขอบคุณชูวิทย์ เมื่อครั้งที่ไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งปี 2566
“เป็นแค่การปั่นจักรยานไปเจอเขา เขาเป็นรุ่นน้องที่ธรรมศาสตร์ ก็สนับสนุนเขา ให้กำลังใจ แต่ก็มองแล้วเห็นว่าเขาเข้าหาประชาชน ยังไม่เชื่อเลยว่าอายุยังไม่ถึง 30 ตอนนั้น..” ชูวิทย์ เล่า
ไอซ์ รักชนก ได้ขอบคุณจากหัวใจถึงชูวิทย์ ที่ไปช่วยในวันนั้น แม้จะขี่จักรยานมาไกลมาก พร้อมกับเปรยว่า ชูวิทย์อาจจะฝากความหวังไว้กับเธอไม่ได้นาน เพราะมีคดีเหมือนกัน
“...ได้ฟังชีวิตในเรือนจำ เพราะก็ต้องเตรียมตัว เผื่อวันหนึ่งต้องเข้าไปติดคุก” ไอซ์ ยอมรับตรงๆ เพราะเธอยังมีคดี 112 ติดตัวอยู่
ชูวิทย์ พูดให้กำลังใจไอซ์ รักชนก ว่าเวลาต่อสู้คดีต้องตั้งจิตให้มั่น ตนป่วย มีคดีเยอะแยะ แต่ก็คิดว่าเราต่อสู้ด้วยความยุติธรรม เวลาจะติดก็ต้องติด แต่เราต่อสู้ด้วยจิตใจที่ไม่มีใครก้าวล่วงได้
มดส้มล้มบ้านใหญ่
ย้อนวันวาน ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง สส.กทม.ปี 2566 ในสังเวียนเขต 28 (เขตบางบอน พ่วงแขวงหนองแขม) แชมป์เก่าคือ วัน อยู่บำรุง พรรคเพื่อไทย ตัวแทนบ้านริมคลอง หลังวัดบางบอน
ระหว่างการหาเสียงไปได้สักพัก ปรากฏว่า สาวเสื้อสีส้ม ไอซ์-รักชนก ศรีนอก หาเสียงด้วยการขี่จักรยานไปทุกตรอกซอกซอย มีเสียงตอบรับดีมาก
เช้ามืดวันที่ 9 พ.ค. 2568 ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ทำกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชาเสรี โดยการปั่นจักรยาน ย่านบางบอน 5 จึงได้พบกับไอซ์ รักชนก ศรีนอก ผู้สมัคร สส.กทม.) พรรคก้าวไกล เขตบางบอน เบอร์ 4
ชูวิทย์เข้ามาทักทายไอซ์ พร้อมกับกล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่หลายคนอาจจะรู้ว่าใครเป็นยักษ์ดั้งเดิม แต่ครั้งนี้การเมืองต้องเปลี่ยน ต้องใช้คนรุ่นใหม่ ให้โอกาสให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
“ผมว่าเป็นม้าตัวเดียวด้วยซ้ำ สำหรับเขตนี้ ถล่มไปให้เรียบ เพราะเป็นเวลาของการเปลี่ยนแปลงและสิ่งใหม่ๆแล้ว” ชูวิทย์ กล่าว
การที่มีคนมีแสงอย่างชูวิทย์ ไปพบไอซ์ ท่ามกลางกองทัพนักข่าว ยิ่งให้ชื่อของเธอ มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นมากมาย และกลายเป็นเต็งหนึ่งทันที
ทำใจไว้ล่วงหน้า
ข่าวชูวิทย์พบไอซ์กลางสมรภูมิเลือกตั้ง กลายเป็นกระแส ต่อมา สื่อไทยและสื่อเทศ ให้ความสนใจติดตามทำข่าวการหาเสียงของเธออย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าววีโอเอไทย (สำนักข่าวสารอเมริกัน) ได้ส่งทีมนักข่าวติดตาม ไอซ์ รักชนก ลงพื้นที่หาเสียง รวมถึงสำนักข่าวบีบีซี ส่งนักข่าวดังอย่าง Jonathan Head ไปสัมภาษณ์ไอซ์ รักชนก
ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน ไอซ์ รักชนก พูดผ่านรายการกรรมกรคุยข่าวนอกจอว่า ตอนนี้มีคดีรอการตัดสินในคดี 112 โทษ 6 ปี ถ้าสถานการณ์การเมืองเป็นแบบนี้ก็คงไม่แคล้ว
“ตอนนี้ยังมีเวลาในฐานะ สส.ก็จะใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า เผื่อเวลาวันหนึ่งไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ คนจะได้คิดถึงเราว่ายังเคยมีผู้แทนที่เลือกมาแล้วภาคภูมิใจ...”
อนึ่ง เมื่อ 11 ธ.ค. 2567 ศาลอาญา พิพากษาจำคุก รักชนก ศรีนอกจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 2 กระทง กระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา ซึ่งศาลอาญา อนุญาตให้ประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์