
พลังเก่ามีชัย "แพทองธาร" แดง-ส้มคู่ขนาน "ณัฐพงษ์" ข้ามช็อตสู่สงคราม 2 ก๊ก
สงคราม 2 ก๊ก "แพทองธาร" พลังเก่ามีชัย แดง-ส้มคู่ขนาน "ณัฐพงษ์" อ่านเกมข้ามช็อต สู่แลนด์สไลด์สมัยหน้า
จบศึกซักฟอก แพทองธาร ถามกลางสภาฯ ณัฐพงษ์ เลือกตั้งสมัยหน้า ส้มจะจับมือใคร ปิยบุตร-ธนาธร ฟันธง พท.คือพลังเก่า
มองข้ามช็อต ณัฐพงษ์ เปิดศึกซักฟอกเดี่ยว แพทองธาร ตั้งธงแยกส้มออกจากแดง หวังผลแลนด์สไลด์สมัยหน้า
ปิดฉากไปแล้ว ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 25 มี.ค. 2568 ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้กล่าวสรุปญัตติดีลแลกประเทศ พร้อมยกเหตุผลที่ไว้วางไม่ได้ด้วยวลี 3 หนี
“..ท่านมี 3 หนี คือ หนีความจริง หนีภาษี และหนีหน้าที่ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้ผมไม่สามารถไว้วางใจนายกรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่งได้อีกต่อไป”
ก่อนหน้าที่ “หัวหน้าเท้ง” จะลุกขึ้นมาสรุปญัตติ นายกฯแพทอง ได้ขอใช้สิทธิพาดพิง และตอนหนึ่งได้พูดถึงพรรคประชาชนว่า
“...เพื่อความชัดเจน และสร้างการเมืองแบบใหม่ ท่านก็ควรประกาศให้ชัดไปเลยว่า จะร่วมหรือไม่ ร่วมกับใคร พูดให้ชัดตั้งแต่วันนี้ ประชาชนก็จะได้เกิดความสบายใจ”
ปรากฏว่า “หัวหน้าเท้ง” ไม่ได้ตอบคำถามนี้ แต่ใกล้เที่ยงคืน “อาจารย์ป๊อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นอนไม่หลับ ลุกขึ้นมาโพสต์เฟซบุ๊ค แล้วสรุปว่า
“บทสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอด 2 วันที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้ประกาศกลางสภา ต่อหน้าสาธารณชน ต่อประชาชนว่า พรรคเพื่อไทยปวารณาตนเป็นตัวแทนของ พลังเก่า พร้อมอาสาเป็นกลไกเหนี่ยวรั้งความก้าวหน้าของสังคม..”
มิหนำซ้ำ “หัวหน้าเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้แชร์โพสต์ของปิยบุตร พร้อมข้อความ “Candle in the wind. สติท่ามกลางความปั่นป่วนของข้อมูล”
ขบวนการ IO รัฐพันลึก
อย่างที่พรรคประชาชน ประกาศมาแต่แรกว่า ศึกซักฟอกหนนี้คือ ดีลแลกประเทศ ดีลพาทักษิณกลับบ้าน แลกกับการจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐาและรัฐบาลแพทองธาร
แกนนำพรรคประชาชน ต้องการใช้เวทีซักฟอก ขีดเส้นแบ่งการเมืองไทยออกเป็น “2 ก๊ก” คือ ก๊กประชาชน กับก๊กพลังเก่า ประกอบด้วยเพื่อไทย ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์
หัวหน้าเท้ง และพลพรรคสีส้ม ที่ลุกขึ้นมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 วัน ต่างพยายามชี้เป้าไปที่พรรคเพื่อไทย “...ท่านได้ไปร่วมขบวนการกับพวกเขาแล้ว และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้”
คำพูดที่ว่า “ท่านได้ไปร่วมขบวนการกับพวกเขาแล้ว” ของหัวหน้าเท้ง มีการขยายความไปแล้วตลอด 2 วัน
ที่เป็นหมัดเด็ดของพรรคประชาชน กลับไม่ใช่เรื่องชั้น 14 และการเลี่ยงภาษี แต่เป็นการอภิปรายของ ชยพล สท้อนดี สส.กทม.ที่เป็นการเปิดข้อมูลขบวนการ IO ของกองทัพ
เกมอำนาจบนเส้นขนาน
นับแต่มีการจัดตั้งรัฐบาลผสม “ดีลข้ามขั้ว” แกนนำพรรคเพื่อไทย ต่างทราบดีว่า นี่คือ สถานการณ์พิเศษ
เชื่อว่า วันที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปพูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง เมื่อกลางปี 2566 คงได้เปิดอกพูดคุยกันเรื่องดีลข้ามขั้ว
ด้วยเหตุนี้ ธนาธรจึงต้องน้ำตาคลอ กลางหน้าจอออนไลน์ เมื่อเปิดใจเรื่องเบื้องหลังดีลล้มดีลล่ม รัฐบาลในฝัน “แดง-ส้ม” ไม่เป็นจริง
ความคับแค้นใจครั้งนั้น จึงเป็นที่มาของดีลแลกประเทศ การซักฟอกที่มีการเลือกตั้ง สส.ปี 2570 เป็นเดิมพัน
นายกฯ แพทองธาร ก็รู้ดีว่า ใครอยู่เบื้องหลังวาทกรรมดีลแลกประเทศ จึงพูดกลางสภาฯตอนหนึ่งว่า “..ดิฉันถูกกล่าวหาถูกครอบงำโดยคุณพ่อ แต่ของท่านถูกครอบงำโดยคนที่ไม่ใช่พ่อ ก็มีความต่างกัน”
เหมือนสำนวนไทยที่ว่า “ไก่ก็เห็นตีนงู งูก็เห็นนมไก่” ลูกสาวทักษิณ จึงชี้ไปที่พรรคประชาชนว่า “ท่านถูกครอบงำโดยคนที่ไม่ใช่พ่อ”
นับจากวันนี้ไป จนถึงเลือกตั้งครั้งหน้า ความสัมพันธ์ของ พรรคเพื่อไทย-พรรคประชาชน ก็ไม่ต่างจากชื่อนวนิยายดังเรื่องประชาธิปไตยบนเส้นขนาน