คอลัมนิสต์

โจทย์ยาก "แพทองธาร" ฝ่าด่านรัฐซ้อนรัฐ "ปรับ ครม." เขย่าขวัญก๊วนเซราะกราว

โจทย์ยาก "แพทองธาร" ฝ่าด่านรัฐซ้อนรัฐ "ปรับ ครม." เขย่าขวัญก๊วนเซราะกราว

16 เม.ย. 2568

โจทย์ยากเจนวาย "แพทองธาร" ไฟต์บังคับ "ปรับ ครม." เขย่าก๊วนเซราะกราวก็ไม่ง่าย เพราะปัญหารัฐซ้อนรัฐ

สิ้นสงกรานต์ แพทองธาร กลับสู่โจทย์ยาก สู้กำแพงภาษีทรัมป์ ฝ่าด่านเกรียนเซราะกราวเขย่า กม.คอมเพล็กซ์

 

ผู้นำเจนวาย ยากจะเลี่ยงไฟต์บังคับปรับ ครม. ลบจุดอ่อนผลงานด้านเศรษฐกิจ แม้หัวจะปวดอีกครั้งคงต้องโชว์ภาวะผู้นำ

ผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ สาดน้ำสาดแป้งกันชุ่มฉ่ำ ก็กลับสู่โลกความจริง เช่นเดียวกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุด ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับการเมืองเรื่องพรรคร่วมรัฐบาลที่มีบางพรรคชอบทำตัวเป็น “เกรียนเซราะกราว”

วันที่ 16 เม.ย. 2568 จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 114 คน เป็นผู้นำที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปีที่สร้างการเปลี่ยนแปลง โดย The Forum of Young Global Leaders (YGL) ประจำปี 2025 เครือข่ายที่ผู้บริหารระดับสูงทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชนชั้นนำ และประชาสังคมทั่วโลกร่วมกันให้คะแนน

นับว่าเป็นข่าวดีรับปีใหม่ไทยของนายกฯแพทองธาร หลังพาครอบครัวไปฉลองสงกรานต์ที่เชียงใหม่ ร่วมกับบิดา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

มาถึงชั่วโมงนี้ รัฐบาลแพทองธารบริหารประเทศกว่า 7 เดือนแล้ว ภายใต้แรงกดดันและความคาดหวังจากประชาชน

เฉพาะหน้านี้ ผู้นำหญิงเจนวาย ต้องโชว์ฝีมือกู้วิกฤต “กำแพงภาษีสหรัฐ” หรือภาษีทรัมป์ ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับมาตรการในการขึ้นภาษีสินค้าของไทยที่ส่งไปขายในสหรัฐอเมริกา ในอัตราร้อยละ 36

อีกเรื่องที่นายกฯแพทองธาร ประกาศ “ถอย” แต่ไม่ “ถอน” คือร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยพรรคเพื่อไทย จะใช้เวลาช่วง 3 เดือน กว่าสภาผู้แทนราษฎร จะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 3 ก.ค.นี้ เคลียร์ปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนจะร่วมกันเดินหน้าต่อไป

จะว่าไปแล้ว ปัญหาภาษีทรัมป์ไม่น่าห่วงเท่ากับเรื่องการเมืองในประเทศ เพราะรัฐบาลแพทองธาร เป็นรัฐบาลผสมที่มีปัจจัยแทรกซ้อนจากสิ่งที่เรียกว่า “รัฐซ้อนรัฐ” 

จับตาหลังสงกรานต์ นายกฯแพทองธาร และอดีตนายกฯทักษิณ ปรับ ครม.

ปรับ ครม.กู้เศรษฐกิจ


เมื่อไม่นานมานี้ ทักษิณ ชินวัตร ที่เรียกตัวเองว่า ส.ท.ร. ได้เสนอให้ปรับยุทธศาสตร์ด้านนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น หลังจากนโยบายเรือธงดิจิตอลวอลเลต เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจไม่ตรงปก

มีรายงานว่า รัฐบาลแพทองธารกำลังตั้งทีมด้านเศรษฐกิจ เพื่อทำนโยบายและแนวทาง ในการแก้หนี้ภาคประชาชน เพื่อเป็นเรือธงใหม่

ด้านหนึ่ง ได้มีกระแสข่าวปรับ ครม. ที่คาดว่าจะมีขึ้นหลังสงกรานต์ โดยมีชื่อของ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และ พิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ตกเป็นเป้าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ที่จะถูกปรับออกตามที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในกลุ่ม สส.เพื่อไทย

อีกกระแสหนึ่ง มีข่าวว่า “นายใหญ่” ต้องการเขย่าพรรคร่วมรัฐบาล ถึงขั้นขอสับเปลี่ยนกระทรวง ล้างไพ่กันใหม่ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ง่าย

อย่างไรก็ตาม นับจากนี้ไป จะมีข่าวลือเรื่องปรับ ครม.ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ มีทั้งโยนหินถามทาง และส่งสัญญาณขู่ก๊วนเกรียนเซราะกราว อย่าเหิมเกริมท้าทายพรรคแกนนำมากเกินไป

ก๊วนน้ำเงินเขย่าไม่เลิก


มีข้อสังเกตในช่วงสงกรานต์ สส.รุ่นใหญ่ค่ายสีแดง ต่างดาหน้าออกมาชี้เรื่อง กม.คอมเพล็กซ์ว่า มีกาสิโนอยู่ 10% และตำหนิฝ่ายต่อต้านขยายผลจนเกินจริง

เช่นเดียวกับ สรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่บอกว่า ต้องเดินหน้าทำความเข้าใจทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงการเดินหน้าเจรจากับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในเรื่องนี้

ขณะที่ปีก “สว.สีน้ำเงิน” ยังเดินการประชุม กมธ.ศึกษากฎหมายเอนเทอร์เทนเมนต์ฯ นัดแรก ในวันที่ 23 เม.ย. 2568 ซึ่งมีวาระเลือกประธาน และรองประธาน กมธ.

ว่ากันว่า ที่ประชุมเตรียมเสนอชื่อ ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นั่งประธาน กมธ.ในสัดส่วน กมธ.คนนอก

“อธิบดีไชยวัฒน์” ถือเป็นสายตรงครูใหญ่บุรีรัมย์ จึงเสียงวิจารณ์ว่ากมธ.ศึกษาเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ชุดนี้คือ เกมต่อรองระหว่างค่ายสีน้ำเงินและค่ายสีแดง