
เจนใหม่ "ไชยชนก" เล่นเกมแรงป่วน "สีน้ำเงิน" บ้านใหญ่ภูธร อึดอัดก๊วนลูกเทพ
ไฟซ่อนเชื้อ "ไชยชนก" เจนใหม่มีของสีน้ำเงิน "ภราดร-กรวีร์" เดินเกมแรงสร้างแบรนด์ บ้านใหญ่ภูธร อึดอัดก๊วนลูกเทพ
ส่องวงใน ไชยชนก เจนใหม่ค่ายน้ำเงิน ภราดร-กรวีร์ เดินเกมแรงสร้างแบรนด์ แต่บ้านใหญ่รุ่นเก่า อึดอัดวีรกรรมก๊วนลูกเทพ
สงครามเย็นค่าย ภท. ช่องว่างเจนใหม่-มีของ กับบ้านใหญ่ภูธร เหมือนขยะซุกใต้พรมสีน้ำเงิน รอวันปะทุหลังยุบสภาฯ
ทุกครั้งที่มีการวิเคราะห์ข่าวความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล กรณีพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย กรณี ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภาฯ “ไม่เอากาสิโน” จะเป็นตัวอย่างของจุดแตกหักของสองพรรคดังกล่าว
แม้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคจะออกมาชี้แจงว่า เป็นการพูดผิดคิว ไม่ใช่มติของพรรคภูมิใจไทย แต่คนส่วนใหญ่ก็เชื่อว่า สิ่งที่ลูกชายคนโตของเนวิน ชิดชอบ พูดในสภาฯ ก็คือจุดยืนของพรรค
ล่าสุด สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล บิดาของ ภราดร ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง และกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้งว่า ต้องการผู้นำประเทศ ไม่ใช่แค่เป็นสัญลักษณ์ ต้องการมืออาชีพที่ปกครองได้ บริหารเป็น ปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า“ความมืดมนอนธการ ช่างน่ากลัวยิ่งนัก”
ความเคลื่อนไหวของไชยชนก และบิดาของภราดร-กรวีร์ ที่ทำตัวเป็น“ฝ่ายค้าน” ในรัฐบาล ได้สร้างความอึดอึดให้กับ สส.พรรคภูมิใจไทยจำนวนหนึ่ง
อย่าลืมว่า ภูมิใจไทยกำเนิดมาจากการรวมตัวของ “บ้านใหญ่” นักการเมืองรุ่นเก่า ที่ต้องการเป็น “ฝ่ายรัฐบาล” มากกว่าฝ่ายค้าน
“บ้านใหญ่ภูธร” (ระดับจังหวัด) ไม่สนใจเรื่องการสร้างแบรนด์ สลัดภาพพรรคบ้านใหญ่แบบเก่า สู่พรรคคนรุ่นใหม่ หรือ “เจนใหม่ มีของ”
นับแต่ครูใหญ่เนวิน ดันเลือดใหม่หรือทายาทบ้านใหญ่ ขึ้นมาเป็นกรรมการบริหารพรรค ได้ทำให้เกิดช่องว่างทางความคิด ระหว่างกลุ่มผู้นำเจนใหม่ กับกลุ่ม สส.บ้านใหญ่ภูธร (ระดับจังหวัด)
วลี “ก๊วนลูกเทพ” จึงหลุดออกจากปากของ สส.บางกลุ่มอยู่บ่อยครั้ง พร้อมแสดงท่าทีไม่พอใจพฤติกรรมของเจนใหม่ค่ายสีน้ำเงิน
เจนใหม่หรือลูกเทพ
อย่างที่รู้กัน “นก” ไชยชนก ชิดชอบ ใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษ 17 ปี จึงมีวิธีคิดแบบเจนวาย เป็นตัวของตัวเอง มีความเป็นตัวตนสูง
ไชยชนก ก็คิดคล้ายกับสองพี่น้องภราดร-กรวีร์ ไม่ค่อยชอบคำว่านักการเมืองบ้านใหญ่ เพราะฟังดูเหมือนนักการเมืองประเภทเจ้าพ่อเจ้าแม่
ดังนั้น ไชยชนก พลิกเกมปั้นคำว่า “บ้านใหญ่ มีของ” หมายถึงสายเลือดทางการเมือง และเป็นคนที่มีผลงานมีความรู้ความสามารถ
คณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยชุดใหม่ 16 คน ไชยชนกมีส่วนเลือกตัวบุคคลร่วมกับผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน
จริงๆ แล้ว กลุ่มเจนใหม่ที่ใกล้ชิดกับ นก-ไชยชนก ก็มีเพียง ภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีต สส.ศรีสะเกษ
นัยว่า ครูใหญ่เนวิน มีแผนจะปั้นเจนใหม่กลุ่มนี้ เป็นผู้นำพรรคสีน้ำเงิน ในอนาคต ซึ่งจะเป็นพรรคที่มีทั้ง “กระแส” และฐานการเมืองบ้านใหญ่
บทเรียนนิวบลัด ชทพ.
แนวคิด “เจนใหม่ บ้านใหญ่ มีของ” เพื่อการเปลี่ยนแปลงในพรรคภูมิใจไทย ทำให้หลายคนนึกถึงโมเดลนิวบลัด พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) เมื่อปี 2561
สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ,ภราดร ปริศนานันทกุล และกรวีร์ ปริศนานันทกุล ในเวลานั้น ยังสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา
ทั้งสามคนได้พูดคุยกับ วราวุธ ศิลปอาชา จึงทำให้เกิดแนวคิดนิวบลัดหรือเลือดใหม่ เปลี่ยนผ่านจากพรรคบ้านใหญ่ เป็นพรรคคนรุ่นใหม่
ต่อมา แผนปฏิรูปพรรคของกลุ่มนิวบลัด ถูกผู้อาวุโสบางกลุ่มเบรก ส่งผลให้ สิริพงศ์ และภราดร-กรวีร์ ลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย
บทเรียนจากชาติไทยพัฒนา สู่ภูมิใจไทย พ.ศ.นี้ หากครูใหญ่เนวินยังเชื่อใจก๊วนลูกเทพ เลือกเล่นเกมแรง ไม่สนใจพรรคแกนนำและอาจถูกเขี่ยไปเป็นพรรคฝ่ายค้าน
วงในสีน้ำเงินคาดว่า หลังยุบสภาฯ สส.บ้านใหญ่ภูธรกลุ่มหนึ่ง จะเผ่นหนีไปอยู่บ้านหลังใหม่อย่างแน่นอน