คอลัมนิสต์

แลกกระทรวง "ทักษิณ" ส่งสัญญาณกอดคอ "อนุทิน" จับตางูเห่าเลื้อยหนีบ้านป่า

แลกกระทรวง "ทักษิณ" ส่งสัญญาณกอดคอ "อนุทิน" จับตางูเห่าเลื้อยหนีบ้านป่า

27 เม.ย. 2568

สัญญาณเชียงใหม่ชัด "ทักษิณ" ชงปรับใหญ่ ไม่พึ่ง "ประวิตร" จำใจกอดคอ "อนุทิน" โฟกัสเจรจาแลกกระทรวงน้ำเงิน-แดง

สัญญาณชัด ทักษิณ เสนอปรับใหญ่ ไม่พึ่ง ประวิตร จำใจกอดคออนุทิน ครม.แพทองธาร 2 ยังไม่ถึงขั้นพลิกขั้ว

 

นิติสงครามไล่ล่า ทักษิณ เดินหมากการเมืองไม่เต็มไม้เต็มมือ ทั้งประคองอำนาจ ทั้งเร่งสร้างผลงาน ยึดกุมฐานเสียง

ไม่ผิดหวังสำหรับการเดินทางไปเชียงใหม่รอบนี้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทุกประเด็น โดยเฉพาะเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)

จับสังเกตได้ว่า อดีตนายกฯทักษิณ ตอบคำถามเรื่องปรับ ครม.แบบระมัดระวัง ไม่เผลอหลุดบางวลีให้สื่อนำไปตีความ

สรุปแนวคิด “นายใหญ่” ในกรณีปรับ ครม.แพทองธารนั้น อยากให้ปรับทีเดียวพร้อมกันทุกพรรค ไม่เฉพาะพรรคเพื่อไทย กรณีพรรคภูมิใจไทย ก็บอกชัดไม่มีแนวคิดจะขับพรรคไหนไปเป็นฝ่ายค้าน

ขณะเดียว เพื่อไทยก็ไม่ต้องการงูเห่า (หมายถึง สส.พลังประชารัฐ) เพราะพรรคร่วมรัฐบาล มีเสียงสนับสนุนเยอะอยู่แล้ว

สส.เพื่อไทยบางกลุ่ม อาจจะหงุดหงิดกับท่าทีของ “นายใหญ่” ที่ไม่โชว์ความเด็ดขาดเขี่ยภูมิใจไทยทิ้งไปเลย

ต่างจากแกนนำอาวุโสค่ายสีแดง ที่เข้าใจที่มาของ “รัฐบาลข้ามขั้ว” และดีลพิเศษ ก็ยอมรับสภาพพรรคอันดับ 2 มีเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ

เหนืออื่นใด ฝ่ายปรปักษ์ขวาจัดยังเดินเกมนิติสงคราม อย่างวันที่ 30 เม.ย. 2568 กลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ ตีปีกรอฟังข่าวดี

เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัด ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ฟังคำสั่งในคำร้องที่ชาญชัย ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ทักษิณ ชินวัตร เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล

ผลแห่งคดีนี้ จะออกหัวออกก้อย คงต้องลุ้นกันในวันนั้น บรรดานักกฎหมายก็ตีความเรื่องนี้ต่างกัน

ทักษิณ พร้อมหน้าแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่เชียงใหม่

สัญญาณแลกกระทรวง


“ไหนๆ จะปรับ ก็ต้องปรับทีเดียว” ความเห็นของอดีตนายกฯ ทักษิณ เมื่อนักข่าวถามว่า มีข่าวจะปรับ ครม.เฉพาะส่วนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

ฟังนายใหญ่พูดแบบนี้ ก็หมายความว่า ปรับ ครม.หนนี้ จะมีการปรับใหญ่ ปรับกันในทุกพรรคร่วม

ส่วนประเด็นที่ทักษิณพูดว่า “ไม่เคยคิดว่าจะให้ใครออกไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีความคิดตรงนั้น” แต่คนเพื่อไทย ก็คิดขอแลกกระทรวงกับพรรคภูมิใจไทย

การปรับแบบใหญ่ตามแนวคิดนายใหญ่ อาจขอเขย่าเก้าอี้แต่ละกระทรวงกันใหม่ โดยเฉพาะกระทรวงสำคัญๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย ซึ่งต้องเจรจากันหนัก

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และเนวิน ชิดชอบ คงไม่ปล่อยมหาดไทยง่ายๆ เนื่องจากเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการเลือกตั้งครั้งหน้า

เว้นเสียแต่แกนนำค่ายสีแดง จะนำกระทรวงที่อยู่ในเกรดเดียวกันมาแลกกับค่ายสีน้ำเงิน อาทิคมนาคม เกษตรฯ สาธารณสุข และยุติธรรม

ว่ากันตามจริง เพื่อไทยควรได้เก้าอี้รัฐมนตรีมหาดไทยมาแต่แรก เพียงแต่รัฐบาลเศรษฐาและรัฐบาลแพทองธาร เป็นรัฐบาลพิเศษ ภูมิใจไทยจึงได้กระทรวงนี้ไป

เหมือนสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ กลุ่มเพื่อนเนวิน มีแค่ 40 เสียง ยังได้คุมมหาดไทย คมนาคม และพาณิชย์ เนื่องจากเป็นรัฐบาลพิเศษ ที่มีการเจรจาจัดตั้งในค่ายทหาร

บ้านป่าไร้งูเห่าจริงหรือ


ประเด็นงูเห่าพรรคพลังประชารัฐ ฟังจากปากอดีตนายกฯทักษิณ “ผมไม่ทราบ ไม่ได้คุยเรื่องงูเห่าเลย ซึ่งก็คงไม่มีความจำเป็นอะไร เสียงรัฐบาลก็เยอะแยะ”

วันที่ 27 เม.ย. 2568 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ซึ่งมีการปรับสัญลักษณ์พรรคใหม่ เพื่อให้สมเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัย

ก่อนเดินทางกลับนักข่าวถาม ลุงป้อมจะเข้าร่วมรัฐบาลมั้ย ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า “ไม่ร่วม”

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ลูกพรรค(สส.พลังประชารัฐ) ยังอยู่ครบ ไม่มีใครหายไปไหน

อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า ซุ้มมะขามหวานของสันติ พร้อมพัฒน์ ได้มีการเจรจากับค่ายครูใหญ่บุรีรัมย์แล้ว รอยุบสภาก่อนจึงจะขยับ

กูรูการเมืองหลายสำนักฟันธงว่า สส.19 เสียงค่าย พปชร. หากยุบสภาน่าจะเหลืออยู่กับลุงป้อมไม่ถึง 5 คน