สังคมเข้มแข็ง

GISTDA ใช้ดาวเทียมสำรวจ 'คาร์บอนเครดิต' ทดแทนแรงงานคน

GISTDA ใช้ดาวเทียมสำรวจ 'คาร์บอนเครดิต' ทดแทนแรงงานคน

23 ก.พ. 2566

GISTDA ใช้ดาวเทียมสำรวจ 'คาร์บอนเครดิต' ในป่า พื้นที่เกษตร ทดแทนแรงงานคนเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน ผลักดันไทยบรรลุเป้าปี 2050 ลดการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ ให้เป็นศูนย์

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. และหน่วยงานความร่วมมือระดับนานาชาติ จัดสัมมนา Carbon Accounting: Observation from Space เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการลด ภาวะโลกร้อน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 

 

 

โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวปาฐกถาพิเศษ "นโยบายและการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไทยเพื่อบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero GHG Emission ว่า ปัญหาโลกร้อนถือว่าเป็นปัญหากับประเทศไทยเช่นกัน ปลายประเทศได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา รวมทั้งมีการตั้งคำถามต่อนักการเมืองว่าจะแก้ไขปัญหาไคเมทเชนอย่างไร โดยปัญหาโลกร้อนถูกกำหนดให้เป็นความเสี่ยงของโลก

โดยข้อมูลจาก คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ipcc)ระบุว่า หากในปี 2100 อุณหภูมิโลกเกิน1.5 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดควาเมสี่ยงนำเท่วม 100% น้ำทะเลจะสูงขึ้นกว่า 48 ซม. สำหรับระเทศไทยหากน้ำทะเลสูงขึ้นเกือบ 50 ซม.จะทำให้น้ำทะเลสูงไปจนถึง จ.สระบุรี เมื่อเกิการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศจะส่งผลความหลากหลายทางชีวภาพจะหายไปส่งผลให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Loss) 

 

 

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ประเทศไทยปล่อยเรือนกระจกเป็นอันดับที่ 19 ของโลก แต่ในทางกลับกับไทยโดนผลกระทบทางธรรมชาติอันกับที่ 9 ของโลก  2654 ที่กลาสโกวได้แสดงเจตจำนงประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral)ในปี 2050 และจะเป็นประเทศ Net Zero GHG 2065 

คาร์บอนเครดิต

 

ด้านแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยมีอยู่หลานด้าน ไม่วาจะเป็นเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนให้ได้ 50 % ในปี 2050  การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)ด้วยการสนับสนุนด้านภาษีของภาครัฐ ส่งเสริมการใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก การปรับเปลี่ยนสารทำความเย็น CCUS ในอุตสาหกรรมซีเมนต์ การจัดการขยะและน้ำเสยในชุมชน รวมถึงน้ำเสียในอุตสาหกรรม ลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากภาคเกษตรกรรม ส่งเสริมก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์  รวมไปถึงการแนวทางการทำ "คาร์บอนเครดิต" ที่จะช่วยชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศได้ 

 

การวัดปริมาณ "คาร์บอนเครดิต" ในต้นไม้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากหากต้องใช้กำลังคนในการเข้าไปดำเนินการ ดังนั้น GISTDA จึงได้มีการคิดค้นและนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยในการวัดปริมาณ "คาร์บอนเครดิต"    

 

โดยดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์  ผู้อำนวยการ GISTDA ในฐานะประธานคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลก (CEOS) กล่าวว่า GISTDA เห็นความสำคัญด้านความก้าวหน้าในการใช้เทคโนโลยีจากดาวเทียมเพื่อการสำรวจการกักเก็บปริมาณ คาร์บอน ในพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร และพื้นที่อื่นๆ เพื่อแสดงให้เห็นวิธีการที่เป็นมาตรฐานในการกักเก็บ คาร์บอน และเป็นการแสดงความพร้อมของประเทศไทย ที่จะใช้เทคโนโลยีอวกาศ เพื่อจัดการคาร์บอนเครดิต ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนและประเทศ

 

ในความเป็นจริง การสำรวจพื้นที่ภาคสนามไม่สามารถใช้แรงงานคนวัดต้นไม้ได้ทุกต้น ดังนั้น การนำเทคโนโลยีจากดาวเทียมและข้อมูลภูมิสารสนเทศเข้ามาสนับสนุน จะทำให้สามารถจำแนกประเภทป่าไม้ และประเมินความหนาแน่นชั้นเรือนยอดต้นไม้จากแบบจำลองเชิงพื้นที่ เพื่อประเมินปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่า ได้อย่างถูกต้องเพียงพอกับการใช้งาน ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ อีกทั้งยังประหยัดเวลา แรงงานคนที่ต้องใช้ในการสำรวจภาคสนามและลดความผิดพลาดจากการสำรวจ 

 

ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจและวิเคราะห์เหล่านี้จะถูกรวบรวมเพื่อนำไปสู่การจัดทำบัญชีคาร์บอนให้กับประเทศไทยเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศได้แก่ หน่วยงานด้านพลังงาน หน่วยงานภาคกระบวนการอุตสาหกรรม หน่วยงานด้านการจัดการของเสีย หน่วยงานด้านการเกษตร หน่วยงานด้านป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน เป็นต้น ต่อไป

 

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์  ผู้อำนวยการ GISTDA

 

ดร.ปกรณ์  กล่าวอีกว่า จากการประชุม CEOS Plenary 2022 ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลก หรือ CEOS ที่มีหน่วยงานด้านอวกาศระดับโลกเข้าร่วมที่สาธารณรัฐฝรั่งเศส เมื่อปลายปีที่ผ่านมา GISTDA ในฐานะประธานคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลกปี 2023 หรือ CEOS Chair 2023 ได้มอบนโยบายผลักดันประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการลดการปลดปล่อย คาร์บอน เพื่อลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โดยนำข้อมูลจากดาวเทียมและเทคนิคที่เกี่ยวข้องมาใช้เป็นเครื่องมือในการสำรวจและตรวจวัดการกักเก็บคาร์บอน เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์ แก้ปัญหาเพื่อนำไปสู่การบรรเทาปัญหาโลกร้อน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ UNFCCC

 

ปัจจุบัน หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญและใช้เทคโนโลยีจากดาวเทียมเพื่อสำรวจการกักเก็บคาร์บอนมานานแล้ว และมีการปรับปรุงพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ ให้มีมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง การจัดทำบัญชีคาร์บอนให้กับประเทศไทย ถือเป็นความท้าทายไปอีกขั้นของพวกเราในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศเพื่อการเฝ้าระวังและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับโลกใบนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและระบบเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

 

 

ด้าน นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (ผอ.TGO) กล่าวว่า การประเมิน "คาร์บอนเครดิต"  Carbon Credit ภาคป่าไม้ ในปัจจุบัน TGO ได้เปิดเป็นทางเลือกให้สามารถนำเอาเทคโนโลยีขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับดาวเทียมหลาย ๆ แบบ มาร่วมใช้ประเมินเนื้อไม้ที่เพิ่ม เปรียบเทียบกับ Baseline เดิมได้อย่างถูกต้องแม่นยำและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ขนาดใหญ่และมีรูปแบบของต้นไม้ใกล้เคียงกัน ที่สำคัญก่อนที่มีการเสนอใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อใช้ในการประเมินมีความจำเป็นที่ต้องสอบเทียบความถูกต้องกับวิธีมาตรฐานกลางตามวิธีการคำนวณตามมาตรฐานประเมิน "คาร์บอนเครดิต" Carbon Credit โดยใช้จำนวนตัวอย่างที่น่าเชื่อถือ และผ่านการเห็นชอบตามขั้นตอนที่กำหนดด้วย

 

ลดคาร์บอน