วันนี้ในอดีต

วันนี้ในอดีต ‘อานันท์ ปันยารชุน'เป็น นายกฯสมัยที่สอง

วันนี้ในอดีต ‘อานันท์ ปันยารชุน'เป็น นายกฯสมัยที่สอง

10 มิ.ย. 2560

วันนี้ในอดีต10 มิ.ย. 2535 ‘อานันท์ ปันยารชุน’ขึ้นเป็นนายกฯสมัยที่สองหลังจาก‘อาทิตย์ อุไรรัตน์’หัก‘ พรรคร่วมเสียงข้างมาก’ ที่สนับสนุนให้‘สมบุญ ระหงษ์ ’เป็นนายกฯ

         วันนี้ในอดีต เมื่อ 25 ปีที่แล้ว 10 มิ.ย.2535 ‘อานันท์ ปันยารชุน’  ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่สอง สืบเนื่องมาจากภายหลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ‘พฤษภาทมิฬ’ ระหว่าง 17-24 พ.ค.2535 ทำให้พล.อ สุจินดา คราประยูร ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ฝ่ายพรรคร่วมเสียงข้างมากได้ร่วมกันสนับสนุนให้ พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ หัวหน้าพรรคชาติไทย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่แล้วนายอาทิตย์ อุไรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น ซึ่งจะต้องเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ได้ตัดสินใจเสนอชื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน ขึ้นทูลเกล้าฯ แทนที่จะเป็น พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์

          นายอานันท์ ปันยารชุน จึงได้รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองในวันที่ 10 มิ.ย. 2535 และได้จัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยรัฐมนตรีส่วนใหญ่ เป็นรัฐมนตรีที่เคยดำรงตำแหน่งมาก่อนในสมัยที่นายอานันท์ เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก

          นายอานันท์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองในวันที่ 23  ก.ย. 2535 ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13  ก.ย. 2535 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด และนายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

         สำหรับนายอานันท์ เกิดเมื่อ 9ส.ค.2475 ปัจจุบันอายุ 85 ปี  จบปริญญาตรีด้านกฎหมาย (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

         หลังจบการศึกษา ‘ อานันท์’ เข้ารับราชการที่กระทรวงการต่างประเทศ และได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติ จากนั้นย้ายไปเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศแคนาดา ,สหรัฐอเมริกา และเป็นผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทย ประจำสหประชาชาติ

         ในปี 2518 ‘อานันท์’ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เดินทางไปเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จะเดินทางไปสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา

         ในปี  2519 นายอานันท์ ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนจะถูกสั่งพักราชการในปี 2520 เนื่องจากถูกกล่าวหาโดยรัฐบาลของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ว่ามีแนวคิดฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ จากนั้นถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศเยอรมนี ก่อนจะลาออกจากราชการในปี 2522

          นายอานันท์ หันมาทำงานด้านธุรกิจ ร่วมงานกับกลุ่มบริษัทสหยูเนี่ยน จนกระทั่งได้เป็นประธานกรรมการกลุ่มบริษัทสหยูเนี่ยนเมื่อปี  2534 และยังเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

         นายอานันท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก เมื่อ 2 มี.ค. 2534 ภายหลังคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาล พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ  เมื่อ 23 ก.พ.2534  ซึ่งหลังการทำรัฐประหารสำเร็จ คณะ รสช. ก็เสนอให้นายอานันท์  เป็นนายกรัฐมนตรี

        การบริหารประเทศของนายอานันท์ ได้ประกาศเน้นเรื่อง “ความโปร่งใส” นอกจากนั้นยังดำเนินนโยบายเป็นเอกเทศ ไม่ยอมอยู่ใต้คำสั่งของคณะรสช. ทำให้รัฐบาลได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชน และได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ จนได้รับฉายาว่า “รัฐบาลโปร่งใส” และตัวนายอานันท์เองได้รับฉายาว่า “ผู้ดีรัตนโกสินทร์”

       นายอานันท์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 22 มีนาคม ปี 2535