27 กุมภาพันธ์ 2557 "รู้สึกเสียใจและเสียดาย"
ต้องบอกว่าฉุนขาด!!! และถือว่าเป็นการออกมาตำหนิฝ่ายตรงข้ามอย่างร้อนแรงของ นพดล ปัทมะ อีกครั้งหนึ่ง
วันนี้เมื่อ 4 ปีก่อน ข่าวหน้า 1 พาดหัวเรื่องราวเดียวกัน โดยเป็นข่าวที่แกนนำ กปปส. นางทยา และ นาย ณัฐพล ทีปสุวรรณ พาพวกเข้าไปรุมเป่านกหวีดใส่ คุณหญิง พจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะกำลังเดินออกจากศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น 1 วัน คือ ช่วงค่ำของวันที่ 26 ก.พ.2557 แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามหน้าข่าวสารยังคงต่อเนื่องมาจนถึงวันรุ่งขึ้นไม่จบ
โดยเฉพาะ "นพดล ปัทมะ" ที่ปรึกษากฎหมายของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อดรนทนไม่ได้ ลุกขึ้นมาปกป้อง โดยกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นการข่มขู่ คุกคาม และละเมิดสิทธิของคุณหญิงพจมาน ผิดกฎหมาย ความจริงคุณหญิงท่านไม่ชอบการเมืองและไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อีกทั้งได้หย่ากับพ.ต.ท.ทักษิณมาหลายปีแล้ว ท่านใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเหมือนคนปกติ
“การที่ นางทยา และนายณัฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำกปปส. พาพวกไปรุมเป่านกหวีดใส่คุณหญิงในขณะที่ท่านไปทำธุระส่วนตัวนั้น ผมรู้สึกเสียใจและสมเพชในการกระทำดังกล่าว น่าเสียดายที่ทั้ง 2 คนก็มีพ่อแม่ที่เป็นคนชั้นสูง เป็นเจ้าของโรงเรียน และได้ไปเรียนถึงต่างประเทศ การศึกษาน่าจะช่วยให้ทั้ง 2 คนมีความคิดมากกว่านี้"
นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า การเป่านกหวีดถือว่าเป็นการทำร้ายบุคคลอื่น ละเมิดสิทธิ และเป็นการข่มขู่คุกคามฝ่ายตรงข้าม ทำให้สังคมเกิดความเกลียดชังและแตกแยกกันมากขึ้น
“อยากถามนางทยา และนายณัฐพลว่า ถ้าพ่อแม่คุณถูกเป่านกหวีดและถูกคุกคามบ้างคุณจะรู้สึกเช่นไร ขอเรียกร้องให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เรียกทั้ง 2 คนมาตักเตือนและยุติการคุกคามบุคคลอื่น เพราะจะทำให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยกมากไปกว่านี้”
“อย่าลืมว่าคนเรามีทั้งคนรักและคนชังเป็นเรื่องปกติ คนรักคุณหญิงพจมานมีจำนวนมากกว่าคนในระบอบอำมาตย์ทั้งหมดรวมกันด้วยซ้ำ กปปส.จะทำให้บ้านเมืองแตกแยกมากขึ้นไปเรื่อยๆ หรือจะอยู่กับบ้านเมืองที่แม้คนกลุ่มต่างๆ ไม่รักกัน แต่ต้องยึดมั่นในกฎหมายและเคารพสิทธิซึ่งกันและกันในการที่จะใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ ไม่ไปข่มขู่คุกคามบุคคลอื่น เพราะฝ่ายประชาธิปไตยและคนเสื้อแดงก็มีเงินที่จะซื้อสิ่งของมากกว่านกหวีดมาเป่า แต่เขาไม่ทำ เพราะเขายังไม่สิ้นคิด”
ก็ถือว่าเป็นการออกมาตำหนิฝ่ายตรงข้ามอย่างร้อนแรง และฉุนขาด!! ของ นพดล ปัทมะ อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้หลังเกิดเหตุ นางทยา ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Taya Teepsuwan ถึงการกระทำครั้งนั้นว่า
“ขอยืนยันอีกครั้ง “การเป่านกหวีด” ไม่ใช่ความรุนแรง เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวทางอารยะขัดขืน (social sanction) เทียบไม่ได้เลยกับการเผาบ้านเผาเมือง, การแสดงความดีอกดีใจเมื่อมีผู้เสียชีวิต, การส่งสรรพากรไปตามเช็กภาษี หรือ กีดกันดารานักร้องที่ออกมาแสดงจุดยืนไม่ให้เล่นคอนเสิร์ต, การไปเผาโลงศพหน้าศาล, การเรียกร้องให้คน เอาปืน 10 ล้านกระบอก มาใช้ ขอย้ำว่า เรายังยึดมั่นในแนวทางต่อสู้อย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง อาวุธเพียง 2 ชิ้นที่มี คือ นกหวีด และเท้า ที่ไว้เป่าและเดินเท่านั้น”
รุนแรงไม่รุนแรง ขอให้ตัดสินกันเองจากคลิปนี้
อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาหลังจากนั้น มีกระแสการโจมตีฝั่งผู้เป่านกหวีดออกมามากมาย
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ ที่เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 255 มีรายงานว่า หลังเที่ยงคืนเกิดเหตุคนร้ายปาไปป์บอมบ์เข้าไปยังบ้านพักของ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ หนึ่งในแกนนำ กปปส. สามีของนางทยา ที่ร่วมเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมานด้วยกัน
เขาระบุว่า โชคดีระเบิดไม่ทำงาน และยังบอกว่า เชื่อเป็นพลพวงจากการเป่านกหวีดไล่คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ห้างเอ็มโพเรียม เมื่อวันที่ 26 ก.พ.
“คงเป็นผลพวงของ “นกหวีดกรีดหัวใจ” นี่คือเหตุผลหนึ่งว่าทำไมถึงต้องเป่า พวกผมแตกต่างจากพวกคุณ และที่แน่ๆ ไม่กลัว ไม่หนี ไม่ถอย ไม่เหมือนนายคุณ และไม่รุนแรงแน่นอนครับ”
แต่แล้ว ในที่สุดหลังจากนั้นราววันที่ 7 มี.ค. 2557 นางทยา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “เว้นวรรคทางการเมือง”
มีเนื้อหาระบุว่า “จากเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ที่บ้านเขาใหญ่ของคุณแม่ด้วยอาวุธสงคราม ที่พัก และการคุกคามที่โรงเรียนศรีวิกรม์ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการกระทำของดิฉัน ดิฉันเสียใจต่อผู้ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมดและมีความกังวลต่อความปลอดภัยของบุคคลรอบข้างเป็นอย่างมาก"
"หลังจากที่ได้ใช้เวลาทบทวนทุกอย่างแล้ว จึงขอตัดสินใจที่จะแสดงความรับผิดชอบด้วยการเว้นวรรคที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการปกป้องคุณแม่และบุคคลรอบข้าง โดยเฉพาะเด็กนักเรียนจากอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้”
“ขอขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ เป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดที่สุด แต่ชีวิตไม่ได้เป็นของเราคนเดียว หากคุณแม่และเด็กที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกทำร้าย เพราะเราเป็นต้นเหตุ เราคงให้อภัยตัวเองไม่ได้”
และยังให้สัมภาษณ์สื่อว่า จากนี้ไปคงจะขอยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองลงชั่วคราว ส่วนตนนั้นจะไม่เข้าร่วมการชุมนุมอีก เมื่อถามว่ารู้สึกเสียดายหรือไม่ที่ร่วมต่อสู้กับ กปปส.มาตั้งแต่ต้น และต้องมายุติกลางคันนั้น นางทยา กล่าวว่า ไม่เสียดาย เพราะยังมีคนอื่นๆ ร่วมต่อสู้กับ กปปส.อีกมากมาย
////////
ขอบคุณคลิปจาก anon asianleak